ยาฮอร์โมนเพศชาย เสริมฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนเพศชายสูง
มหัศจรรย์แห่งฮอร์โมน
ฮอร์โมนทั้งเพศชายและเพศหญิงที่มีอยู่ในตัวเรานั้นมีส่วนสำคัญต่อการใช้ชีวิตของแต่ละคนเป็นอย่างยิ่งหลากหลายกิจกรรมในชีวิตประจำวันล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลมาจากฮอร์โมนเพศในตัวเรานั่นเองลองมาทำความรู้จักฮอร์โมนเพศในตัวเรากันเถอะ
หญิงและชายถูกกำหนดให้มีความแตกต่างกันทางสรีระ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของต่อมในสมองที่เรียกว่า พิทูอิทารี ที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างฮอร์โมนในการกำหนดความแตกต่างของกระบวนการทำงานในร่างกายของทั้งหญิงและชาย นอกจากนี้ฮอร์โมนเพศยังมีผลต่อการกำหนดภาวะอารมณ์ของผู้หญิงและผู้ชายให้แตกต่างกันอีกด้วย
อิทธิพลของฮอร์โมนเพศ
โดยธรรมชาติแล้ว ไม่ว่าหญิงหรือชายต่างก็มีฮอร์โมนของทั้งสองเพศอยู่ในร่างกาย ซึ่งบทบาทของฮอร์โมนเพศนี่เองที่จะทำหน้าที่ขับเน้นให้เกิดความแตกต่างของแต่ละเพศอย่างเด่นชัด โดยฮอร์โมนเพศถูกสร้างขึ้นในต่อมไร้ท่อที่เรียกว่า ต่อมโกแนด ซึ่งฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของเพศหญิงเรียกว่าเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน มีหน้าที่ทำให้ผู้หญิงพัฒนาจากเด็กไปสู่วัยสาว ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะทำให้เต้านมขยาย สะโพกผายขึ้น น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล มีลีลา อ่อนไหวมากขึ้น และที่สำคัญคือการมีประจำเดือน ส่วนฮอร์โมนที่กำหนดความเป็นชายคือกลุ่มฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งทำหน้าที่สร้างความเป็นชายนับตั้งแต่ปฏิสนธิ ส่วนใหญ่ได้แก่ เทสโทสเตอโรน ทำให้เด็กชายที่กำลังเข้าสู่วัยหนุ่มมีเสียงห้าวขึ้น เริ่มมีหนวด บางรายมีลักษณะทางพันธุกรรมเด่นชัด เช่น ศีรษะล้าน นอกจากนี้ยังส่งผลต่อภาวะอารมณ์ของทั้งสองเพศด้วย ผู้ชายเริ่มมองสาวๆด้วยความรู้สึกแปลกๆ และผู้หญิงก็มองชายหนุ่มด้วยความรู้สึกตื่นเต้น แปลกใหม่เช่นเดียวกัน
เรื่องน่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศก็คือ ในผู้ชายที่มีฮอร์โมนเพศหญิงมากกว่าปกติจะส่งผลให้มีนิสัยบางอย่างคล้ายไปทางผู้หญิงได้ เช่น เรียบร้อย ไม่ชอบความรุนแรง รวมทั้งมีรสนิยมชื่นชอบเพศเดียวกันบางคนก็เป็นผลมาจากความผิดปกติของระดับฮอร์โมนเพศในร่างกายตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อนในครรภ์ จนกระทั่งเติบโตถึงวัยเจริญพันธุ์จึงจะเห็นเด่นชัด ผู้ชายบางคนจึงมีผิวพรรณผุดผ่อง นุ่มนวล แต่ถึงแม้ว่าฮอร์โมนจะมีอิทธิพลต่อสรีระและพฤติกรรมแค่ไหนก็ตาม สภาพความเป็นอยู่ในครอบครัว การอบรมเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน สำหรับผู้หญิงที่มีปริมาณฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมากว่าปกติมาตั้งแต่เกิดจะส่งผลให้มีลักษณะท่าทางคล้ายผู้ชาย เช่น มีขนยาวและดก เสียงแหบห้าว และมีเรี่ยวแรงมากกว่าผู้หญิงทั่วไป เป็นต้น
เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนสำคัญอย่างไร
เอสโตรเจนเป็นกลุ่มฮอร์โมนที่ทำหน้าที่สร้างลักษณะทางเพศของผู้หญิง ช่วยเสริมสร้างเซลล์ให้เจริญเติบโต ซ่อมแซมระบบสืบพันธุ์ รักษาสภาพผนังช่องคลอด ควบคุมเมือกในช่องคลอด เพื่อป้องกันการอักเสบ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างหน้าอก ทำให้เต้านมเต่งตึง สะโพกผาย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รวมทั้งป้องกันไม่ให้กระดูกผุ และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย ส่วนปริมาณสารหล่อลื่นในผู้หญิงนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับฮอร์โมนเอสโตนเจนด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พบว่าผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนมีการหล่อลื่นไม่ค่อยดี
หน้าที่หลักอีกอย่างหนึ่งของฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงคือ ทำให้ไข่ในรังไข่เจริญเติบโต พร้อมกับเสริมสร้างเยื่อบุมดลูกให้หนาขึ้นด้วย ระดับฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเดือนจะส่งผลให้อารมณ์ของผู้หญิงเปลี่ยนแปลงไป เช่น ในช่วงตกไข่จะมีพละกำลังและอารมณ์เซ็กซี่มากขึ้น เนื่องจากโปรเจสเตอโรนทำหน้าที่เตรียมมดลูกเพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัว ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์โปรเจสเตอโรนก็จะค่อยๆลดปริมาณลง นอกจากช่วยเตรียมร่างกายให้พร้อมในการตั้งครรภ์แล้ว ยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อมดลูกคลายตัว เพื่อป้องกันการตกไข่ ตลอดจนกระตุ้นการเจริญของเซลล์หลั่งน้ำนมในหน้าอกอีกด้วย
เมื่อระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปในช่วงเข้าสู่วัยทอง อาการที่มักเกิดขึ้นคือรู้สึกร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน หรือหนาวสั่น ตื่นบ่อยๆความชื้นในช่องคลอดลดลงทำให้ติดเชื้อง่าย หมดความสนใจเรื่องเพศสัมพันธ์ อารมณ์แปรปรวน ปัสสาวะเล็ด หน้าอกหย่อนยาน ผิวหนังแห้ง ภาวะความผิดปกติเหล่านี้จะเกิดแตกต่างกันไปในผู้หญิงแต่ละคน
บทบาทของเทสโทสเตอโรน
ผู้ชายแต่ละวัยจะมีการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่แตกต่างกันไป วัยหนุ่มจะผลิตได้มากกว่า ฮอร์โมนนี้จะส่งผลให้ผู้ชายมีนิสัยชอบเอาชนะและชอบการแข่งขัน เว้นแม้แต่เรื่องความรักและความสัมพันธ์ นอกจากนี้ในบางช่วงฮอร์โมนชนิดนี้ยังส่งผลให้ผู้ชายรู้สึกเครียด วิตกกังวล จนรู้สึกหดหู่มากกว่าปกติและในชายหนุ่มบางรายที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนชนิดนี้ไม่เพียงพอ จะมีอาการเหนื่อยล้าเรื้อรังตลอดจนส่งผลถึงความสามารถในการมีเพศสัมพันธ์ลดลงได้
เทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขึ้นในตอนกลางคืน ช่วงที่กำลังนอนหลับสนิท นอกจากนี้แล้วการกินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีในปริมาณที่เพียงพอ คือวันละ 15-25 มิลลิกรัม จะช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพศชายได้อย่างดี เมื่อมีปริมาณฮอร์โมนเพศชายมากพอก็จะช่วยกระตุ้นการสร้างอสุจิได้โดยอัตโนมัติ โดยธาตุสังกะสีจะพบมากในอาหารทะเล เช่น กุ้ง ปลา และหอย รวมทั้งตับ เนื้อวัว ผักสีเขียวเข้ม และผลไม้ เช่น แตงโม เมล็ดทานตะวัน ยิ่งถ้าได้รับวิตามินจำพวกเบต้าแคโรทีน ซึ่งพบมากในแครอท แคนตาลูป ส้ม มะเขือเทศ มะละกอสุก มะม่วงสุก และฟักทอง จะช่วยเสริมสร้างกันได้ดียิ่งขึ้น การออกกำลังกายสม่ำเสมอก็จะช่วยให้มีการผลิตฮอร์โมนในปริมาณที่เพียงพอได้เช่นกัน
การใช้ฮอร์โมนทดแทน
วัตถุดิบหลักที่ร่างกายนำมาใช้ในการสร้างฮอร์โมนเพศทั้งฮอร์โมนเพศหญิง และเพศชายก็คือ คอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นไขมันที่จำเป็นของร่างกาย ในผู้หญิงที่ผ่าตัดรังไข่ และย่างเข้าสู่วัยทอง หรือวัยหลังหมดประจำเดือน คอเลสเตอรอลจะไม่ถูกนำใช้ในการสร้างฮอร์โมรเอสโตรเจน จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงกลุ่มนี้มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น เฉลี่ยปีละ 10 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรและมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้มากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนนอกจากจะส่งผลโดยตรงต่อสรีระทางการสืบพันธุ์ของผู้หญิงหลายอย่างแล้ว ยังมีผลต่อการสะสมน้ำและเกลือแร่ในร่างกายด้วย โดยเกลือแร่ที่มีแคลเซี่ยม และฟอสฟอรัสเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูกและน้ำจะถูกขับออกจากร่างกายได้มากกว่า ดังนั้นการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงเป็นสาเหตุหลักของโรคกระดูกพรุน
ปีค.ศ. 2002 มีการค้นพบฮอร์โมนที่สามารถใช้ทดแทนฮอร์โมนเอสโตนเจนได้อย่างปลอดภัยกว่าซึ่งเรียกกันว่าดีไฮโดรอีพิแอนโดรสเตอโรน ( Dehydroepiandrosterone ) หรือ DHEA ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้ร่างกายจะผลิตขึ้นได้เองในต่อมหมวกไต
ฮอร์โมน DHEA เมื่ออยู่ในร่างกายจะสามารถเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเพศชาย และฮอร์โมนเพศหญิงได้ และจะเป็นฮอร์โมนเพศที่สร้างขึ้นทดแทนฮอร์โมนเพศในระบบหมุนเวียนเลือดที่ขาดหายไปทั้งในผู้หญิงและผู้ชายวัยทอง หรือผู้ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการเสริมฮอร์โมน ซึ่งจะสามารถช่วยให้ฟื้นคืนความตื่นตัวทางเพศได้อีกด้วย
ส่วนการกินยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนชนิดที่แพร่หลายที่สุด ซึ่งเป็นยาเม็ดรวมที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในรูปสารสังเคราะห์โดยจะมีผลป้องกันการตกไข่ และโปรเจสเตอโรนยังเปลี่ยนเยื่อบุชั้นในของมดลูก ทำให้มูกที่ปากมดลูกหนืดขึ้น โอกาสที่อสุจิจะผ่านเข้าไปได้จึงยากขึ้น ยาเม็ดรวมนี้ประกอบด้วยฮอร์โมนทั้งสองชนิดในระดับต่างๆกัน ดังนั้นจึงควรกินยาตามลำดับวันที่มีระดับฮอร์โมนที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีทั้งกินชนิดในรอบ 21 วัน และ 28 วัน โดยชนิด 28 วัน จะมียาอยู่ 7 เม็ดที่ไม่มีฮอร์โมน แต่ใช้เพื่อให้กินยาทุกวัน จะได้ไม่ลืมกินยานั่นเอง ข้อดีของการกินยานี้คือใช้สะดวก เชื่อถือได้ และให้ผลต่อเนื่อง อาจทำให้มีรอบเดือนน้อยลงและช่วยลดอาการข้างเคียงที่เกิดในช่วงก่อนมีรอบเดือนได้ ส่วนข้อเสียคืออาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ อารมณ์เปลี่ยนแปลง และมีอาการปวดหัวข้างเดียวหรือคลื่นไส้อาเจียนได้ สำหรับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างเดียว จะช่วยป้องกันการฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้วที่เยื่อบุมดลูก แต่ไม่ได้ป้องกันการตกไข่ ข้อดีคือเหมาะกับผู้หญิงที่มีอาการข้างเคียงจากการใช้ยาเม็ดฮอร์โมนรวม หรืออยู่ระหว่างให้นมลูก แต่การกินยาชนิดนี้ต้องกินในเวลาเดียวกันและติดต่อกันทุกวันโดยไม่มีช่วงหยุดยา
การกินฮอร์โมนเพศหญิงชนิดที่เรียกว่าโปรเจสเตอโรน หรือยาเลื่อนประจำเดือน ซึ่งชนิดที่นิยมคือ Primalut-N และ Provera จะมีผลให้ประจำเดือนที่มาเมื่อถึงกำหนดเลื่อนออกไป โดยเริ่มกินก่อนวันที่คาดว่าจะมีประจำเดือน 3 วัน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง และสามารถกินต่อเนื่องได้นานถึง 10 วัน ระหว่างกินยาอยู่ประจำเดือนจะไม่มา แต่เมื่อหยุดยาแล้วไม่นานประจำเดือนจะมาเอง ระหว่างที่กินฮอร์โมนนี้ บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนบ้าง แต่ก็ไม่จัดว่าผิดปกติ ส่วนผู้ที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดหรือบำบัดด้วยการเสริมฮอร์โมน ควรกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีวิตามินบี 6 บี 12 กรดโฟลิก และสังกะสี จะช่วยปรับสมดุลในร่างกายได้ดีขึ้น
แหล่งที่มา : neutron.rmutphysics.com