โรคไซนัสมีอาการอย่างไร อาการเริ่มแรกของไซนัส อาการไซนัสอักเสบเกิดจาก
โรคหวัด โรคภูมิแพ้ หรือไซนัสอักเสบ เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจมีอาการหลายอย่างคล้ายกัน เช่น มีน้ำมูก คัดจมูก จาม ปวดแก้ม บางครั้งเป็นกันระยะสั้น บางครั้งเป็นกันตลอดปี ซึ่งบางคนอาจแยกไม่ถูกว่าอาการที่ตัวเองเป็นนั้นคือโรคอะไรกันแน่ เมื่อแยกไม่ถูกก็อาจนำไปสู่การรักษาตัวเองที่ผิดวิธี อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ยิ่งเป็นยิ่งสับสนทำให้คุณภาพชีวิตประจำวันต่ำลงได้ บางคนถึงกับกลัวสังคมรังเกียจ
ในต่างประเทศ เช่น ในสหรัฐอเมริกามีคนเป็นโรคนี้ราว 31 ล้านคน (กันยายน 2546) และมีประชาชนไปพบแพทย์ในเรื่องไซนัสอักเสบเรื้อรังราว 18 - 22 ล้านคน
ในแต่ละปี บ้านเราก็มีจำนวนไม่น้อย สถิติขึ้นตามจำนวนของโรคภูมิแพ้ซึ่งในกรุงโรคแพ้อากาศสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ (พ.ศ.2538)
เฉลี่ยผู้มารับการรักษาโรคไซนัสในคลินิกหู คอ จมูก 4 - 5 คนใน 10 คนต่อวัน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการรักษา ต้องหยุดทำงาน เสียอารมณ์ ทำให้สูญเสียทางเศรษฐกิจไม่น้อยต่อปี ดังนั้น เราต้องมาทำความรู้จักกับโรคไซนัสอักเสบกันหน่อย
ความจริงแล้วชื่อไซนัสอักเสบ (Sinusitis) ไม่ถูกต้องซะที่เดียว จริงๆควรเป็นเยื่อบุจมูกและโพรงอากาศรอบๆจมูกอักเสบ คือ Rhinosinusitis อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นไปตามความเคยชินเรายังคงเรียกว่าไซนัสอักเสบ (Sinusitis)เฉยๆไปก่อน
4ไซนัสคืออะไร
ไซนัส (Sinusitis) เป็นโพรงอากาศในกระดูกใบหน้าอยู่บริเวณรอบๆ จมูก ในโพรงอากาศ หรือไซนัสนี้ จะมีเยื่อบุซึ่งเป็นชนิดเดียวกับเยื่อบุช่องจมูกและติดต่อกันโดยผ่านรูเปิดเล็กๆ (รูปที่ 1, 2) มี 4 คู่ ได้แก่
1. ไซนัสบริเวณโหนกแก้ม 2 ข้าง (Maxillary sinus)
2. ไซนัสระหว่างลูกตาบริเวณหัวตา 2 ข้าง (ethmotd sinus)
3. ไซนัสบริเวณหน้าผากใกล้กับคิ้ว 2 ข้าง (frontal sinus)
4. ไซนัสที่อยู่ในกะโหลกศีรษะใกล้ฐานสมอง (sphenoid sinus)
4ไซนัสมีหน้าที่อะไร
เนื่องจากไซนัสเป็นโพรงอากาศ ดังนั้น จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ศีรษะของเราเบาขึ้น เวลาพูดมีเสียงก้องกังวานขึ้น และขณะเดียวกันเยื่อบุของไซนัสและจมูกจะผลิตน้ำมูกเมือกใส ๆ ประมาณวันละ 0.5 - 1 ลิตร เพื่อดักจับฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ในอากาศ ที่เราหายใจเข้าไป ขณะเดียวกับบนเยื่อบุเหล่านี้จะมีขนาดเล็ก (cilia) ที่คอยพัดโบกเอาน้ำมูกเหล่านี้ลงไปทางด้านหลังของจมูก สู่ช่องคอและเมื่อพลัดลงคอเราก็จะกลืนลงไปจากนั้นกรดในกระเพาะก็จะทำหน้าที่ฆ่าเชื่อโรคต่างๆให้หมดไป
นอกจากนั้นไซนัสยังทำหน้าที่คล้ายเป็นเครื่องปรับอากาศของปอดนั่นคือ เมื่อเราหายใจเข้าไปอากาศก็ผ่านบริเวณจมูกที่มีเยื่อบุต่อกับเยื่อบุไซนัสปกติเหล่านี้ ซึ่งจะชวยถ่ายเทความร้อนและความชื้นจากหลอดเลือดบนเยื่อบุ ทำให้อากาศอุ่นและชื้นขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับร่างกายของคนเรา การไหลของน้ำมูกลงคอนี้เราจะไม่รู้สึกอะไรจนกว่าจำนวนที่ผลิตได้มากเกินไปซึ่งจะเกิดจากการระคายเคืองจากสารก่อภูมิแพ้ ควันบุหรี่ มลภาวะอากาศเป็นพิษ สารเคมี ควันรถยนต์หรือมีการติดเชื้อไวรัส เช่น เชื่อหวัดสิ่งเหล่านี้จะทำให้เยื่อบุจมูกและไซนัสผลิตน้ำมูกใสๆ ออกมาเพิ่มมากกว่าปริมาณปกติ เพื่อชะล้างสิ่งที่ระคายเคืองกลายเป็นเสมหะโหลลงคอ (Post nasal drip) และถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacteria) จะทำให้น้ำมูกใสเปลี่ยนสภาพเป็นสีเขียวข้นหรือเหลืองได้
4สาเหตุที่ทำให้ไซนัสอักเสบ
ตามปกติไซนัสหรือโพรงอากาศทั้งหลายจะมีทางเชื่อมต่อกับโพรงจมูก ซึ่งทางเชื่อมต่อนี้จะเปิดโล่งและน้ำเมือก (น้ำมูกใส ๆ) ที่มีกาสร้างอยู่ในไซนัสก็สามารถไหลระบายลงสู่โพรงจมูกได้ แต่ถ้าหากทางเชื่อมดังกล่าวเกิดการอุดกั้นขึ้นมาด้วยสาเหตุใดก็ตามแต่ส่วนใหญ่คนเราเมื่อหายใจไม่สะดวก มีน้ำมูกอยู่ในจมูกก็มักชอบสูดจมูก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้ ทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในจมูกเข้าไปในโพรงอากาศของไซนัสทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น
ขณะเดียวกันเมื่อมีการอักเสบของเยื้อบุจมูกทำให้รูที่ติดต่อระหว่างโพรงอากาศกับจมูกตันขึ้น น้ำมูกที่ผลิตในไซนัสไม่สามารถออกมาได้ ก็ทำให้เรามีอาการปวดบริเวณหน้าผากหัวคิ้ว ระหว่างตาทั้งสองข้างหรือบริเวณแก้มได้ ทั้งหมดนี้เป็นอาการปวดจากไซนัสอักเสบ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเพียงพอ รูเปิดระหว่างช่องจมูกและไซนัสมีการตีบตันเป็นมานานจนเรื้อรัว การบวมของเยื่อบุอาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นริดสีดวงจมูกและ / หรือมีการอักเสบติดเชื้อเป็นหนองในไซนัสได้
คนที่มีอาการจากภูมิแพ้ที่มีอาการจาม คัดแน่นจมูก และคันจมูกเป็นประจำ มักจะทำให้ทางเชื่อมระหว่างไซนัสกับโพรงจมูกมีอาการบวมและเกิดการอุดตัน นำไปสู่การเป็นสาเหตุอันหนึ่งที่จะเป็นโรคไซนัสอักเสบได้ จึงพูดได้ว่าทั้งโรคภูมิแพ้และไซนัสอักเสบเป็นโรคที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากเนื้องอกในจมูกหรือผนังกั้นกลางของจมูกคต หรือมีการเปลี่ยนแปลงความดันบรรยากาศภายนอกร่างกายทำให้มีการอุดกั้นของทางเชื่อมระหว่างไซนัสกับโพรงจมูกได้ และการที่มีอารมณ์แปรปรวน มีความเครียดสูง ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลงก็จะทำให้เกิดโรคไซนัสอักเสบดังวงจรที่แสดงไว้ดังนี้
E = Emotoin , Envaronment (อารมณ์ , สิ่งแวดล้อม) A = Allergy (โรคภูมิแพ้) B = Bacteria (แบคทีเรีย) |
สุดท้ายก็คือเชื้อรา
ปัจจุบันพบว่าคนเราสามารถแพ้เชื้อและเป็นโรคของไซนัสอย่างหนึ่งได้ (allergic fungal rhinosinusitis) และก็มีวิธีรักษาเชื้อราในจมูก ไม่ทำอันตรายต่อเราได้ ถ้าเราเป็นคนที่มีภูมิคุมกันปกติ คือ ไม่เป็นเบาหวาน ปลูกถ่ายอวัยวะหรือโรคเอดส์
แหล่งที่มา : doctor.or.th