เที่ยวทะเลที่ไหนดี แต่งตัวไปเที่ยวทะเล เชื่อไหม ทะเล ช่วยเยียวยาสุขภาพ
10 วิธีที่ทะเลช่วยเยียวยาสุขภาพคุณได้
10 วิธีที่ทะเลช่วยเยียวยาสุขภาพคุณได้ (Lisa)
การไปเที่ยวชายทะเลไม่เพียงแต่ให้ความสนุกสนานรื่นรมย์ หากแต่ทะเลยังทรงไว้ซึ่งพลังอำนาจที่จะช่วยเยียวยาร่างกาย และจิตใจของเราได้อย่างแสนวิเศษ
ยามหน้าร้อน เหล่าดาราดังล้วนชอบใช้เวลาไปกับการพักผ่อนริมชายทะเล ธรรมชาติอันทรงอำนาจนี้ ไม่เพียงแต่จะให้ความรื่นรมย์และเพลิดเพลิน แต่ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ช่วยในการเยียวยาและรักษาสุขภาพ และนี่คือสิ่งดี ๆ ที่ทะเลและการใช้เวลาบนหาดทรายในยามหน้าร้อนสามารถให้เราได้
1.แสงแดด
ให้คุณประโยชน์หลายอย่างต่อสุขภาพ ที่รู้จักกันดีก็คือเป็นแหล่งสำคัญของวิตามินดี ซึ่งช่วยสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน ซึ่งเราจะได้รับวิตามินดีจากอาหารเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องมาจากแสงแดด
นอกจากนี้ สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่ค่อยรู้ก็คือ แสงแดดยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า การได้รับแสงอาทิตย์ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นปราการด่านแรกของร่างกายในการป้องกันการติดเชื้อ และการต่อสู้กับโรควิตามินดียังมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มจำนวนออกซิเจนในเลือด ซึ่งผลที่ได้รับก็คือทำให้ระดับพลังงานเพิ่มขึ้น ร่างกายจึงสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น
แสงแดดยังมีผลต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด เนื่องจากร่างกายต้องการแสงอัลตร้าไวโอเล็ต ในแสงแดดเพื่อย่อยสลายคอเลสเตอรอล รวมทั้งยังมีการศึกษาวิจัยที่บอกว่า ทั้งคอเลสเตอรอล และวิตามินดีเกิดขึ้นมาจากสารเคมีตัวเดียวกันในร่างกาย ที่เรียกว่า Squalene ซึ่งพบในผิวหนัง ซึ่งเมื่อได้รับแสงแดดเจ้าสารเคมีตัวนี้จะกลายเป็นวิตามินดี แต่ถ้าไม่ได้รับแสงแดด มันจะกลายเป็นคอเลสเตอรอลแทน เช่นเดียวกับระดับความดันโลหิต ตามทฤษฎีระบุว่าหากไม่ได้รับวิตามินดีมากพอ ร่างกายจะเพิ่มระดับของฮอร์โมนพาราธัยรอยด์ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้แคลเซียมเล็ดลอดออกจากกระดูก แต่ยังทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นด้วย แสงแดดยังกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเชโรโทนินซึ่งควบคุมการนอนหลับ อุณหภูมิร่างกาย ความต้องการทางเพศ และทำให้อารมณ์ดีขึ้น
ดังนั้น ให้ร่างกายได้อาบแสงแดดอุ่น ๆ ยามเช้า (ก่อน 9 โมงเช้า) หรือยามเย็น (หลังสี่โมงเย็น) สัก 10-15 นาที แต่การสัมผัสแสงแดดนอกเหนือเวลานั้น ต้องป้องกันด้วยการทาครีมกันแดด ใส่แว่นตากันแดดใส่เสื้อผ้าที่ปกป้องผิวกายให้มากที่สุด และอยู่ให้ห่างจากพระอาทิตย์ในช่วงที่รังสียูวีแรงที่สุด คือราว 10 โมงเช้าถึงสี่โมงเย็น
2.น้ำทะเล
ศาสตร์ในการใช้น้ำทะเลเพื่อเยียวยารักษาสุขภาพมีมากว่า 4,000 ปีแล้ว เรียกกันว่า Thaiassotherapy (มาจากภาษากรีก Thalasso แปลว่าน้ำทะเล และ Therapela แปลว่าการรักษา)เป็นการใช้น้ำทะเลรักษาอาการเจ็บป่วยหลายชนิด เช่น ปวดกล้ามเนื้อหรือโรคข้อ ในสมัยโรมันโบราณก็มีกรสร้างสถานบำบัดรักษาสุขภาพ หรือสปาไว้ใกล้ชายทะเลหลายแห่ง เพื่อนำเอาน้ำทะเลมาใช้ในการรักษาสุขภาพ
ในยุคปัจจุบัน แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษากันอย่างจริงจัง ถึงเหตุที่ทำให้น้ำทะเลมีประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพ และพบว่าน้ำทะเลอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินมากมายที่ร่างกายต้องการ และปัจจุบันการเยียวยาสุขภาพในแบบที่เรียกว่า Thalassotherapy มีให้บริการมากมายในสปาในยุโรป แต่สปา Thalassotherapy ที่ดีต้องอยู่ริมทะเล เพื่อได้ใช้ประโยชน์จากน้ำทะเลอย่างเต็มที่สำหรับการรับประโยชน์จากน้ำทะเลโดยไม่ต้องเข้าสปาราคาแพง เพียงแค่แช่ตัวในน้ำทะเลก็ช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นได้ เนื่องจากน้ำทะเลเป็นแอสตริงเจนต์ตามธรรมชาติ ช่วยสมานผิว บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ และทำให้แผลหายเร็ว
การศึกษาวิจัยยังแสดงให้เห็นด้วยว่า เราสามารถได้ประโยชน์อย่างเดียวกัน จากการนำเกลือทะเลมาผสมลงในน้ำอาบที่บ้าน อีกวิธีหนึ่งของการใช้ประโยชน์จากน้ำทะเลในการเยียวยาสุขภาพ ก็คือ การหายใจเอากลิ่นอายของน้ำทะเลเข้าไปในจมูก โดยใช้สองมือประสานกันวักน้ำทะเลขึ้นมาจ่อไว้ใต้จมูก และสูดหายใจเข้าลึก ๆ ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยทำความสะอาดไซนัส และเปิดเส้นทางลมให้จมูกโล่งสบาย
3.ทราย
เป็นสารขัดผิวตามธรรมชาติ มันจึงเป็นเครื่องมือในการทำความสะอาดผิวที่แสนวิเศษ ทำให้ผิวเปียกด้วยน้ำทะเล แล้วถูทรายบนผิวอย่างเบามือให้ทั่วเรือนร่าง คุณยังสามารถนำกลิ่นอาย และความรู้สึกของทะเลมาสร้างความรู้สึกสงบที่บ้านได้ ด้วยการใช้ทรายในการจัดสวนถาดแต่งบ้าน
4.ฟองน้ำ
เป็นสัตว์ทะเลที่พบได้ในเขตน้ำอุ่น ซากแห้งของมันมีคุณสมบัติพิเศษในการอุ้มน้ำได้มาก และชาวกรีกก็ใช้มันในการอาบน้ำและขัดถูร่างกาย ฟองน้ำธรรมชาติจะเป็นสีน้ำตาลหรือเทาอ่อน ๆ และมีรูปร่างที่ไม่เหมือนกันเลย ฟองน้ำแห้งสามารถนำมาวางใส่ขวดโหลเพื่อตกแต่งห้องหรือห้องน้ำ และเมื่อชุบน้ำอีกครั้ง ก็สามารถใช้ในการทำความสะอาดและขัดผิวได้อย่างแสนวิเศษ
5.ปะการัง
ศิลปะแห่งท้องทะเลนี้เป็นแรงบันดาลใจอันใหญ่หลวงสำหรับหลายคน ปะการังที่ถูกซัดขึ้นมาบนชายหาด จึงเป็นของแต่งบ้านแสนสวยที่ให้ความอิ่มเอมทางอารมณ์ นอกจากนี้ หินปะการังยังเป็นหินขัดผิวเท้าชั้นดี ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และทำให้เลือดสูบฉีดและไหลเวียนมายังเท้า
6.สาหร่ายทะเล
พืชแห่งท้องทะเลชนิดนี้อุดมด้วยแร่ธาตุและสารอาหารนานาชนิด เช่น
กรดอะมิโนและโปรตีน ซึ่งช่วยทำให้การสลายตัวของคอลลาเจนและอิลาสตินช้าลง
แคลเซียม ทำให้กระดูกแข็งแรง มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการเกิดก้อนเลือด และช่วยให้แผลหายเร็ว
ทองแดง เป็นองค์ประกอบของเอนไซม์หลายชนิดที่จำเป็นในการสร้างพลังงาน
แมกนีเซียม ช่วยการทำงานของประสาทและกล้ามเนื้อ
โพแทสเซียมและโซเดียม นำสารอาหารมาที่ผิว ช่วยขจัดของเสียและสารพิษ และรักษาความสมดุลของน้ำ
วิตามินบี 2 และบี 6 มีความสำคัญอย่ามากในการทำงานของผิว
สังกะสี เป็นองค์ประกอบของเอนไซม์กว่าร้อยชนิดในร่างกายจำเป็นต่อสุขภาพผิว และการรักษาแผลให้หายเร็ว
คุณประโยชน์อันโดดเด่นอย่างหนึ่งของสาหร่ายทะเล ที่ไม่มีพืชใดเหมือนก็คือ มันช่วยขับสารพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขจัดรังสีและโลหะหนัก เช่น แคดเมียม ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราออกไป รวมถึงสารพิษที่เกิดจากมลภาวะแวดล้อมอื่น ๆ ได้ดี
7.เปลือกหอย
การได้ค้นหาและชื่นชมงานสร้างสวรรค์อันแสนวิเศษของธรรมชาตินี้ เป็นการใช้เวลาว่างอันแสนวิเศษของใครหลายคน ทำให้เราหลุดจากความหมกมุ่น และให้จิตใจได้โบยบินไปอย่างอิสระ มันยังเป็นของแต่งบ้านแสนสวย โดยเฉพาะในห้องน้ำ และเปลือกหอยยังใช้เป็นที่วางเทียน หรือธูปหอม เพื่อสร้างกลิ่นอายอันผ่อนคลายในบ้าน และให้บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ
8.อากาศริมทะเล
การหายใจเอาอากาศสดชื่นริมทะเลเข้าไป ช่วยให้เราผ่อนคลายและรู้จักปล่อยวาง กลิ่นเค็มจาง ๆ ที่ปนอยู่ในอากาศทำให้เรารู้สึกรื่นรมย์ และมีชีวิตชีวาแฝงอยู่ที่ไม่อาจพบได้ในที่อื่นใด หายใจเข้าลึก ๆ แล้วความเครียดจะสลายไป และคุณจะหาวิธีรับมือกับความกดดันได้ดีขึ้น
9.การออกกำลัง
การเล่นโยคะหรือวิ่งบนชายหาด เป็นวิธีการอันแสนวิเศษในการรักษาสมรรถภาพร่างกาย และได้ประโยชน์จากกิจกรรมกลางแจ้งที่เราทำริมทะเลหน้าร้อน คุณควรออกกำลังตอนเช้าหรือบ่ายคล้อยจวนเย็น ซึ่งแดดไม่จัดเกินไป และควรดื่มน้ำเยอะ ๆ ก่อนและระหว่างการออกกำลัง รวมทั้งหลังการออกกำลัง เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
10.คลายความเครียด
แสงอากาศ และคลื่น...ทุกสิ่งที่ริมทะเลล้วนเป็นยาชั้นดีในการผ่อนคลาย ลองใช้ประโยชน์จากสรรพสิ่งต่าง ๆ แห่งท้องทะเลที่แนะนำไว้ข้างต้น มันจะละลายความเครียดและนำคุณกลับสู่ธรรมชาติ ทิ้งแล็ปท็อปและโทรศัพท์มือถือเอาไว้ที่บ้าน และอยู่กับธรรมชาติให้มากที่สุดอย่างน้อยก็ปีละสักครั้งเถอะนะ
แหล่งที่มา : , health.kapook.com