ปัญหาหญิงไทย ปัญหาผู้ชาย ความ รู้ เรื่อง เพศ ศึกษา


1,000 ผู้ชม


ปัญหาหญิงไทย ปัญหาผู้ชาย ความ รู้ เรื่อง เพศ ศึกษา

เมื่อหนุ่มขี้เมื่อยเจอสาวนักช็อป
เมื่อผู้ชายนัดเดทสาวครั้งแรกๆนั้นก็คงไม่พ้นที่จะต้องไปดูหนัง ทานข้าว และสุดท้ายก็คงจะต้องไปช็อปปิ้งกัน และในการไปช็อปปิ้งกันครั้งแรกระหว่างสาวกับหนุ่มนั้น หนุ่มๆก็มักที่จะตามใจสาวๆ ตลอดไม่ว่าเธอจะไปไหน ไปซื้ออะไร แม้แต่ยกทรงกางเกงใน (ถ้าสาวเจ้าไม่อาย) ให้จ่ายตังค์ให้ก็ไม่เคยบ่น และยิ่งได้จับมือเดินกันไปด้วยแล้วถือว่าประสบความสำเร็จสุดๆในการออกเดทวันนั้น การที่หนุ่มๆ เขาตามใจสาวเจ้าในการจีบกันตอนแรกๆ ก็เพราะหนุ่มๆเขาถือคติว่าการจีบสาวนั้นต้องทำอย่างไร หรืออะไรก็ได้ให้สาวเจ้าพอใจไว้ก่อนเป็นดีที่สุด เพราะเมื่อสาวนั้นรู้สึกว่าเธออยู่กับชายหนุ่มแล้ว เธอได้ทุกอย่างในสิ่งที่เธอต้องการ เธอก็ย่อมชอบใจที่จะอยู่กับชายหนุ่มคนนั้นไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ตกเป็นเมีย เอ๊ย.ตกเป็นแฟนของเจ้าหนุ่มขี้ตามใจไปในที่สุด
ต่อมาพอเป็นแฟนกันแล้ว(ถ้าผู้หญิงสังเกตดีๆ )ผู้ชายจะเริ่มเบื่อ ที่จะต้องเดินตามสาว ตลอดซึ่งอาจเป็นเพราะว่า ในการซื้อของของผู้ชายกับผู้หญิงนั้นจะแตกต่างกัน เพราะผู้ชายนั้นเมื่อต้องการซื้ออะไรก็จะเดินลิ่วๆ ไปซื้อของสิ่งนั้นทันที โดยไม่ต้องเดินแวะโน่นชมนี่ แบบขี่ม้าชมเมืองเหมือนสาวๆ ผู้ชายจึงน่าจะใช้คำว่าไปซื้อของ ผิดกับการซื้อของของผู้หญิง ที่เวลาจะซื้อของอะไรทีนั้นก็จะเดินดูไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอของถูกใจถึงซื้อ หรือบางทีอาจเดินทั้งวันจนห้างปิดยามไล่กลับบ้านแล้วยังไม่ซื้ออะไรซักอย่างเลยก็ได้ และก็มีบ้างเหมือนกันที่เกิดเหตุการณ์ที่ว่าผู้หญิงตั้งใจจะไปซื้อของอย่างหนึ่ง แต่ช็อปเพลินจนเงินหมดกระเป๋าแล้ววันนั้นเลยไม่ได้ของที่อยากซื้อเลย อย่างนี้ก็มีเหมือนกัน ดังนั้นจึงน่าจะเรียกพฤติกรรมการซื้อของเช่นนี้ของคุณสาวๆ ทั้งหลายว่า การช็อปปิ้ง 
หรืออาจเป็นเพราะว่าการที่หนุ่มๆ เบื่อที่จะเดินตามสาวก็เพราะเขาคิดว่า สาวเจ้าได้ตกมาเป็นแฟนชายหนุ่มแล้วนี่ ดังนั้นไอ้การที่จะให้เดินต้อยๆ ตามใจสาวเจ้าตลอดเวลาก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะชายหนุ่มไม่ต้องเอาใจผู้หญิง(ซึ่งได้เป็นแฟนเขาแล้ว) อีกต่อไปแล้ว เขาจึงอยากตามใจตัวเอง และตามใจขาของตัวเอง (ที่เมื่อยมานานในคราวเดินตามจีบแฟนใหม่ๆ) บ้าง 
ทางแก้ของผู้ชายเมื่อเบื่อการที่จะต้องเดินช็อปปิ้งกับหญิงสาวก็คือการไปขลุกตามร้านหนังสือ ร้านขายวีดีโอ หรือไปดูหนังแอ็คชั่นมันๆ แล้วก็ปล่อยให้ผู้หญิงเดินช็อปปิ้งคนเดียว ซึ่งในกรณีนี้ถ้าผู้หญิงรับได้ก็ดีไป แต่ถ้ารับไม่ได้ก็เกิดปัญหาอีก เพราะผู้หญิงจะมองว่าการมาเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเป็นวันหยุดอาทิตย์ละแค่วันสองวัน ทำไมไม่อยู่ด้วยกัน ไม่ทำอะไรด้วยกัน และบางทีชั้นจะซื้อของอะไรซักอย่างฉันก็อยากจะขอคำแนะนำจากเธอ เช่นว่า น้ำหอมยี่ห้อนี้นี่มันหอมมั๊ย (โดยส่วนใหญ่ผู้ชายก็มักจะตอบว่า "อือ อือ" โดยที่จริงๆ แล้วไม่รู้เลยว่าหอมไม่หอม อือ อือไปงั้นเอง แล้วผู้หญิงเองนั่นแหละจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะซื้อดีหรือไม่ซื้อดี) จนสุดท้ายผู้หญิงก็จะออกคำถามไม้ตาย "เธอไม่รักฉันแล้วเหรอ" (ที่ไม่ยอมเดินตามชั้นต้อยๆ คอยถือของให้ชั้น คอยออกความคิดเห็นในสินค้าแต่ละอย่าง) ผู้ชายก็จะตอบว่า "เออ" เอ๊ย.ไม่ใช่ ผู้ชายก็จะตอบว่า "รัก แต่ว่าชั้นก็อยากจะทำอะไรในวันหยุดของชั้นบ้างนี่นา ก็เหมือนอย่างที่เธออยากจะเดินช็อปปิ้งนั่นแหละ (ก็ฉันไม่ชอบเดินช็อปนานๆ นี่นามันเมื่อยขา)"


การแก้ปัญหานั้นเราน่าจะมองไปที่ต้นตอของสาเหตุก่อนว่ามันเกิดจากอะไร และถ้าชายหนุ่ม (หรือหญิงสาว) คิดให้ดีๆ ก็จะรู้ว่ามาจากผู้ชายนั่นเองที่ดันไปตามใจสาวๆ แทบทุกอย่างในการตามจีบหญิงสาวตอนแรกๆ เรียกว่าชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ หรือเธอจะพาไปขึ้นเหนือล่องใต้ ขึ้นเขาลงห้วย ตกนรกขึ้นสวรรค์ (ขึ้นสวรรค์ชายหนุ่มน่าจะชวนมากกว่า… ฮะแอ้ม.แค่สำนวนอย่าคิดมาก) เรียกว่าตามใจแม่เจ้าประคุณทูนหัวหมด ทำให้เมื่อเป็นแฟนกันแล้ว สาวเจ้าจึงคิดว่า ชายหนุ่มก็น่าจะทำได้เหมือนเช่นที่จีบกันแรกๆสิ แต่… ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ ผู้ชาย (โดยส่วนใหญ่หรือส่วนน้อยก็ไม่รู้) มักไม่ค่อยเป็นเช่นนั้น ดังนั้นชายหนุ่ม(ที่ดีๆ )จึงควรอย่างยิ่งที่จะต้อง "ทำ" ในสิ่งที่ตัวเอง "อยากทำ" ตั้งแต่ในตอนแรกๆ ให้ผู้หญิงที่เขาจีบนั้นรู้ไปเลยว่าเขามีสันดาน เอ๊ย.มีนิสัยอย่างไร อยากทำอะไร ไม่อยากทำอะไร เพื่อที่ว่าจะได้ไม่เกิดปัญหาในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป (ในทางไม่ดี) ของชายหนุ่มหลังจากที่ได้สาวเจ้ามาเป็นแฟนแล้ว ดังนั้นในการออกเดทหรือช้อปปิ้งกันครั้งแรกๆ กับสาวที่ชายหนุ่มจีบนั้น ชายหนุ่มก็ต้องตามใจหญิงสาวแต่พอควร และในขณะเดียวกัน ก็บอกถึงความต้องการของชายหนุ่มให้สาวเจ้ารับรู้ด้วย เช่นว่าเมื่อเมื่อยขา ก็บอกสาวเจ้าไปเลยว่า "ยาหยีจ๋า พี่เมื่อยขาแล้วนะตัวเอง อยากนั่งพักกินเบยร์สดซักเหยือก สองเหยือกที่ฟู้ดเซ็นเตอร์ได้ไหมจ๊ะ" หรือไม่ก็บอกว่าไปเดินดูพวกอุปกรณ์เดินป่า หรือพวกอุปกรณ์ออกกำลังกายกันบ้างดีไหม ซึ่งจะเป็นการดีกว่าที่จะตามใจสาวเจ้าไปเสียหมด ในการที่จะเดินดูแต่ของผู้หญิง (ยกเว้นร้านขายชุดชั้นใน ชายหนุ่มมักจะไม่ค่อยบ่นในการจะต้องไปดูกับหญิงสาว แต่หญิงสาวก็มักจะไม่ค่อยพาไปซื้อด้วยซักที-ฮา) นี่คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ส่วนการแก้ปัญหาอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งจะเรียกว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุก็ได้ ก็คือว่าก่อนไปช็อปปิ้งก็น่าจะคุยกันก่อน ระหว่างหนุ่มกับสาวว่าวันนี้จะทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง (กิจกรรมออกเดทธรรมดา…อย่าคิดมาก) ผู้หญิงจะซื้อของอะไรบ้าง ผู้ชายจะซื้ออะไร หรืออยากทำอะไรบ้าง
จากนั้นก็แบ่งเวลาซึ่งคงไม่ต้องถึงขนาดเป๊ะๆ เป็นนาที วินาที ว่าเราควรจะให้เวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ ซักกี่นาที หรือว่าช่วงไหนที่หนุ่มกับสาวจะแยกกันเดิน แล้วเมื่อไหร่จึงจะมานัดเจอกันใหม่ หน้าร้านข้าวมันไก่โกฮับชั้นขายอาหารฟู้ดเซ็นเตอร์ หรือร้านขายชุดว่ายน้ำไทรอัมพ์ชั้น 5 อะไรก็ว่าไป 
ข้อสำคัญทั้งสองฝ่ายต้องทำใจกันบ้างว่าอาจจะต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ (ผู้ชายอาจจะต้องเดินจนเมื่อยขาบ้าง - ถ้าทำไม่ได้ให้กลับไปนึกถึงตอนจีบสาวใหม่ๆ, ผู้หญิงอาจต้องเดินคนเดียวบ้าง) แล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อย 
พูดให้ง่ายเข้าคือต้องพยายามเข้าใจกันและกัน จะทำอะไรก็ให้นึกถึงใจเขาใจเราเท่านั้นเอง แล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายก็ยังคงฉลุยไปเหมือนเดิม 
สิ่งที่ชายหนุ่ม(อย่างผม)ขอก็คือ ขอให้ผู้หญิงเข้าใจบ้างว่า วันหยุดของเขานั้นก็สำคัญพอๆ กับของสาวๆ เหมือนกัน เขาก็อยากทำอะไรๆ ในสิ่งที่อยากทำเหมือนอย่างที่สาวๆ อยากทำ (เช่นการเดินช็อปปิ้งจนขาขวิด) เหมือนกันนั่นแหละ จึงอยากขอให้สาวๆ ทำความเข้าใจกับความต้องการของผู้ชายบ้าง ขอแค่นี้แหละครับ ได้มะ. 
เขียนโดย นายสมุทร น่วมศรษฐี 
แหล่งที่มา : vcharkarn.com

อัพเดทล่าสุด