ราคาค่าผ่าตัดโรคริดสีดวงที่โรงบาลพญาไท 1 หมอปรัญญารักษาโรคริดสีดวงทวาร วิธีทําอาหารสำหรับคนเป็นโรคริดสีดวง
ราคาค่าผ่าตัดโรคริดสีดวงที่โรงบาลพญาไท 1
| ปรแกรมเหมาจ่าย : การผ่าตัดริดสีดวงทวารหนักโดยใช้เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ
ราคา 70,000 บาท
วันนี้ ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2553
| ข้อดีของการใช้เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ |
1. ตัดริดสีดวงทวารหนักออกได้หมด โดยไม่เกิดรูทวารหนักตีบตัน 2. ผู้ป่วยจะเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่า 3. ไม่มีบาดแผลอยู่ภายนอก ไม่ต้องรักษาแผลอีกหลายสัปดาห์ 4. หลังผ่าตัดไม่ต้องแช่ก้นด้วยน้ำอุ่นเพื่อล้างแผล 5. หลังผ่าตัดไม่ต้องใส่ผ้าอนามัยซับน้ำเหลือง 6. เวลาในการผ่าตัดสั้นกว่า 7. เวลาในการอยู่โรงพยาบาลสั้นกว่า 8. เวลาในการพักฟื้นที่บ้านสั้นกว่า |
| เงื่อนไขการให้บริการ
- ต้องได้รับการพิจารณาเห็นสมควรให้เข้า package โดยแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
- การพิจารณาใช้เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ ต้องได้รับการเห็นชอบโดยแพทย์
- อัตราเหมาจ่ายนี้ รวมค่าห้องพัก ธรรมดา ค่าบริการโรงพยาบาล ค่าบริการพยาบาลและค่าอาหาร 2 คืน
- รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
- เฉพาะแพทย์ที่เข้าร่วม package
อัตราเหมาจ่ายไม่รวม
1. กรณีพักเกินวันที่กำหนดไว้ โรงพยาบาลขอคิดค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินในอัตราปกติ โดยยินดีมอบส่วนลด 10% สำหรับค่าห้อง และค่ายา
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวภายในห้องพักและค่าบริการอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหารญาติ เป็นต้น
3. ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ส่วนลดอื่น ๆ ได้อีก ริดสีดวงทวาร
"โรคริดสีดวงทวารรักษาได้ ในระยะแรกสามารถรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด"
อาการของโรคทางทวารหนัก
มีได้หลายแบบเช่น ปวดแสบทวารหนักเวลาถ่ายหรือเจ็บปวดตลอดเวลา การมีเลือดออกเป็นเลือดสดๆเวลาถ่าย บางคนเลือดออกบ่อยจนซีด การมีก้อนยื่นออกจากทวารหนักและอาการคันหรือเปื่อยรอบทวารหนัก รวมถึงอาการอื่นๆ ของระบบทางเดินอาหารเช่น อาการอึดอัด แน่นท้อง ท้องผูก ถ่ยอุจจาระลำบาก ถ่ายไม่สุด เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนมาก ผู้ป่วยมักเข้าใจว่าตนเองเป็นโรคริดสีดวงทวารจึงมักไม่ไปพบแพทย์ เนื่องจากอายหรือคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยจนกระทั่งมีอาการมากจึงไปพบแพทย์ โดยมักจะรักษาโรคด้วยตนเองเช่น ซื้อยาระบาย เหน็บยา หรือการพบหมอบ้านเพื่อฉีดยาหรือทายาสมุนไพร อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบติดเชื้อและการเน่าตายของเนื้อเยื่อบริเวณทวารหนัก กล้ามเนื้อหูรูดถูกทำลายและเกิดการตีบตันในเวลาต่อมา
ผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ด้วยความเข้าใจว่าเป็นริดสีดวง ทวารนั้น มีเพียงครึ่งเดียวที่มีสาเหตุจากริดสีดวงทวาร เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโรคทวารหนักอื่นๆ เช่น แผลฉีกขาดที่ทวารหนัก ฝีคัณฑสูตร โรคหูดหงอนไก่และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องวินิจฉัยแยกโรคจากมะเร็งลำไส้หรือทวารหนักให้ได้เพราะเป็นโรคที่อันตราย ถึงชีวิต ต้องรีบให้การรักษาโดยไม่ล่าช้า
สาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร
การที่ท้องผูกเป็นประจำ หรือท้องเสียจนต้องเบ่งถ่ายหลายครั้ง ผู้ที่มีนิสัยที่ต้องเบ่งถ่ายนานๆเป็นประจำซึ่งมักเกิดในคนที่ชอบอ่าน หนังสือในขณะถ่ายอุจจาระ หรือในคนที่ชอบนอนหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆจนท้องอืดบ่อยและต้องเบ่ง ถ่ายวันละหลายครั้ง ทำให้เกิดแรงดันมากบริเวณทวารหนักจนกระทั่งกล้ามเนื้อเล็กๆที่ทำหน้าที่ยึด ริดสีดวงทวารกับผนังของทวารหนักฉีกขาด เป็นผลให้ริดสีดวงทวารยื่นออกจนบางครั้งออกมานอกทวารหนักจนผู้ป่วยรู้สึกได้ ว่ามีก้อนเนื้อโผล่ออกมาในระหว่างถ่ายอุจจาระ
ในระยะแรกก้อนที่ยื่นออกมาอาจกลับเข้าไปเอง แต่ถ้าเป็นมากอาจต้องใช้มือดันกลับ และเมื่อทิ้งไว้จนมีขนาดใหญ่ขึ้นมากก็จะโผล่ตลอดเวลา การที่ท้องผูกบ่อยๆและอุจจาระแข็งทำให้อุจจาระครูดกับหัวริดสีดวงเกิดเลือด ออกได้
ระยะของโรคริดสีดวงทวาร
ริดสีดวงสามารถแบ่งตามตำแหน่งคือ เป็นชนิดภายในและภายนอก โดยริดสีดวงภายนอกมักไม่ก่อให้เกิดอาการใดๆ ยกเว้นอาจสร้างความรำคาญและอาการชื้นแฉะบริเวณทวารหนักได้
ส่วนริดสีดวงภายในมี 4 ระยะคือ
ระยะที่ 1 ริดสีดวงยังอยู่ภายในทวารหนัก มักมีอาการถ่ายเป็นเลือดสด และยังคลำไม่พบก้อนเนื้อเวลาถ่าย
ระยะที่ 2 ริดสีดวงอยู่ภายในทวารหนักแต่จะโผล่ออกมาเฉพาะเวลาถ่ายอุจจาระ จะมีอาการเลือดสดออกมาเช่นกันและคลำได้ก้อนเนื้อเวลาถ่าย
ระยะที่ 3 ริดสีดวงจะโผล่ออกมาเวลาถ่ายอุจจาระ จะคลำได้ก้อนเนื้อเวลาถ่ายและไม่กลับเข้าไปเองต้องใช้นิ้วดันกลับเข้าไป ถ้าเผลอไม่ได้ดันกลับหลังถ่ายเสร็จแล้วรีบลุกขึ้น ก็อาจทำให้เกิดลิ่มเลือดในหัวริดสีดวงคลำได้แข็งเป็นก้อนและเจ็บปวดอย่างมาก ได้
ระยะที่ 4 ริดสีดวงโผล่ออกมาที่ปากทวารตลอดเวลา ไม่สามารถดันกลับได้
อาการของผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวาร
1. ถ่ายเป็นเลือดสด เลือดที่ออกจากริดสีดวงทวารมักมีลักษณะเฉพาะคือ เป็นเลือดแดงสด หยดตามหลังอุจจาระโดยจะไม่ปนกับอุจจาระ หรือถ้าออกมากก็อาจพุ่งเป็นลำครั้งละมากๆได้ เลือดมักจะหยุดเองเมื่อถ่ายเสร็จ ถ้าหากเลือดที่ออกเป็นเลือดเก่าปนกับอุจจาระ เป็นลิ่มเลือด หรือสีอุจจาระผิดปกติเป็นสีดำแดง โดยเฉพาะถ้ามีมูกปนหรือมีกลิ่นคาว ให้สงสัยว่าอาจไม่ใช่โรคริดสีดวงทวาร ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
2. คลำได้ก้อนเนื้อโผล่ออกมาในขณะถ่าย อาจจะกลับเข้าไปเองหรือต้องใช้นิ้วดันกลับเข้าไปในทวารหนัก
3. อาการปวด โดยทั่วไปริดสีดวงไม่ทำให้เกิดอาการปวด เกิดเฉพาะในกรณีที่เกิดลิ่มเลือดในหัวริดสีดวงคลำได้แข็งเป็นก้อนและเจ็บปวด มากและตลอดเวลา โดยพบได้ทั้งริดสีดวงภายในและภายนอก 4. บางครั้งถ้ามีริดสีดวงหลายหัวและมีขนาดใหญ่จนเกิดอาการระคายเคือง รู้สึกแฉะหรือคันบริเวณทวารหนักได้
การรักษาโรคริดสีดวงทวาร
1. การฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวง (injection) โดยตรงทางกล้องที่ใส่เข้าไปทางทวารหนัก ใช้ในริดสีดวงระยะที่ 1 และ 2 ยาที่นิยมใช้รักษาเช่น Aethoxysklerol หรือ 5% Phenol in almond oil เป็นต้น ยาจะทำให้หัวริดสีดวงฝ่อลงในเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ การรักษาวิธีนี้เป็นการรักษาที่ไม่เจ็บปวดและไม่ค่อยพบผลข้างเคียง ถ้าตำแหน่งที่ฉีดยาไม่ลึกหรือตำแหน่งต่ำจนเกินไป อย่างไรก็ตาม การฉีดยาอย่างไม่ระมัดระวังหรือบ่อยครั้งจนเกินไป อาจทำให้เกิดพังผืดรั้งจนหูรูดตีบแคบลงได้
2. การรัดหัว (rubber band ligation) ใช้ยางวงใส่ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า Baron gun เข้าไปรัดที่หัวเพื่อให้หัวริดสีดวงขาดเลือดมาเลี้ยง จะทิ้งยางไว้ให้หัวเน่าหลุดออกมาเองในเวลา 2-3 วัน ใช้สำหรับริดสีดวงในระยะแรกเช่นกัน การรัดหัวในตำแหน่งที่ต่ำเกินไปจนใกล้กับบริเวณหูรูดที่มีเส้นประสาทค่อน ข้างมากจะทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงหลังการรัดได้
3. การรักษาด้วยเลเซอร์ Fotona หรือแสง infrared โดยการใช้เลเเซอร์ไฟเบอร์ขนาดเล็กยิงที่หัวริดสีดวงเพื่อให้เกิดความร้อนที่หัวริดสีดวง ทำให้หัวริดสีดวงฝ่อลง มีข้อดีคือ เจ็บน้อยกว่า ไม่มีเลือดออก และแผลหายเร็วกว่า
4. การผ่าตัด ด้วยจี้ไฟฟ้าหรือใช้เครื่องมือตัดต่อพิเศษ สำหรับริดสีดวงในระยะ 3 หรือ 4
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่คลินิก โทร 074-238803 หรือ 08-74757788 ในเวลาเปิดบริการ
| ปรแกรมเหมาจ่าย : การผ่าตัดริดสีดวงทวารหนักโดยใช้เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ
ราคา 70,000 บาท
วันนี้ ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2553
| ข้อดีของการใช้เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ |
1. ตัดริดสีดวงทวารหนักออกได้หมด โดยไม่เกิดรูทวารหนักตีบตัน 2. ผู้ป่วยจะเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่า 3. ไม่มีบาดแผลอยู่ภายนอก ไม่ต้องรักษาแผลอีกหลายสัปดาห์ 4. หลังผ่าตัดไม่ต้องแช่ก้นด้วยน้ำอุ่นเพื่อล้างแผล 5. หลังผ่าตัดไม่ต้องใส่ผ้าอนามัยซับน้ำเหลือง 6. เวลาในการผ่าตัดสั้นกว่า 7. เวลาในการอยู่โรงพยาบาลสั้นกว่า 8. เวลาในการพักฟื้นที่บ้านสั้นกว่า |
| เงื่อนไขการให้บริการ
- ต้องได้รับการพิจารณาเห็นสมควรให้เข้า package โดยแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
- การพิจารณาใช้เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ ต้องได้รับการเห็นชอบโดยแพทย์
- อัตราเหมาจ่ายนี้ รวมค่าห้องพัก ธรรมดา ค่าบริการโรงพยาบาล ค่าบริการพยาบาลและค่าอาหาร 2 คืน
- รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล
- เฉพาะแพทย์ที่เข้าร่วม package
อัตราเหมาจ่ายไม่รวม
1. กรณีพักเกินวันที่กำหนดไว้ โรงพยาบาลขอคิดค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินในอัตราปกติ โดยยินดีมอบส่วนลด 10% สำหรับค่าห้อง และค่ายา
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวภายในห้องพักและค่าบริการอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหารญาติ เป็นต้น
3. ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ส่วนลดอื่น ๆ ได้อีก Link https://www.phyathai.com
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=
หมอปรัญญารักษาโรคริดสีดวงทวาร
ริดสีดวงทวาร
"โรคริดสีดวงทวารรักษาได้ ในระยะแรกสามารถรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด"
อาการของโรคทางทวารหนัก
มีได้หลายแบบเช่น ปวดแสบทวารหนักเวลาถ่ายหรือเจ็บปวดตลอดเวลา การมีเลือดออกเป็นเลือดสดๆเวลาถ่าย บางคนเลือดออกบ่อยจนซีด การมีก้อนยื่นออกจากทวารหนักและอาการคันหรือเปื่อยรอบทวารหนัก รวมถึงอาการอื่นๆ ของระบบทางเดินอาหารเช่น อาการอึดอัด แน่นท้อง ท้องผูก ถ่ยอุจจาระลำบาก ถ่ายไม่สุด เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนมาก ผู้ป่วยมักเข้าใจว่าตนเองเป็นโรคริดสีดวงทวารจึงมักไม่ไปพบแพทย์ เนื่องจากอายหรือคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยจนกระทั่งมีอาการมากจึงไปพบแพทย์ โดยมักจะรักษาโรคด้วยตนเองเช่น ซื้อยาระบาย เหน็บยา หรือการพบหมอบ้านเพื่อฉีดยาหรือทายาสมุนไพร อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบติดเชื้อและการเน่าตายของเนื้อเยื่อบริเวณทวารหนัก กล้ามเนื้อหูรูดถูกทำลายและเกิดการตีบตันในเวลาต่อมา
ผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ด้วยความเข้าใจว่าเป็นริดสีดวง ทวารนั้น มีเพียงครึ่งเดียวที่มีสาเหตุจากริดสีดวงทวาร เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโรคทวารหนักอื่นๆ เช่น แผลฉีกขาดที่ทวารหนัก ฝีคัณฑสูตร โรคหูดหงอนไก่และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องวินิจฉัยแยกโรคจากมะเร็งลำไส้หรือทวารหนักให้ได้เพราะเป็นโรคที่อันตราย ถึงชีวิต ต้องรีบให้การรักษาโดยไม่ล่าช้า
สาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร
การที่ท้องผูกเป็นประจำ หรือท้องเสียจนต้องเบ่งถ่ายหลายครั้ง ผู้ที่มีนิสัยที่ต้องเบ่งถ่ายนานๆเป็นประจำซึ่งมักเกิดในคนที่ชอบอ่าน หนังสือในขณะถ่ายอุจจาระ หรือในคนที่ชอบนอนหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆจนท้องอืดบ่อยและต้องเบ่ง ถ่ายวันละหลายครั้ง ทำให้เกิดแรงดันมากบริเวณทวารหนักจนกระทั่งกล้ามเนื้อเล็กๆที่ทำหน้าที่ยึด ริดสีดวงทวารกับผนังของทวารหนักฉีกขาด เป็นผลให้ริดสีดวงทวารยื่นออกจนบางครั้งออกมานอกทวารหนักจนผู้ป่วยรู้สึกได้ ว่ามีก้อนเนื้อโผล่ออกมาในระหว่างถ่ายอุจจาระ
ในระยะแรกก้อนที่ยื่นออกมาอาจกลับเข้าไปเอง แต่ถ้าเป็นมากอาจต้องใช้มือดันกลับ และเมื่อทิ้งไว้จนมีขนาดใหญ่ขึ้นมากก็จะโผล่ตลอดเวลา การที่ท้องผูกบ่อยๆและอุจจาระแข็งทำให้อุจจาระครูดกับหัวริดสีดวงเกิดเลือด ออกได้
ระยะของโรคริดสีดวงทวาร
ริดสีดวงสามารถแบ่งตามตำแหน่งคือ เป็นชนิดภายในและภายนอก โดยริดสีดวงภายนอกมักไม่ก่อให้เกิดอาการใดๆ ยกเว้นอาจสร้างความรำคาญและอาการชื้นแฉะบริเวณทวารหนักได้
ส่วนริดสีดวงภายในมี 4 ระยะคือ
ระยะที่ 1 ริดสีดวงยังอยู่ภายในทวารหนัก มักมีอาการถ่ายเป็นเลือดสด และยังคลำไม่พบก้อนเนื้อเวลาถ่าย
ระยะที่ 2 ริดสีดวงอยู่ภายในทวารหนักแต่จะโผล่ออกมาเฉพาะเวลาถ่ายอุจจาระ จะมีอาการเลือดสดออกมาเช่นกันและคลำได้ก้อนเนื้อเวลาถ่าย
ระยะที่ 3 ริดสีดวงจะโผล่ออกมาเวลาถ่ายอุจจาระ จะคลำได้ก้อนเนื้อเวลาถ่ายและไม่กลับเข้าไปเองต้องใช้นิ้วดันกลับเข้าไป ถ้าเผลอไม่ได้ดันกลับหลังถ่ายเสร็จแล้วรีบลุกขึ้น ก็อาจทำให้เกิดลิ่มเลือดในหัวริดสีดวงคลำได้แข็งเป็นก้อนและเจ็บปวดอย่างมาก ได้
ระยะที่ 4 ริดสีดวงโผล่ออกมาที่ปากทวารตลอดเวลา ไม่สามารถดันกลับได้
อาการของผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวาร
1. ถ่ายเป็นเลือดสด เลือดที่ออกจากริดสีดวงทวารมักมีลักษณะเฉพาะคือ เป็นเลือดแดงสด หยดตามหลังอุจจาระโดยจะไม่ปนกับอุจจาระ หรือถ้าออกมากก็อาจพุ่งเป็นลำครั้งละมากๆได้ เลือดมักจะหยุดเองเมื่อถ่ายเสร็จ ถ้าหากเลือดที่ออกเป็นเลือดเก่าปนกับอุจจาระ เป็นลิ่มเลือด หรือสีอุจจาระผิดปกติเป็นสีดำแดง โดยเฉพาะถ้ามีมูกปนหรือมีกลิ่นคาว ให้สงสัยว่าอาจไม่ใช่โรคริดสีดวงทวาร ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
2. คลำได้ก้อนเนื้อโผล่ออกมาในขณะถ่าย อาจจะกลับเข้าไปเองหรือต้องใช้นิ้วดันกลับเข้าไปในทวารหนัก
3. อาการปวด โดยทั่วไปริดสีดวงไม่ทำให้เกิดอาการปวด เกิดเฉพาะในกรณีที่เกิดลิ่มเลือดในหัวริดสีดวงคลำได้แข็งเป็นก้อนและเจ็บปวด มากและตลอดเวลา โดยพบได้ทั้งริดสีดวงภายในและภายนอก 4. บางครั้งถ้ามีริดสีดวงหลายหัวและมีขนาดใหญ่จนเกิดอาการระคายเคือง รู้สึกแฉะหรือคันบริเวณทวารหนักได้
การรักษาโรคริดสีดวงทวาร
1. การฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวง (injection) โดยตรงทางกล้องที่ใส่เข้าไปทางทวารหนัก ใช้ในริดสีดวงระยะที่ 1 และ 2 ยาที่นิยมใช้รักษาเช่น Aethoxysklerol หรือ 5% Phenol in almond oil เป็นต้น ยาจะทำให้หัวริดสีดวงฝ่อลงในเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ การรักษาวิธีนี้เป็นการรักษาที่ไม่เจ็บปวดและไม่ค่อยพบผลข้างเคียง ถ้าตำแหน่งที่ฉีดยาไม่ลึกหรือตำแหน่งต่ำจนเกินไป อย่างไรก็ตาม การฉีดยาอย่างไม่ระมัดระวังหรือบ่อยครั้งจนเกินไป อาจทำให้เกิดพังผืดรั้งจนหูรูดตีบแคบลงได้
2. การรัดหัว (rubber band ligation) ใช้ยางวงใส่ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า Baron gun เข้าไปรัดที่หัวเพื่อให้หัวริดสีดวงขาดเลือดมาเลี้ยง จะทิ้งยางไว้ให้หัวเน่าหลุดออกมาเองในเวลา 2-3 วัน ใช้สำหรับริดสีดวงในระยะแรกเช่นกัน การรัดหัวในตำแหน่งที่ต่ำเกินไปจนใกล้กับบริเวณหูรูดที่มีเส้นประสาทค่อน ข้างมากจะทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงหลังการรัดได้
3. การรักษาด้วยเลเซอร์ Fotona หรือแสง infrared โดยการใช้เลเเซอร์ไฟเบอร์ขนาดเล็กยิงที่หัวริดสีดวงเพื่อให้เกิดความร้อนที่หัวริดสีดวง ทำให้หัวริดสีดวงฝ่อลง มีข้อดีคือ เจ็บน้อยกว่า ไม่มีเลือดออก และแผลหายเร็วกว่า
4. การผ่าตัด ด้วยจี้ไฟฟ้าหรือใช้เครื่องมือตัดต่อพิเศษ สำหรับริดสีดวงในระยะ 3 หรือ 4
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่คลินิก โทร 074-238803 หรือ 08-74757788 ในเวลาเปิดบริการ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วิธีทําอาหารสำหรับคนเป็นโรคริดสีดวง
อาหารบำบัดโรคบำรุงกาย
1. อาหารบำรุงเล็บ อาหารที่ทำให้เล็บแข็งแรง ไม่แตกหักง่าย คืออาหารที่มีวิตามินดีและบี 2 เช่นอาหารจำพวกปลา ตับสัตว์ มันฝรั่ง ข้าวซ้อมมือ เมนู แกงกะหรี่ตับไก่
2. อาหารลดสารพิษ ได้แก่ นม เต้าหู้ หอมใหญ่ ช่วยขับสารตะกั่วในร่างกาย เมนู ผัดกะเพราเต้าหู้ไก่
3. อาหารรักษาโรคริดสีดวงทวาร ซึ่งโรคนี้เกิดจากท้องผูกเป็นเวลานาน จึงต้องกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ผักที่มีเส้นใยสูง เช่น มะขาม สับปะรด ขี้เหล็ก สะเดา มะระ เมนู แกงอ่อมใบยอปลาดุก
4. อาหารรักษาโรคคอพอก โรคนี้เกิดจากการขาดสารไอโอดีน แต่ถ้ากินไอโอดีนมากไปก็ไม่ดี ในหนึ่งวันร่างกายควรได้รับไอโอดีน 2 มิลลิกรัม พบมากในอาหารทะเล เมนู ต้มข่าทะเลวุ้นเส้น
5. อาหารบำรุงผมและผิว ผมแห้งแตกปลาย ผิวแห้งไม่เรียบ ต้องกินอาหารจำพวกทะเล เช่น สาหร่าย แตงกวา สับปะรด กระเทียม กะหล่ำปลี หัวไชเท้า ผักใบเขียว เมนู กุ้งเปรี้ยวหวาน
6. อาหารสร้างภูมิคุ้มกัน หากป่วยบ่อยๆ แล้วหายยาก ควรกินอาหารที่มีผักและผลไม้มากๆ ที่มีวิตามินซีเยอะๆ มีเบต้าแคโรทีน กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เมนู ส้มตำกุ้งสดรวมมิตร
7. อาหารที่ช่วยให้หายท้องอืด การที่ท้องอืดเป็นเพราะกินอาหารที่มีไขมันสูง เนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก ดังนั้นควรจะกินอาหารประเภทปลา สมุนไพรแก้ท้องอืด เช่น ตะไคร้ ขมิ้น พริกไทย ข่า ขึ่นฉ่าย เมนู ปลาต้มขมิ้น
8. อาหารที่ช่วยแก้หน้ามัน คนที่หน้ามันมักเป็นสาเหตุของการเกิดสิว จึงไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันสูง ควรกินผักผลไม้ให้มากและอาหารที่มีวิตามินซีมาก ๆ เช่น ส้ม มะนาว แตงโม แตงกวา มะเขือเทศ เมนู ยำทะเล
9. อาหารสำหรับโรคไต คนที่เป็นโรคกรวยไตอักเสบ ต้องกินอาหารที่รสไม่เค็ม และต้องเป็นอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ปลา ไม่ควรกินอาหารหมักดอง อาหารกระป๋องต่าง ๆ เมนู ต้มส้มปลา
10. อาหารสำหรับโรคโลหิตจาง โรคนี้ร่างกายจะขาดธาตุเหล็ก สีเลือดจึงใส ควรกินอาหารที่มีวิตามินบี 12 วิตามินซี ธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กพบมากในหอยลาย หอยนางรม ตับวัว ตับไก่ ตับหมู เนื้อวัว ปลา ไข่ ผักที่มีธาตุเหล็ก ตำลึง ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง คะน้า มะเขือพวง ดอกแค ขี้เหล็ก ชะพลู ผักหวาน ผักกูด ใบยอ ผักปลัง เป็นต้น วิตามินซีพบมากใน มะเขือเทศ เมนู หอยลายผัดพริกสด น้ำพริกมะเขือพวงปลาทู
11. อาหารสำหรับโรคเบาหวาน ผู้ป่วยไม่ควรกินอาหารที่มีแป้ง ไขมันและน้ำตาลมากเกินไป เพราะจะไปเพิ่มน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นได้ ควรกินผักและผลไม้ที่จะช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ เช่น มะระขี้นก สะตอ ตำลึง ขึ้นฉ่าย เมนู แกงส้มตำลึงกับปลาช่อน
12. อาหารสำหรับโรคไซนัส โรคนี้เกิดจากการเป็นหวัดนานๆ แพ้สารเคมีบางชนิด เช่น น้ำยารีดผ้า สเปรย์ฉีดผม การลงเล่นน้ำที่ไม่สะอาด เนื้องอกในโพรงจมูก การอดนอนเป็นประจำ เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของโรคทั้งสิ้น อาการเริ่มแรกของไซนัส คือ เป็นหวัด เพราะฉะนั้น ต้องป้องกันหวัดก่อนที่จะกลายเป็นไซนัส อาหารที่ควรกิน คือ หัวหอม พริก ใบกะเพรา ผักโขมจีน เมนู ปลากะพงผัดสมุนไพร
13. อาหารลดไมเกรน ควรเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ กินข้าวที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ถั่วเหลือง ผัก ผลไม้ ปลา เนื้อวัวไม่ติดมัน ไข่ นม ผักที่ช่วยลดอาการปวดไมเกรน คือ พริก กระเทียม ขิง หอมใหญ่ เมนู ต้มแซบเนื้อ
14. สังกะสีอาหารบำรุงสมองเสริมความคิด สังกะสีเป็นเกลือแร่ที่ช่วยให้ความคิดดี ชะลอความแก่ของเซลล์ มีมากในผักใบเขียวเข้ม เช่น ตำลึง ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง ใบกระถิน ใบบัวบก คะน้า ใบชะพลู เมล็ดทานตะวัน มะม่วงดิบ แอปเปิล หมู ไก่ ตับสัตว์ เป็นต้น เมนู ยำมะม่วงห่อใบชะพลู
15. หอมใหญ่อาหารเสริมความงาม หอมใหญ่มีกำมะถัน เมื่อกินอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ผิวพรรณดีมีเลือดฝาด ผิวหน้าเกลี้ยงเกลา เนียนเรียบ ช่วยขับสารพิษ และช่วยให้หายเป็นหวัด หากกินน้ำหอมใหญ่ปั่นทุกวันก่อนนอน 1 แก้ว จะทำให้หลับสบายขึ้น เมนู หมูผัดขิงหอมใหญ่
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++