โรคริดสีดวงทวารหนักรักษาอย่างไรหายเร็ว โรคริดสีดวงทวารมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง โรงพยาบาลที่เกี่ยวกับโรคริดสีดวง
โรคริดสีดวงทวารหนักรักษาอย่างไรหายเร็ว
ประธานชมรมศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เผยข้อสรุปนวัตกรรมใหม่ในการรักษาริดสีดวง ด้วยวิธีการผ่าตัดแบบสมัยใหม่ โดยใช้เครื่องมือตัดเย็บแบบใหม่ (Stapled hemorrhoidectomy) หรือที่เรียกว่า การผ่าตัดรักษาด้วยวิธี PPH (procedure for prolapsed and hemorrhoid) ช่วยให้ผู้ป่วยเจ็บน้อยและแผลหายเร็วขึ้น
กรุงเทพฯ - มิถุนายน 2552 - พล.ต.รศ.นพ.ปริญญา ทวีชัยการ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ประธานชมรมศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (ประเทศไทย) เปิดเผยถึง ข้อสรุปนวัตกรรมใหม่ในการรักษาริดสีดวงทวารหนักในวงการแพทย์ไทย ด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดแบบสมัยใหม่ ที่ทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อยและแผลหายเร็วยิ่งขึ้น ว่าวงการแพทย์ไทยได้มีการจัดประชุมวิทยาการเกี่ยวกับการรักษาโรคริดสีดวงทวาร ซึ่งได้ข้อสรุปทางเทคนิคในการผ่าตัดรักษาริดสีดวงทวารที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วย หรือผู้ที่กำลังมีปัญหาการรักษาในปัจจุบัน ด้วยนวัตกรรมวิธีการผ่าตัดแบบสมัยใหม่ ซึ่งนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วย ในกรณีที่ต้องรักษาโรคริดสีดวงทวารหนักด้วยการผ่าตัดโดยพบข้อดีสำหรับผู้ป่วยหลังการผ่าตัดด้วยเครื่องมือผ่าตัดแบบใหม่ ที่เรียกว่า Stapled hemorrhoidectomy ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อย และใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดและพักฟื้นตัวน้อย ระยะเวลาการฟื้นตัวของผู้ป่วยหลังการผ่าตัดเร็ว ความต้องการในการรับประทานยาแก้ปวดของผู้ป่วยน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบเดิม รวมถึงผลข้างเคียง หลังการผ่าตัดไม่ก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อน ผู้ป่วยจึงกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ไวกว่าการผ่าตัดแบบเดิม
โรคริดสีดวงทวารหนักเป็นโรคที่พบบ่อยทั้งในเพศชายและเพศหญิง แต่ผู้ป่วยจำนวนมาก
มีแนวโน้มที่จะเก็บความทุกข์ทรมานจากโรคนี้ไว้ตามลำพังเนื่องจากความอายและกลัวการผ่าตัด โดยสมาคมศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนักแห่งสหรัฐอเมริการายงานว่า ประชากรประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของประเทศจะมีโอกาสเป็นโรคริดสีดวงทวารหนักในช่วงชีวิตของเขา และเหตุผลหนึ่งที่ผู้ป่วยไม่กล้าปรึกษาแพทย์เพราะกลัวการรักษาด้วยการผ่าตัดแบบเดิม ซึ่งมีข้อมูลว่าเจ็บปวดแสนสาหัส อีกทั้งผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบลำไส้ใหญ่และทวารหนัก หรือไปรักษาจากบุคคลากรที่ไม่ใช่แพทย์ มักจะก่อให้เกิดปัญหาโรคแทรกซ้อนตามมา ที่พบบ่อยที่สุดคือรูทวารตีบตันไม่สามารถถ่ายอุจจาระได้ ซึ่งมักพบจากการรักษาริดสีดวงทวารหนัก โดยการจี้ด้วยธูปความร้อน จี้ด้วยกรดหรือสารเคมีกัดผิวหนัง ฉีดสารเคมีที่ไม่ถูกต้องลงไป รวมทั้งการผ่าตัดที่ตัดริดสีดวงออกมากเกินไป ทำให้ต้องใช้เวลารักษาตัวนานอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้ทวารหนักใหม่สามารถใช้การได้ดี
ในปัจจุบันมีวิธีการรักษาโรคริดสีดวงทวารหนักที่ถูกต้องมากมายหลายวิธี ที่สามารถขจัดปัญหาเรื่องริดสีดวงทวารหนักออกไป โดยไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานใด ๆ ขึ้นอยู่กับชนิดของริดสีดวงว่าเป็นริดสีดวงชนิดภายใน (Internal Hemorrhoid) หรือริดสีดวงชนิดภายนอก (External Hemorrhoid) ซึ่งหลัก ๆ แล้ว มีอยู่ 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ การรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด และการรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเลือกรักษาโดยวิธีการไม่ต้องผ่าตัด หากอาการนั้นยังไม่ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานในการใช้ชีวิตประจำวันมากจนเกินไป
การรักษาด้วยการผ่าตัดโดยใช้เครื่องมือตัดเย็บแบบใหม่ (Stapled hemorrhoidectomy) หรือที่เรียกว่า การผ่าตัดรักษาด้วยวิธี pph (procedure for prolapsed and hemorrhoid) เหมาะกับการรักษาโรคสีดวงทวารหนักชนิดภายใน ในระยะที่ 3 และ 4 หรือริดสีดวงทวารหนักชนิดภายในที่เป็นโดยรอบทวารหนัก โดยการผ่าตัดแบบนี้ เป็นวิธีแก้ไขกลไกที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารหนักโดยตรง เพราะจากทฤษฏีแล้ว ริดสีดวงทวารหนักเกิดจากการเลื่อนตัวของเบาะรอง (cushion) ที่อยู่ภายในทวารหนักออกมาภายนอก วิธีการผ่าตัดนี้จะดันเบาะรองกลับไปสู่ตำแหน่งเดิม และตัดเฉพาะส่วนเกินที่ยื่นออกมาเท่านั้น ไม่ตัดเบาะรองออกทั้งหมด ในความเป็นจริงแล้วเบาะรองมีประโยชน์ในการทำให้ทวารหนักของคนเราปิดสนิท ไม่มีน้ำอุจจาระ เล็ดออกมาได้ในระหว่างที่ไม่ได้ถ่ายอุจจาระ
ซึ่งการผ่าตัดโดยใช้เครื่องมือตัดเย็บแบบใหม่นี้ ประกอบด้วยอุปกรณ์ที่สำคัญ 3 ส่วน คือ เครื่องมือสอดและถ่างทวารหนัก เครื่องมือช่วยเย็บ และเครื่องมือตัดเย็บหัวริดสีดวง โดยการตัดและเย็บนี้ จะกระทำตามแนวเส้นรอบวงโดยตลอด จึงสามารถตัดหัวริดสีดวงออกได้ทุกหัวและไม่ทำให้รูทวารหนักแคบลง อีกทั้งแนวการเย็บอยู่สูงกว่าเส้นเด็นเต็ท (dentate line) ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่มีเส้นประสาทรับความรู้สึกเจ็บปวดมาเลี้ยง จึงทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดน้อยลง โดยมีผลศึกษาทางการแพทย์จากรายงานในต่างประเทศที่สอดคล้องกับผลสรุปของการประชุมในครั้งนี้ว่า การผ่าตัดรักษาโรคริดสีดวงทวารหนักชนิดภายในด้วยเครื่องมือตัดเย็บแบบใหม่นี้ มีข้อดีคือ ตัดหัวริดสีดวงทวารหนักออกได้หมด โดยไม่เกิดผลแทรกซ้อนเรื่องทวารหนักตีบตัน รวมถึงโอกาสเกิดปัญหากลั้นอุจจาระไม่อยู่ก็น้อยกว่าการผ่าตัดแบบเดิม เพราะผู้ป่วยยังคงเหลือส่วนเบาะรอง (Cushion) เอาไว้ทำหน้าที่ได้ แต่จุดเด่นที่สำคัญ ความเจ็บปวดหลังผ่าตัดและการใช้เวลาพักฟื้นน้อย สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ไวกว่าการผ่าตัดแบบเดิม
นิตยสาร Medical Upgrade ฉบับ 011
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โรคริดสีดวงทวารมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง
ริดสีดวงทวาร วิธีรักษาและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ โดย เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล
เมื่อรู้แน่ว่าคุณกำลังทนทรมาณจากโรคลมเย็นนี้แล้ว มาทบทวนวิธีการรักษาโรคและบรรเทาอาการที่น่ารำคาญต่างๆ รู้จักยาที่ใช้ รวมไปทั้งหลังจากอาการดีขึ้นแล้ว คุณควรปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้อีกหน่ะครับ
ริดสีดวงทวารมีรักษาอย่างไร
เมื่อคุณไปพบแพทย์แล้ว การรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะที่เป็น
ในระยะที่ 1 การรักษาไม่ว่าจะมีเลือดออกมาหรือไม่ จะเน้นการใช้ยาและการปฏิบัติตัวควบคู่ไปด้วย
- การใช้ยามักให้ยาในรูปแบบยาภายนอก ได้แก่ยาครีมหรือยาสอดทวารหนักที่มีตัวยาผสม ได้แก่ยาหดหลอดเลือดเพื่อไปลดอาการบวม ยาชาเพื่อไปลดการคัน และยาฝาดสมานเพื่อไปทำให้แผลแห้งบรรเทาอาการระคายเคือง และมักให้ยาที่ทำให้อุจจาระนุ่มเพื่อลดอาการอักเสบ
- การปฏิบัติตัวคือแนะนำให้รับประทานทานอาหารมีกาก เส้นใยมากๆ ดื่มน้ำมากๆ และ หลีกเลี่ยงการเบ่งหรือนั่งนานๆ
ระยะ 2 และ 3ที่เป็นไม่มาก การรักษายังคงเหมือนด้วยระยะแรกคือการให้ยารวมทั้งการปรับลักษณะนิสัยเหมือนเดิม
- อาจจ่ายยาเพิ่ม โดยเป็นยาที่ไปเพิ่มประสิทธิ์ภาพการทำงานของหลอดเลือดดำให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น จึงลดอาการอักเสบและบวมได้
- หากมีอาการปวดมาก ให้รับประทานยาแก้ปวด หรือควรนั่งแช่ในน้ำอุ่นจัดๆ วันละ 2-3ครั้ง ครั้งละ 30นาที
- ถ้าหัวริดสีดวงหลุดออกมาภายนอก ล้างมือให้สะอาดหรืออาจใส่ถุงมือ ดันหัวริดสีดวงกลับเข้าไป แล้วรีบไปพบแพทย์ต่อไป
- อาจจะให้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวงให้ฝ่อไป หรือใช้วิธีใช้ยางรัดที่ไปทำให้หัวริดสีดวงฝ่อ หรือใช้แสงเลเซอร์รักษา
ระยะ 3 ที่เป็นมากๆ ถึง 4 รวมทั้งคนไข้ที่มีภาวะแทรกซ้อน คงต้องเข้ารับการผ่าตัด
วิธีป้องกันริดสีดวงทวาร
ตัวโรคนี้เอง ไม่ได้มีอันตรายมากนัก สามารถรักษาด้วยยาควบคู่ไปกับการปรับลักษณะนิสัย มีส่วนน้อยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ในบางรายอาจเกิดการกลับมาเป็นซ้ำได้เนื่องจากมีริดสีดวงหัวใหม่ๆเกิดขึ้นมาอีก
- ลดอาการท้องผูก โดยการดื่มน้ำให้มากๆ และเลือกรับประทานอาหารที่มีกากเส้นใยมากๆ เช่นผักและผลไม้ ถ้ายังท้องผูกอีกให้เลือกใช้ยาระบายแบบสารเพิ่มกากใยหรือสารที่ไปทำให้อุจจาระนุ่ม
- ถ้านั่งทำงานนานๆ ควรเปลี่ยนอิริยาบถในเวลาพักบ้าง โดยลุกขึ้นเดินอย่างน้อยชั่วโมงละครั้ง
- หลีกเลี่ยงการดื่มสุราที่จะไปทำให้ร่างกายขาดน้ำ ผลที่ตามมาจะส่งผลให้อุจจาระแข็ง ขับถ่ายลำบาก
หากอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับริดสีดวงทวาร ยาที่ใช้ในการรักษา การดูแลตัวเองและคนรักในครอบครัว สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้จากเภสัชกรใจดีที่ร้านยาหรือที่โรงพยาบาลได้เลยครับ พวกเราเภสัชกรยินดีและเต็มใจรับใช้พี่น้องครับ
แหล่งข้อมูล
- Hemorrhoids and hemorrhoid treatment, www.hemorrhoid.net/hemorrhoid_treatment_options.php
- Hemorrhoid, https://hemorrhoidtreatment.com
- สูรเกียรติ์ อาชานุภาพ, ริดสีดวงทวาร , ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป
- ธเนศ พัวพรพงษ์ , ริดสีดวงทวาร , www.thaiclinic.com
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โรงพยาบาลที่เกี่ยวกับโรคริดสีดวง
ระยะที่ 1 หัวริดสีดวงจะอยู่ภายในรูทวารหนักมักจะมีปัญหาเลือดออก | - รักษาได้โดยการให้ยาฉีดเข้าไปในตำแหน่งเลือดออก หรือใช้ยาเหน็บ ยากิน |
ระยะที่ 2 หัวริดสีดวงที่อยู่ภายในจะโผล่เมื่อถ่ายอุจจาระและหดกลับมาได้เอง | - ยิงยางรัดโคนหรือหัวของริดสีดวงที่โผล่ออกมาก็จะทำให้หัวริดสีดวงนั้นฝ่อและหลุดไปได้หรือผ่าตัดด้วยเครื่องตัดเย็บอัตโนมัติ |
ระยะที่ 3 หัวริดสีดวงโผล่ และใช้มือดันกลับได้ | - ผ่าตัดด้วยมือ เครื่องตัดเย็บอัตโนมัติหรือใช้ยางรัด |
ระยะที่ 4 หัวริดสีดวงยื่นออกมาใหญ่ดันกลับไม่ได้ | - ผ่าตัดด้วยมือ และเครื่อง Ligasure |
โทร. : ต่อ 2115, 2176