โรคริดสีดวงจมูก สมุนไพรรักษาโรคริดสีดวงจมูก อาการของโรคริดสีดวงจมูก


34,139 ผู้ชม


โรคริดสีดวงจมูก สมุนไพรรักษาโรคริดสีดวงจมูก อาการของโรคริดสีดวงจมูก

                โรคริดสีดวงจมูก

ริดสีดวงจมูกโรคร้ายใกล้ตัว

 หลายคนอาจยังไม่รู้จัก 

 

 

 

 

 

 

 

ถ้าเอ่ยชื่อ “ริดสีดวงจมูก” หลายคนอาจจะทำหน้างง ๆ ไม่รู้จัก ว่า มันคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วอาการคล้ายกับริดสีดวงทวารหรือไม่ ?

ดังนั้นเพื่อให้ผู้อ่านหายข้องใจ ผู้เขียนจึงได้สัมภาษณ์ ผศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน สาขาโรคจมูกและโรคภูมิแพ้ ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

ผศ.นพ.ปารยะ อธิบายว่า ริดสีดวงจมูกเกิดจากการที่เยื่อบุจมูกอักเสบ บวมขึ้นเรื่อย ๆ มีน้ำคั่ง กลายเป็นก้อนในจมูก เหตุผลที่เรียกริดสีดวงจมูก เนื่องจากมีลักษณะเป็นก้อนคล้ายริดสีดวงทวารที่ยื่นออกมาในจมูก ซึ่งความจริงก็คือ เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงในจมูกนั่นเอง

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ โรคภูมิแพ้ ซึ่งจะมีการอักเสบของเยื่อบุจมูกเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน เมื่อมีการอักเสบนาน ๆ เยื่อบุจมูกจะมีการบวมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในคนที่ไม่รักษาหรือรักษาไม่ถูกต้อง ปล่อยให้มีการอักเสบซ้ำ ๆ ซาก ๆ เยื่อบุจมูกก็จะบวมออกมากลายเป็นริดสีดวงจมูก

ทั้งนี้การอักเสบเรื้อรังจะมี 2 แบบด้วยกัน คือ เยื่อบุอักเสบจากภูมิแพ้ และเยื้อบุอักเสบชนิดไม่แพ้ ทั้ง 2 อย่างทำให้เกิดริดสีดวงจมูกได้ทั้งนั้น หรือในคนไข้ที่เป็น ไซนัสอักเสบเรื้อรังนาน ๆ เยื่อบุของไซนัสก็จะบวมออกมากลายเป็นริดสีดวงได้ แต่เราจะไม่เรียกริดสีดวงไซนัส

อาการของคนที่เป็นริดสีดวงจมูก ถ้าขนาดไม่โตมากคนไข้อาจจะไม่มีอาการอะไร แต่ถ้าเยื่อบุจมูกบวมมาก ๆ อากาศผ่านจมูกไม่ได้ คนไข้จะมีอาการคัดแน่นจมูก นอกจากนี้จมูกยังมีหน้าที่รับกลิ่น เมื่อไหร่ก็ตามอากาศไม่สามารถเข้าไปในจมูกถึงเซลล์ประสาทรับกลิ่นได้ ก็จะทำให้คนไข้มีปัญหาเรื่องการรับกลิ่นเสียไป หรือไม่ได้กลิ่น  และอย่างที่บอกริดสีดวงจมูกจะเกิดร่วมกับโรคภูมิแพ้และการอักเสบเรื้อรัง นอกจากอาการคัดจมูกแล้ว คนไข้อาจจะมีอาการคัน จาม น้ำมูกไหล ร่วมด้วย หรือถ้าริดสีดวงจมูกไปอุดรูเปิดของไซนัสที่เปิดเข้ามาในโพรงจมูก คนไข้อาจจะมีไซนัสอักเสบร่วมด้วย

การรักษาแบ่งเป็น 2 วิธี คือ การให้ยา และ การผ่าตัด ยาหลักในการรักษาที่สำคัญ คือ ยาสเตียรอยด์ มีทั้งชนิดกินและชนิดฉีดพ่นเข้าไปในจมูก ทำให้ริดสีดวงจมูกยุบและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ แต่ยาสเตียรอยด์ชนิดรับประทานใช้นานไม่ได้ จะใช้ได้ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้นยาหลักในการรักษาระยะยาวคือยาสเตียรอยด์ชนิดพ่น ซึ่งปลอดภัยกว่า และสามารถพ่นได้นานหลายดือน หรือหลายปี

ส่วนการผ่าตัด จะใช้ในกรณีที่ให้ยาเต็มที่แล้วไม่ดีขึ้น ยังมีอาการคัดแน่นจมูก ไม่ได้กลิ่น หรือให้ยาเต็มที่แล้วดีขึ้น แต่ลดยาไม่ได้ พอลดยาลงคนไข้กลับมามีอาการเหมือนเดิม ในกรณีนี้แพทย์จะพิจารณาการผ่าตัดให้กับคนไข้

มีบางคนบอกว่า การใช้ยาพ่นจมูกจะยิ่งทำให้ริดสีดวงบวมขึ้นจริงหรือไม่ ? ผศ.นพ.ปารยะ กล่าวว่า อันนั้นเป็นยาอีกประเภท คือ ยาหดหลอดเลือด คือ เวลาคนไข้มีปัญหาคัดจมูกไปที่ร้านขายยา เภสัชกรมักจะสั่งยาพวกนี้ให้ เนื่องจากพ่นแล้วมันโล่ง แต่พอใช้ไปนาน ๆ แทนที่เยื่อบุจมูกที่บวมจะยุบ กลับบวมมากขึ้น ดังนั้นการใช้ยาหดหลอดเลือดขอแนะนำว่าไม่ ควรใช้เกิน 7-10 วัน

คนไข้ที่เป็นริดสีดวงจมูกต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ? ผศ.นพ.ปารยะ กล่าว ว่า อันดับแรกต้องรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ริดสีดวงจมูกโตมากขึ้น คนไข้จะได้หลีกเลี่ยง เพราะถึงแม้จะผ่าตัดออกแล้วก็มีโอกาสที่จะบวมกลับมาเป็นใหม่ได้อีก เมื่อสาเหตุหลัก ๆ คือ ปฏิกิริยาภูมิแพ้ คนไข้จะต้องหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ฝุ่น ควัน สิ่งระคายเคืองทั้งหลาย จัดบ้านเรือนให้สะอาด ลดสารก่อภูมิแพ้ นอกจากนี้ควรออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความไวของเยื่อบุจมูกลง

นอกจากนี้สาเหตุอีกอย่าง คือ การติดเชื้อ โดยเฉพาะหวัดที่เป็นกันบ่อย ถ้าปล่อยให้เป็นหวัดเยื่อบุจมูกอักเสบ ริดสีดวงจมูกก็จะกลับมาเป็นใหม่ ดังนั้นจะต้องป้องกันไม่ให้เป็นหวัด ในการป้องกันก็ต้องรู้ว่าสาเหตุของหวัดเกิดจากอะไร ส่วนใหญ่หวัดมักจะเกิดจากภูมิต้านทานที่ต่ำลง โดยมีที่มาจาก ความเครียด นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ โดนอะไรเย็น ๆ เช่น อาบน้ำเย็น โดนแอร์ พัดลมเป่า หรืออยู่ใกล้กับคนที่ไม่สบาย เป็นหวัด ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้มากขึ้น ดังนั้นก็หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นเหล่านี้ ถ้าหลีกเลี่ยงทั้งหวัด สารก่อภูมิแพ้ และหมั่นออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง ก็จะทำให้ริดสีดวงไม่โตมากขึ้น

      Link       https://www.thaihealth.or.th

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

           สมุนไพรรักษาโรคริดสีดวงจมูก

ริดสีดวงจมูก คือการที่เยื่อบุจมูกหรือไซนัสมีการอักเสบและบวม จนยื่นออกมาเป็นก้อน ทำให้โพรงจมูกและ/ หรือไซนัสแคบ ริดสีดวงจมูกนี้ เป็นก้อนเนื้องอกในโพรงจมูกชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด และเป็นโรคทางจมูกและไซนัสที่สร้างปัญหาให้กับทั้งตัวผู้ป่วย เองและแก่แพทย์ผู้ทำการรักษา ซึ่งได้แก่ปัญหาเรื่องการเกิดเป็นซ้ำและการเกิดไซนัสอักเสบร่วมด้วย ทำให้เกิดความเข้าใจทั้งในหมู่ประชนทั่วไปและในหมู่แพทย์เองว่ารักษาไม่หาย ผู้ป่วยบางรายได้รับการผ่าตัดหลายครั้งก็ยังเกิดเป็นซ้ำได้อีก สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดริดสีดวงจมูกยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตามมีปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่อาจมีส่วนในการเกิดริดสีดวงจมูก ได้แก่ 1) การอักเสบเรื้อรังและการติดเชื้อซึ่งกลับเป็นซ้ำบ่อยๆ ของเยื่อบุจมูกและเยื่อบุไซนัส ซึ่งมีผลทำให้เกิดการบวมของเยื่อบุ 2) ความผิดปกติของการตอบสนองของระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของหลอดเลือดและ ภาวะความไวเกินของหลอดเลือดที่มาเลี้ยงเยื่อบุจมูกและเยื่อบุไซนัสทำให้เกิดการบวม ของเยื่อบุ 3) ความผิดปกติของกระแสลมที่ผ่านเข้าไปบริเวณซึ่งเป็นต้นตอของริดสีดวงจมูก ได้แก่ บริเวณโพรงจมูกส่วนกลาง และบริเวณรูเปิดของ ไซนัส ยาแก้โรคริดสีดวงจมูก ยาสมุนไพรแก้ริดสีดวงจมูก ขนานที่ ๑ ท่านให้เอา หัวจุกกระเทียม จำนวนมากน้อยตามต้องการ นำมาหั่นให้ละเอียด ตาก แดดให้แห้งผสมกับยาฉุน (ยาเส้นใช้มวนกับใบตองหรือใบจาก) และพิมเสนพอสมควร ใช้มวนกับใบตองจุดไฟสูบทางจมูก โดยสวนมวนยาในรูจมูกข้างหนึ่ง อุดรูจมูกเสียข้างหนึ่ง สูดเอาควันยาให้เข้าไปรมในจมูกให้นานๆ แล้วเปลี่ยนกันสูดอีกข้างหนึ่งสลับกันไป ขนานที่ ๒ ท่านให้เอา ใบหนาด ๑ หัวตะไคร้ ๑ ดอกลำโพง ๑ หญ้าแพรก ๑ ไม้ซาก (ไม้ไผ่ที่สับ แผ่ออกเป็นแผ่น ใช้ปูพื้นแทนไม้กระดาน) ขูดให้เป็นฝอย ๑ ขี้ม้า (แห้ง) ๑ เขาควายเผือก (ขูดให้เป็นฝอย) ๑ ตัวยาทั้ง ๗ อย่างนี้ เอาอย่างละเท่าๆกัน นำมาหั่นให้ละเอียดผสมกันดีแล้ว ใช้กระดาษร่ม (กระดาษที่ใช้ปิดร่มกระดาษ) มวนสูบ ขนานที่ ๓ ท่านให้เอา ใบต้นสิงหะโมรา จำนวนมากน้อยตามต้องการ นำมาหั่นให้ละเอียด ตากแดดให้แห้ง ผสมกับพิมเสนพอสมควร ใช้มวนด้วยสมุดข่อยดำ หรือมวนด้วยใบตองสูบ ขนานที่ ๔ ท่านให้เอา รากต้นทองหลาง ๑ รากต้นรางจืด ๑ รากต้นมะกล่ำ ๑ รากต้นส้มป่อย ๑ รากต้นมะเฟือง ๑ หญ้าหนวดแมว ๑ (พยัพเมฆ) ๑ หัวข้าวเย็นเหนือ ๑ ตัวยาทั้ง ๗ อย่างนี้ เอาอย่างละเท่าๆกัน นำมาใส่หม้อดิน ต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลา เช้า-กลางวัน-เย็น วันละ ๓ เวลา ประมาณ ๗-๑๕ วัน ขนานที่ ๕ ท่านให้เอา หัวยาข้าวเย็นเหนือ ๑ หัวยาข้าวเย็นใต้ ๑ หัวจุกหอมแดง ๑ หัวจุกกระเทียม ๑ ว่านหางช้าง ๑ ตัวยาทั้ง ๕ อย่างนี้ เอาหนักอย่างละ ๔ บาทเท่ากัน นำมาใส่หม้อดิน ต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลา เช้า-กลางวัน-เย็น วันละ ๓ เวลา ขนานที่ ๖ ท่านให้เอา ขนนกตะขาบ ๑ มะเขือขื่น ๑ ดอกตาล ๑ ตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้ เอาอย่างละเท่าๆ กัน มีวิธีปรุงยาดังนี้ ขนนกตะขาบเผาไฟให้ไหม้เสียก่อน มะเขือขื่นขูดเอาเฉพาะเยื่อใน แล้วตากแดดให้แห้ง ดอกตาลตากแดดให้แห้ง ใช้ใบยาสูบทั้งใบ มวนตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้ จุดไฟสูบทางจมูกจนหมดมวน ให้ปรุงยานี้รักษาเพียง ๓ ครั้ง ขนานที่ ๗ ท่านให้เอา รากกระเทียมแห้ง จำนวนมากน้อยตามต้องการ นำมามวนกับใบตองแห้ง สูบ แทนบุหรี่ ให้ควันยาออกทางจมูกให้มากๆ ปรุงยานี้สูบวันละ ๒ ครั้ง เวลา เช้า-เย็น ติดต่อกัน ๗ วัน

        Link   https://www.takculture.com

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

                    อาการของโรคริดสีดวงจมูก

โรคริดสีดวงจมูก รักษาอย่างไร

ถาม

ผมได้ซื้อหนังสือหมอชาวบ้าน ครั้งที่ 2 มาอ่าน มีประโยชน์มาก แต่ก็ไม่เกี่ยวกับโรคที่ผมเป็น ผมเป็นโรคริดสีดวงจมูก เนื้องอกในจมูก ผมอยากจะเรียนถามวิธีการรักษา รักษาวิธีไหนจึงจะหาย ผมเป็นมานานเป็น 2 ปีเศษแล้ว ผมจะบอกอาการให้คุณหมอได้ทราบอาการของโรคริดสีดวง เนื้องอกในมูก นั้นมีอาการ ในรูจมูกนั้นจะมีเนื้องอกออกมาจากด้านใน จะทำให้รูจมูกตันทั้ง 2 ข้าง จะมองเห็นเป็นสีแดงช้ำมีน้ำมูกไหลออกมาใสๆ บางครั้งจะคันในรูจมูกและจะจาม 6-7 ครั้ง ผมใช้ยาอะไรก็ไม่หาย ทั้งหยอดและกิน แต่ตอนนี้ ผมใช้ยาหยอด ชื่อยาเคลทารินอล หยอดเข้าไปแล้ว จะทำให้เนื้องอกในจมูกทั้งสองข้างยุบหดเข้าที่ได้ถึง 2-3 ชั่วโมง ก็เป็นอย่างเก่าอีก คุณหมอจะมียาอะไรที่รักษาโรคนี้ได้ จะไปรักษาที่ไหนจึงจะหาย ผมหวังว่าคุณหมอคงจะให้คำแนะนำผมด้วย ผมจะบอกที่อยู่ให้คุณหมอทราบ และขอให้คุณหมอตอบทางจดหมายส่วนตัว ผมได้สอดซองติดแสตมป์มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และผมจะติดตามนิตยสารหมอชาวบ้านต่อๆ ไปอีก

สุดท้ายนี้ ผมขอให้คุณหมอทุกๆ ท่านที่ให้ความช่วยเหลือผม จงประสบแต่ความสุข และขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย จงปกป้องภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับหมอและผมขอให้นิตยสารหมอชาวบ้านให้จำหน่ายขายดียิ่งๆ ขึ้นไป

ปรีชา ปุญญฤทธิ์

ตอบ

โรคริดสีดวงจมูก หรือ เนื้องอกในจมูก มักจะเกิดจากการแพ้อากาศ หรือแพ้ฝุ่นละออง แพ้เกสรดอกไม้ หรือสิ่งอื่น ยิ่งมีน้ำมูกใสๆ มีอาการคันในจมูก และชอบจามด้วย ยิ่งทำให้แน่ใจว่า โรคของคุณเกิดจากการแพ้แน่

วิธีแก้อาการของโรคนี้ คือ

1. กินยาแก้แพ้ คลอร์เฟนิรามีน (เม็ดละ 10 สตางค์) ครั้งละ 1 เม็ด สามเวลาหลังอาหาร และก่อนนอน ยานี้จะช่วงลดอาการคัน และอาการคัดจมูก และลดน้ำมูกด้วย แต่กินแล้วจะง่วง ถ้ากินยาแล้วง่วง ห้ามขับรถหรือทำงานที่อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

2. ถ้าต้องการลดอาการคันหรือคัดจมูกในทันที ให้ใช้นิ้วบีบจมูกให้แน่นจนหายใจเข้าออกไม่ได้ แล้วพยายามสูดหายใจเข้าทางจมูก ทั้งที่ลมหายใจผ่านจมูกไม่ได้ ทำเช่นนั้นจนกระทั่งกลั้นหายใจต่อไปไม่ได้จึงปล่อยมือที่บีบจมูกออก รูจมูกจะโล่งอยู่ได้สักพักหนึ่ง

3. จี้ หรือ ผ่าตัดเยื่อบุจมูกที่บวมเป็นริดสีดวง หรือ เนื้องอก นั้นให้เล็กลง วิธีนี้จะแก้อาการคัดจมูกได้นานหน่อย แต่ไม่หายขาด เพราะจะกลับเป็นได้อีก

วิธีรักษาให้หาย คือ

1. ห้ามใช้ยาหยอดจมูก ยาพ่นจมูกหรือยานัตถ์ทุกชนิด เพราะยิ่งใช้ เยื่อจมูกจะยิ่งบวม กลายเป็นริดสีดวงหรือเนื้องอกที่ใหญ่มากขึ้น

2. ห้ามสั่งน้ำมูกแรงๆ เวลาน้ำมูกไหล ให้ใช้ผ้าหรือกระดาษฟาง หรือการะดาษที่ดูดซับน้ำได้ดีซับออก อย่าสั่งน้ำมูกแรงๆ จะทำให้เยื่อเมือกช้ำและเป็นมากขึ้น

3. ออกกำลังกายเป็นประจำ สม่ำเสมอทุกวันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

4. หลีกเลี่ยงจากสิ่งที่ทำให้คันในจมูก หรือคัดจมูก หรือทำให้จาม สิ่งนั้นอาจจะเป็นอากาศ กลิ่น ฝุ่นละอองหรืออะไรก็ได้

นพ.สันต์ หัตถีรัตน์

               Link   https://doctor.or.th

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

อัพเดทล่าสุด