โรคผิวหนังในสุนัข โรคผิวหนังสุนัข สุนัขเป็นโรคผิวหนัง


5,961 ผู้ชม


โรคผิวหนังในสุนัข โรคผิวหนังสุนัข สุนัขเป็นโรคผิวหนัง

            โรคผิวหนังในสุนัข

โรคผิวหนังในสุนัข

posted on 10 May 2009 01:29 by why-not

เวลาสุนัขมีปัญหาโรคผิวหนัง หลายต่อหลายคนมักจะเข้าใจว่าสุนัขเราเป็น ขี้เรื้อน เพราะสุนัขจะแสดงอาการ เกา, คัน, ผิวหนังแดงอักเสบ และขนร่วงจนแทบ จะหมดตัว บางรายจะมีกลิ่นตัวที่เหม็น และมีสะเก็ดรังแคมาก บางรายอาจจะมี ลักษณะเป็นแผลเต็มตัว รักษาอย่างไรก็ไม่หายซะทีสร้างความยุ่งยากใจ และอาจ ก่อให้เกิดปัญหาแก่ผู้เลี้ยงเป็นอย่างมาก

ในความเป็นจริงแล้วโรคผิวหนังของสุนัขมีอยูหลายชนิด แต่ละโรคมีสาเหตุที่แตกต่างกัน แม้ว่าอาการที่แสดงออก และลักษณะของผิวหนังจะ เหมือนกันก็ตาม ดังนั้นการที่เราจะรู้ว่าสุนัขของเราเป็นโรคผิวหนังอะไร จึงจําเป็น ที่จะต้องพาสุนัขไปพบกับสัตวแพทยเพื่อวินิจฉัยถึงสาเหตุที่แทจริง แล้วทําการ รักษา, ดูแลสัตว์เลี้ยงตามคําแนะนําของสัตวแพทย

โรคผิวหนังที่พบบ่อย และก่อให้เกิดความรําคาญ คือ โรคผิวหนังที่เกิดจาก ปรสิต ทั้งที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

1. ปรสิตที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ที่พบบ่อย คือ เห็บ, หมัด และที่พบไดบ้าง คือ เหา สุนัขของเราจะมีอาการคัน และเกามากจนเกิดผิวหนังอักเสบติดเชื้อ เจ้าของ ที่สัมผัสหรือโดนปรสิตเหล่านี้กัดบางคนก็อาจจะเกิดอาการแพ เป็นผื่นคันตาม ผิวหนังด้วยเช่น กัน

2. ปรสิตที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่พบบ่อยในบ้านเรา ส่วนใหญ่จะรู้จักกันในชื่อของตัวไร แต่ ไรที่มีปัญหาต่อผิวหนังมีอยูหลายชนิด การแยกชนิด ทําได โดยการขูดตรวจผิวหนัง หรือเอาขี้หูไปส่องตรวจทางกล้องจุลทรรศนโรคที่มีสาเหตุมาจากไรขี้เรื้อนที่ พบบ่อย ได้แก

โรคขี้เรื้อนเปียก สาเหตุเกิดจากไรขี้เรื้อนที่มีชื่อว่า Demodex โรค ผิวหนัง ชนิดนี้เป็นโรคที่ไม่ติดต่อสู่สุนัขที่เลี้ยงด้วยกัน และไม่ติดสู่คน สาเหตุของการเกิด โรคยังไม่แน่ชัดเนื่องจากเราสามารถพบไรชนิดนี้ในผิวหนังของสุนัขปกติไดแต่ คาดว่าน่าจะเกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ลดต่ำลง จนทําใหไรชนิดนี้มีผลหรือ ก่อให้เกิดปัญหาต่อผิวหนัง

โรคขี้เรื้อนแห้ง สาเหตุเกิดจากไรขี้เรื้อนที่มีชื่อว่า Sarcoptes โรคผิวหนัง ชนิดนี้จะติดต่อสูสุนัขที่เลี้ยงรวมกัน และสามารถทําใหคนที่สัมผัส เกิดอาการแพ หรือเป็นผื่นคันที่ผิวหนังได

โรคผิวหนังที่เกิดจากไรในหู โดยไรที่ก่อใหเกิดโรคคือ ไรชื่อ otodectes ตัว ไรจะอาศัยอยูในช่องหู สุนัขที่มีปัญหาจะมีขี้หูสีดํา หรือสีน้ำตาลเข้ม สุนัขจะมี อาการเกาคัน และสะบัดหูบ่อยๆ หากเปนมากอาจทําใหผิวหนังบริเวณรองหู เกิด การอักเสบติดเชื้อหรือทําให้เกิดลักษณะของหูบวมเลือด (hematoma) บางรายอาจมี ปัญหาทางระบบประสาท คือ ชัก ตากระตุก เดินหัวเอียงหรือเดินเวียนเปนวง โรค ผิวหนังชนิดนี้พบในแมวไดเช่น กัน

โรคผิวหนังที่พบบ่อย และส่วนใหญสามารถติดสูคนได เป็นโรคที่เจ้าของ จะต้องระมัดระวัง และใหความสําคัญเป็นพิเศษ ไดแก โรคผิวหนังที่มีสาเหตุจากเชื้อรา โรคนี้สามารถติดสูสัตว และคนที่มีรางกาย ออนแอ และไปสัมผัสโดนเชื้อ ผิวหนังสุนัขที่เปนจะพบขนรวงเปนวง มีอาการคัน ไมมากนัก เราไมสามารถแยกชนิดของเชื้อราไดดวยตาเปลา แตเราสามารถแยกได โดยการเพาะในอาหารเลี้ยงเชื้อ และสองตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน

โรคผิวหนังที่พบบ่อยแต่เป็นปัญหาเฉพาะตัวของสัตวเลี้ยงก็ เป็นอีกโรคที่ พบมาก โรคในกลุ่มนี้ต้องใชการรักษาระยะยาว หรือบางโรคอาจจะต้องไดรับการ รักษาตลอดชีวิต

1. โรคผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากภูมิแพ (atopy) โดยรางกายของสุนัขจะมี ปฏิกิริยาตอบสนองตอสิ่งที่สัมผัสหรือสิ่งที่แพไวเปนพิเศษ เปนโรคที่เกี่ยวของกับ พันธุกรรม และรักษาไมหายขาด การรักษาโดยมากจะเปนการรักษาตามอาการ และควบคุมการคันไปตลอดชีวิตของสุนัข แตหากเราทราบสาเหตุของการแพ และ หลีกเลี่ยงสภาพที่กอใหเกิดการแพ สุนัขของเราก็สามารถหาย และไมตองกินยา ตลอดชีวิตได สาเหตุของการแพที่พบบอย เชน แพไรฝุน แพละอองเกสรดอกไม

2. โรคผิวหนังที่มีสาเหตุจากเชื้อยีสต โดยเฉพาะสุนัขที่ผิวหนังอับชื้น หรือ มีรอยพับของผิวหนังมาก หากมีการอักเสบติเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยก็จะยิ่งทําให สุนัขมีอาการคัน และมีกลิ่นตัวแรง ในสุนัขปกติก็สามารถพบยีสตชนิดนี้ไดที่ ผิวหนัง แตยีสตดังกลาวจะเพิ่มจํานวนจนทําใหเกิดโรคไดในบางกรณี เชน ใน สุนัขเป็นโรคผิวหนังภูมิแพชนิด atopy อยูแล้ว

3. โรคผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากฮอร์โมน เป็นโรค ที่ไมค่อยก่อใหเกิดความ รําคาญแกเจ้าของมากนักหากไมมีการติดเชื้อแทรกซอน เพราะอาการเดนของโรค คือ ขนร่วงแตไมมีอาการคัน ฮอร์โมนที่มีความสําคัญตอผิวหนังไดแกฮอรโมน เพศ (Sex hormone), ฮอรโมนไธรอยด (Thyroid hormone), ฮอรโมนที่เกี่ยวกับการ เจริญเติบโต (Growth hormone)

4. โรคที่ผิวหนังที่เกิดจากการขาดสารอาหาร โดยอาจจะเกิดจากการขาด ความเขาใจของเจาของโดยใหอาหารที่มีคุณประโยชนไมเพียงพอ เปนระยะเวลา นาน หรืออาจจะเปนเพราะสุนัขเลือกกินแตอาหารที่ชอบ หรือบางครั้งอาจกินแตขนมทําใหไมยอมกินอาหาร สภาวะที่สุนัขขาดสารอาหารทําใหเกิดปญหาตอ ผิวหนัง และขนของสุนัขได

5. โรคผิวหนังที่เกิดจาก Autoimmune (ระบบภูมิคุhมกันทําลายผิวหนัง) เปHนโรคที่พบไดไมบอยนัก แตเปนโรคที่คอนขางรายแรง และสงผลตออวัยวะ หลายระบบของสุนัข การจะแยกกวาโรคผิวหนังชนิดนี้มีสาเหตุจากอะไร อาจจะ ตองทําการตัดชิ้นเนื้อบริเวณรอยโรคเทียบกับชิ้นเนื้อปกติเพื่อสงตรวจทาง พยาธิ วิทยา ความรุนแรง และการรักษาจะขึ้นอยูกับชนิดของโรค

6. เนื้องอก โดยเนื้องอกจะมีทั้งเนื้องอกธรรมดา และเนื้องอกชนิดที่เปน เนื้อราย เนื้องอกธรรมดา อาจจะกอใหเกิดความรําคาญแกตัวสุนัข และจะมีปญหา มากหากสุนัขเกาหรือพยายามกัดจนเกิดเปนแผล และมีการติดเชื้อแทรกซอน เนื้อ งอกบางชนิดสามารถพัฒนาเปนเนื้อรายได สวนเนื้องอกชนิดที่เปนเนื้อรายจะขยาย ขนาดอยางรวดเร็วบางชนิดอาจจะขยายจนผิวหนังแตกเปนแผล การรักษาจะตอง ทําโดยการผาตัดเอากอนเนื้องอกออก และพิสูจนชิ้นเนื้อ เพื่อปองกันการกลับมา เปนอีก แตหากกอนเนื้อมีขนาดใหญจนไมสามารถเอาออกได การทราบชนิดของ กอนเนื้อก็จะทําใหสัตวแพทยสามารถเลือกใชเคมีบําบัด เพื่อทําใหขนาดกอนเนื้อ เล็กลงจนสามารถผาตัดเอาออกได

จะเห็นไดวาโรคผิวหนังของสุนัขมีอยูหลายชนิดจริงๆ และแตละชนิดมี แนวทางการรักษา และระยะเวลาในการรักษาที่แตกตางกัน ดังนั้นหากสุนัขของเรา เริ่มมีปญหา เจาของควรจะรีบพาไปพบสัตวแพทยเพื่อทําการตรวจวินิจฉัยหา สาเหตุที่แทจริง และรีบทําการรักษาแตเนิ่นๆ สุนัขของเราก็จะมีสภาพผิว และขนที่ ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีตอไปอีกนาน

          Link    https://why-not.exteen.com

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


                โรคผิวหนังสุนัข

โรคผิวหนังที่อาจเกิดกับสุนัขในหน้าร้อน

ภาวะผิวหนังแพ้ง่ายที่อาจเกิดได้กับสุนัขของคุณ

Dogilike.com :: Hot Spot โรคผิวหนังที่อาจเกิดกับสุนัขในหน้าร้อน

     ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ หนึ่งปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพสุนัขที่มักพบมากที่สุดก็คือปัญหา โรคผิวหนังต่างๆ เช่น ขนร่วง ผิวหนังอักเสบ เป็นแผลเรื้อรัง ฯ

     ... อย่างตอนนี้มีสุนัขของเพื่อนๆ หลายคน กำลังเจอกับปัญหามีภาวะผิวหนังแพ้ง่าย เวลาคันหรือเกาขนจะร่วงเยอะมาก หลายคนบอกว่า ตอนแรกคิดว่าน่าจะเกิดจากปัญหาเห็บหมัด แต่พอเช็คดูแล้วก็ไม่มีเพราะว่าฉีดยาป้องกันเห็บหมัดตามที่คุณหมอกำหนดตลอด
     มีอยู่รายหนึ่ง สุนัขมีอาการผิวหนังแพ้ง่ายติดต่อกันประมาณสามอาทิตย์ ปรากฏว่าเกิดอาการผิดปกติขึ้นบริเวณใต้ผิวหนัง มีก้อนนูนๆ เกิดขึ้นที่หลังหลายจุด และบางจุดก็มีเลือกซึมออกมา ผู้เลี้ยงก็เลยต้องพาไปพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุของอาการผิดปกตินี้
Dogilike.com :: Hot Spot โรคผิวหนังที่อาจเกิดกับสุนัขในหน้าร้อน

     หลังจากการตรวจอย่างละเอียดคุณหมอก็บอกว่า สุนัขมีอาการ "ภาวะแพ้อากาศร้อนจัด" หรือที่เรียกว่า  "Hot Spot" นั่นเองค่ะ


Hot Spot คืออะไร
     จริงๆ แล้วอาการ  Hot Spot ก็คือโรคผิวหนังอักเสบในสุนัขนั่นเองค่ะ สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้มาจากความอับชื้น เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดูค่ะ แต่ว่าจะพบมากในช่วงที่มีอากาศร้อนและความชื้นสูง
     สำหรับอาการของโรค  Hot Spot นั้น สุนัขจะมีอาการเป็นแผลอักเสบเป็นวงกลม แผลจะเป็นแผลแฉะ มีน้ำเยิ้มๆ อาจจะเป็นแผลตื้นหรือแผลลึกก็ได้ค่ะ สุนัขจะรู้สึกเจ็บและคันทำให้สุนัขเลีย กัด เกา บริเวณที่เป็นแผลทำให้มีอาการอักเสบและลุกลามไปเรื่อยๆ แผลจะขยายขนาดได้ไวมาก จากขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของแผล 1/4 นิ้ว จะใหญ่ขึ้นเป็นขนาดแผล 8 นิ้ว ในเวลาเพียง 6 ชั่วโมง
Dogilike.com :: Hot Spot โรคผิวหนังที่อาจเกิดกับสุนัขในหน้าร้อน


Hot Spot รักษาได้โดย ...

     เราจะต้องรักษาไม่ให้แผลขยายใหญ่ขึ้น และแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ โดยลำดับขั้นตอนการดูแลรักษาบรรเทาอาการมีดังนี้
     1. เริ่มจากการโกนขนบริเวณรอบแผลออกให้หมด เพื่อให้แผลแห้งและได้รับอากาศ สะดวกต่อการทำความสะอาดแผล
     2. ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือสำหรับล้างแผลแล้ว (หรือยา betadyne, chlorhexidine scrubs, boric acid) โรยแป้งยาปฏิชีวนะ หรือทาครีมที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะกับสเตียรอยด์ (ครีมเพนนิโซโลน หรือ ครีม Hydrocortisone) สเตียรอยด์ใช้เพื่อลดอาการคัน ส่วนยาปฏิชีวนะจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียพวก staph
     ผู้เลี้ยงควรทำแผลให้สุนัขวันละหลายๆ ครั้ง เพื่อให้แผลแห้งตลอดเวลา การทำแผลสำหรับวิธีธรรมชาติจะใช้แอสไพลินละลายในน้ำชาเข้มข้น (น้ำชามีฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบและเชื้อรา ส่วนแอสไพลินบรรเทาอาการเจ็บปวด)
     3. รายที่เป็นมากอาจจะต้องฉีดสเตียรอยด์ cortisone เพื่อหยุดอาการคันทันที แผลจะได้ไม่ลุกลาม และฉีดปฏิชีวนะควบไปด้วย (เพื่อให้ทราบปริมาณการใช้ยาที่เหมาะสมควรปรึกษาสัตว์แพทย์)
     4. ให้ยาปฏิชีวนะสำหรับทาน 10 วันเป็นอย่างน้อย โดยยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ดีในการฆ่าเชื้อ staph คือ Trimethoprim Sulfa
     5. ถ้าดูแผลแล้วน่าจะมีอาการเจ็บแผลให้ใช้ยาแอสไพลิน หรือ สเตียรอยด์ เพื่อบรรเทาอาการ
     6. ระหว่างการรักษา ผู้เลี้ยงควรใส่ collars (ปลอกคอกันเลีย) กันการเลียและกัดแผล รวมทั้งตัดเล็บและใส่ถุงเท้าให้สุนัข เพื่อป้องกันการเกาแผลจนเกิดการอักเสบ
     7. ควรอาบน้ำบ่อยๆ ด้วยแชมพูที่มีส่วนผสมของตัวยาที่มีฤทธ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น benzoyl peroxide
Dogilike.com :: Hot Spot โรคผิวหนังที่อาจเกิดกับสุนัขในหน้าร้อน


ดูและหลังการรักษา

     เมื่อรักษาอาการ Hot Spot หายดีแล้ว ผู้เลี้ยงจะต้องดูแลเรื่องขนของสุนัขให้ดี โดยเฉพาะสุนัขขนยาว ต้องหมั่นหวี และตัดขนไม่ให้ยาวจนเกิดไป ดูแลเรื่องเห็บหมัด หมั่นฉีดยาควบคุมเห็บหมัดตามที่คุณหมอแนะนำ นอกจากนี้ควรให้อาหารเสริมบำรุงผิวหนังพวกวิตามินอี น้ำมันปลา แชมพูที่ใช้ควรเป็นแชมพูสมุนไพรที่มีส่วนผสมของ aloe, oatmeal, jojoba, หรือ eucalyptus
Dogilike.com :: Hot Spot โรคผิวหนังที่อาจเกิดกับสุนัขในหน้าร้อน

Dogilike.com :: Hot Spot โรคผิวหนังที่อาจเกิดกับสุนัขในหน้าร้อน

     ลองสังเกตดูนะคะว่า หน้าร้อนนี้สุนัขของเพื่อนๆ มีอาการแบบนี้หรือเปล่า ถ้ามีล่ะก็ต้องมีรักษาด่วนเลยนะคะ เพราะอาการ Hot Spot ลุกลามได้ง่ายมาก ถ้าไม่รีบทำการรักษาอย่างถูกวิธี อาจจะกลายเป็นโรคเรื้อรังทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของสุนัขได้ค่ะ
บทความโดย:  Dogilike.com
 
         Link  https://www.dogilike.com

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=

            สุนัขเป็นโรคผิวหนัง

ตว์เลี้ยงกับโรคผิวหนัง PDF พิมพ์ อีเมล
เขียนโดย Administrator   
วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 15:21 น.

          หนึ่งในหลายโรคภัยไข้เจ็บของสุนัขที่เจ้าของต้องประสบพบเจอบ่อยๆในสัตว์เลี้ยงของคุณ คงไม่พ้น “โรคผิวหนัง” ที่แม้จะไม่เป็นอันตรายรุนแรงถึงแก่ชีวิตเฉียบพลัน แต่สร้างความวิตกกังวลให้คนเลี้ยงได้ระดับหนึ่งทีเดียว

          เวลาสุนัขมีปัญหาโรคผิวหนัง หลายต่อหลายคนมักจะเข้าใจว่าสุนัขเราเป็น ขี้เรื้อน ในความเป็นจริงแล้วโรคผิวหนังของสุนัขมีอยู่หลายชนิด แต่ละโรคมีสาเหตุที่แตกต่างกัน แม้ว่าอาการที่แสดงออก และลักษณะของผิวหนังจะเหมือนกันก็ตาม ดังนั้นการที่เราจะรู้ว่าสุนัขของเราเป็นโรคผิวหนังอะไร จึงจําเป็น ที่จะต้องพาสุนัขไปพบกับสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยถึงสาเหตุที่แทจริง แล้วทําการรักษา ดูแลสัตว์เลี้ยงตามคําแนะนําของสัตวแพทย์

สาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังสามารถแบ่งเป็นกลุ่มๆ ได้ ดังนี้

  1. โรคผิวหนังที่เกิดจากปรสิต  ทั้ง ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น พวกเห็บ หมัด สุนัขของเราจะมีอาการคัน และเกามากจนเกิดผิวหนังอักเสบติดเชื้อ และที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น ตัวไร ซึ่งตัวไรบางชนิดเป็นสาเหตุให้เกิดโรคขี้เรื้อนได้ หากผู้เลี้ยง หรือคนไปสัมผัส หรือถูกปรสิตกัด ก็อาจเกิดอาการแพ้ หรือเป็นผื่นคันที่ผิวหนังได
  2. โรคผิวหนังที่มีสาเหตุจากเชื้อรา  โรค นี้สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ ถ้าหากว่ามีรางกาย อ่อนแอ และไปสัมผัสโดนเชื้อ ผิวหนังสุนัขที่เป็นจะพบว่าขนร่วงเป็นวง มีอาการคัน เราไมสามารถแยกชนิดของเชื้อราได้ด้วยตาเปลา แต่เราสามารถแยกได้ โดยการเพาะในอาหารเลี้ยงเชื้อ และส่องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์
  3. โรคผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากภูมิแพ้  อาจ เกิดอาการแพ้ได้ทั้งจากอาหาร หรือสิ่งแวดล้อม เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับ พันธุกรรม และรักษาไม่หายขาด การรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ และควบคุมการคันไปตลอดชีวิตของสุนัข แต่หากเราทราบสาเหตุของการแพ้ และหลีกเลี่ยงสภาพที่ก่อให้เกิดการแพ้ สุนัขของเราก็สามารถหาย และไม่ต้องกินยาตลอดชีวิตได้ สาเหตุของการแพ้ที่พบบ่อย เช่น แพ้ไรฝุ่น แพ้ละอองเกสรดอกไม้
  4. โรคผิวหนังที่มีสาเหตุจากเชื้อยีสต์  โดย เฉพาะสุนัขที่ผิวหนังอับชื้น หรือ มีรอยพับของผิวหนังมาก หากมีการอักเสบติเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยก็จะยิ่งทําให้ สุนัขมีอาการคัน และมีกลิ่นตัวแรง ยีสต์ดังกล่าวจะสามารถเพิ่มจํานวนจนทําให้เกิดโรคได้ในบางกรณี เช่น ในสุนัขเป็นโรคผิวหนังภูมิแพ้อยู่แล้ว
  5. โรคผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากฮอร์โมน  โรค เป็นโรคที่ไม่ค่อยก่อให้เกิดความรําคาญแก่เจ้าของมากนักหากไม่มีการติดเชื้อ แทรกซ้อน เพราะอาการเด่นของโรค คือ ขนร่วงแต่ไม่มีอาการคัน ฮอร์โมนที่มีความสําคัญต่อผิวหนังได้แก่ฮอร์โมน เพศ  (Sex hormone), ฮอร์โมนไธรอยด์ (Thyroid hormone), ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการ เจริญเติบโต (Growth hormone)
  6. โรคที่ผิวหนังที่เกิดจากการขาดสารอาหาร  โดย อาจจะเกิดจากการขาด ความเข้าใจของเจ้าของโดยให้อาหารที่มีคุณประโยชน์ไม่เพียงพอ เป็นระยะเวลา นาน หรืออาจจะเป็นเพราะสุนัขเลือกกินแต่อาหารที่ชอบ หรือบางครั้งอาจกินแต่ขนมทําให้ไม่ยอมกินอาหาร สภาวะที่สุนัขขาดสารอาหารทําให้เกิดปัญหาต่อ ผิวหนัง และขนของสุนัขได้
  7. โรคผิวหนังที่เกิดจาก Autoimmune (ระบบ ภูมิคุ้มกันทําลายผิวหนัง ) เป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่เป็นโรคที่ค่อนข้างร้ายแรง และส่งผลต่ออวัยวะ หลายระบบของสุนัข การจะแยกกว่าโรคผิวหนังชนิดนี้มีสาเหตุจากอะไร อาจจะต้องทําการตัดชิ้นเนื้อบริเวณรอยโรคเทียบกับชิ้นเนื้อปกติเพื่อส่งตรวจ ทางพยาธิวิทยา ความรุนแรง และการรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดของโรค
  8. เนื้องอก  โดย เนื้องอกจะมีทั้งเนื้องอกธรรมดา และเนื้องอกชนิดที่เป็น เนื้อร้าย เนื้องอกธรรมดา อาจจะก่อให้เกิดความรําคาญแก่ตัวสุนัข และจะมีปัญหามากหากสุนัขเกาหรือพยายามกัดจนเกิดเป็นแผล และมีการติดเชื้อแทรกซ้อน เนื้องอกบางชนิดสามารถพัฒนาเป็นเนื้อร้ายได้ ส่วนเนื้องอกชนิดที่เป็นเนื้อร้ายจะขยาย ขนาดอย่างรวดเร็วบางชนิดอาจจะขยายจนผิวหนังแตกเป็นแผล การรักษาจะต้อง ทําโดยการผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออก หรือใช้เคมีบําบัด

จะทราบได้อย่างไรว่าสุนัขเป็นโรคผิวหนัง

          โดยปกติแล้วสัตว์เลี้ยงควรมีผิวหนังที่เรียบ และนุ่ม ปราศจากผื่นแดงที่อาจเกิดจากการระคายเคือง หรือ การแพ้ ผิวหนังปกติไม่ควรแห้ง หรือมันจนเกินไป รวมถึงไม่ควรมีขนร่วงตามจุดต่างๆ ตามร่างกาย นอกจากนั้น โรคผิวหนังยังมีการแสดงอื่นๆ ได้อีก เช่น

  • แสดงอาการคัน เกา เลีย หรือถูตัว
  • ผิวหนังมีผื่น จุดแดง หรือพบลักษณะคล้ายสิว
  • มีสะเก็ดแผล หรือผิวหนังหนาตัวขึ้น
  • มีขนร่วง
  • ผิวหนังแห้ง พบสะเก็ดรังแค
  • มีกลิ่นตัว

การป้องกัน และดูแลรักษาสุนัขที่เป็นโรคผิวหนัง

          สำหรับวิธีป้องกันโรคผิวหนังจากทุกๆ สาเหตุได้เกือบ 100% คือ ต้องทำให้ร่างกายสัตว์เลี้ยงแข็งแรงทั้งภายในและภายนอก โดยการถ่ายพยาธิภายในลำไส้ กำจัดเห็บหมัด บริโภคอาหารที่มีโภชนาการสมดุล ซึ่งการบริโภคอาหารที่เหมาะสมจะเป็นทั้งการป้องกันการเกิดโรค และทำให้โรคหายเร็วขึ้นได้ แม้ว่าโรคนั้นจะไม่ได้มีสาเหตุมาจากอาหารโดยตรงก็ตาม ส่วนประกอบสำคัญคัญของอาหารที่ช่วย คือ

  • โปรตีนคุณภาพสูงจะช่วย ซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังที่ถูกทำลาย การให้โปรตีนที่ผ่านการลดขนาดโมเลกุล (Hydrolyzed) หรือแม้แต่การใช้โปรตีนจากแหล่งอื่น สามารถแก้ไขภาวะแพ้โปรตีนในอาหารได้
  • กรดไขมันที่จำเป็น อาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็น โอเมก้า 3 และ 6 ซึ่งพบมากในน้ำมันจากปลา จะช่วยปรับการขับไขมันให้เหมาะสม และสามารถลดการอักเสบที่ผิวหนังได้
  • สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ จะช่วยบำรุงร่างกาย และทำให้สัตว์เลี้ยงแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันสูง สามารถต่อต้านโรค และอนุมูลอิสระได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

          อาหารที่มีส่วนประกอบของคุณประโยชน์เหล่านี้ จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดี และช่วยจัดการด้านผิวหนัง และขนให้สมบูรณ์ ช่วยในการรักษา และจัดการโรคได้เป็นอย่างดี

          รวมถึงใช้แชมพูให้เหมาะกับผิวหนังสุนัขจริงๆ และต้องใช้ให้ถูกวิธีตามฉลากที่บอกไว้ข้างขวด คือ ผสมน้ำให้เจือจางก่อน ไม่ใช่เทใส่ตัวสุนัขโดยตรง และแชมพูที่ดีไม่จำเป็นต้องฟองเยอะ สังเกตได้จากแชมพูยาที่ไม่ค่อยมีฟองหรือไม่มีฟองเลย

          ที่สำคัญเจ้าของต้องปรับทัศนคติในการอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง ไม่ควรบ่อยเกินไป เพราะทำให้ผิวหนังแห้ง สองสัปดาห์ครั้งหรือเดือนละครั้งก็พอ หรืออาจจะเพียงแปรงขนตายออก และใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็คเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตามถ้าปฎิบัติตามหลักข้างต้นแล้วสุนัขของคุณยังคันผิดปกติ ควรนำไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง จะได้รักษาทันท่วงที ทั้งนี้โรคผิวหนังป้องกันได้ถ้าผู้เลี้ยงเข้าใจสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กับ ผิวหนังได้อย่างถูกต้อง

 ข้อควรจำ ความผิดปกติของผิวหนังเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจเกิดจากการแพ้ หรือโรคต่างๆ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวินิจฉัยโรค และทำการรักษาอย่างถูกต้อง

ที่มา : เอกสารแนะนำบริษัท เวท เรคคอมเมนต์ จำกัด
         Dog lover zone กับอาหารสุนัข เพียวริน่า โปรแพลน
         โรงพยาบาลสัตว์ บุ่งตาหลั่ว


Link  https://www.huskygang.com

++++++++++++++++=++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=

อัพเดทล่าสุด