โรคเก๊า กิน น้ำพริกกะปิ ได้ไหม อาหารสำหรับผู้สูงวัยโรคเก๊า โรคเก๊าท์ ทำประกัน
โรคเก๊า กิน น้ำพริกกะปิ ได้ไหม
อันเนื่องมาจากกระทู้ของคุณธนาธิปใน Impressive songs
พูดถึงโรคเก๊าท์ ...จึงขอยกมาเป็นหัวข้อใหม่ตรงนี้
เผื่อสมาชิกท่านอื่นจะได้สนใจศึกษาไปด้วย
โรคเกาต์ เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดตามข้อชนิดหนึ่ง
ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกัน ของกรดยูริกภายในข้อ
และประกอบกับการที่มีปริมาณกรดยูริกสูงด้วย
คนแต่ละวัย ก็มีระดับกรดยูริกในเลือดที่แตกต่างกันได้
เช่น ผู้หญิงวัยก่อนหมดประจำเดือน จะมีระดับกรดยูริกในเลือดสูงกว่าคนในวัยอื่นๆ
และนอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคเกาต์ มากกว่าผู้หญิงอีกด้วย
ร้อยละ 80-90 ของผู้ป่วยโรคเก๊าท์จะเป็นเพศชาย
โรคเกาต์ ก็เป็นอีกโรคหนึ่ง ที่เกิดจากปัญหาในเรื่องอาหารการกิน
วิธีการป้องกันและบรรเทา อาการเจ็บป่วยจากโรคเกาต์ที่ดีที่สุด
คือ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ที่มีพิวรีนสูง
เพราะว่าจะทำให้เกิดการอักเสบของข้อขึ้นอีก
ข้อพึงปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์
-เป็นที่น่าแปลกใจไม่น้อยที่ท่านสามารถจะอยู่เป็นปกติสุขได้
ถ้าเพียงแต่ท่านจะปฏิบัติตนกลาง ๆ อย่างพอสัณฐานประมาณ
เพื่อบรรเทา และควบคุมอาการของโรคเก๊าท์ ท่านควรปฏิบัติตน ดังนี้
-รับประทานอาหารตามปกติ และให้ร่างกายได้รับคุณค่าอาหารที่เพียงพอ
ไม่ควรรับประทานมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
ไม่ควรรับประทานชนิดของอาหารตามที่แพทย์สั่งห้าม
-นอนหลับให้เพียงพอ การที่ร่างกายได้รับการพักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ
จะทำให้เกิดอาการโรคเก๊าท์ชนิดฉับพลันได้ง่าย
-สวมรองเท้าขนาดพอเหมาะ ลดความชอกช้ำที่ร่างกายได้รับ
เช่น จากการสวมรองเท้าที่คับเกินไป
จะเป็นสาเหตุให้เกิดอาการโรคเก๊าท์ชนิดเฉียบพลันขึ้นได้
-ควบคุมน้ำหนักของร่างกาย การที่น้ำหนักตัวมากเกินไปหรืออ้วนเกินไป
จะทำให้การรักษาโรคเก๊าท์ยุ่งยากซับซ้อน และอาจทำให้อาการโรครุนแรงยิ่งขึ้น
-ควรดื่มน้ำมาก ๆ ผู้ป่วยด้วยโรคเก๊าท์มักจะมีก้อนนิ่วเกิดขึ้นในไตได้ง่าย
การดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว (ประมาณ 2 ลิตร) จะช่วยได้มากในเรื่องนี้
-ใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง เมื่อจะเดินทางไกล ควรนำยาติดตัวไปด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงจากปัญหายาหมด
-ควรแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบว่าท่านเป็นโรคเก๊าท์ ในกรณีที่ท่านจะได้รับการผ่าตัด
แม้การผ่าตัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจจะกระตุ้นให้เกิดอาการโรคเก๊าท์ชนิดเฉียบพลันขึ้นได้
จึงควรแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบก่อนทำการผ่าตัด
เพื่อศัลยแพทย์จะได้หามาตรการบางอย่างเพื่อปฏิบัติต่อไป
ข้อพึงงดเว้น
-อย่าเอาความวิตกกังวลไปเป็นเพื่อนนอน
เพราะความวิตกกังวลจะทำให้เกิดอาการโรคเก๊าท์ชนิดเฉียบพลันขึ้นได้
-อย่าออกกำลังกายหักโหม ควรปฏิบัติหน้าที่การงานหาความเพลิดเพลิน
และออกกำลังกายตามที่ท่านเคยปฏิบัติมา แต่อย่าให้มากเกินไป
-อย่าปล่อยให้ร่างกายได้รับความเย็นมากเกินไป
ผู้ป่วยด้วยโรคเก๊าท์มักทนต่อความเย็นไม่ค่อยได้
ฉะนั้น จึงควรใช้เครื่องนุ่งห่มที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายพอสมควร
-อย่ารับประทานยาอื่นใดนอกเหนือจากที่แพทย์สั่ง หรือก่อนที่จะปรึกษากับแพทย์ของท่าน
เพราะยาบางอย่างอาจออกฤทธิ์ตรงข้ามกับฤทธิ์ของยารักษาโรคเก๊าท์
-อย่าดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์มากจนเกินไป
ปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดโรคเก๊าท์ชนิดเฉียบพลันขึ้นได้
ขอให้ท่านปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์
เป็นหลักที่ถือปฏิบัติกันทั่วไปว่าผู้ป่วยด้วยโรคเก๊าท์
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีธาติอาหารพิวรีน (Purines) สูง
อาหารพวกนี้ เช่น เนื้อสัตว์ปีก ได้แก่ เนื้อไก่ เครื่องในสัตว์ ถั่วต่างๆ
ตารางอาหารที่มีปริมาณพิวรีนระดับต่างๆ
ธัญพืช ผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากนม
.. | <- เจละติน |
(ข้อมูลจาก https://th.answers.yahoo.com, https://www.yourhealthyguide.com)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อาหารสำหรับผู้สูงวัยโรคเก๊า
อาหารสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นโรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่ง เกิดจากการตกตะกอนของกรดยูริคในข้อ กรดยูริคมาจากสารพิวรีนพบว่าเป็นในเพศชายมากกว่าในเพศหญิงผู้ที่เป็นจะมี อาการปวดบวมแดง โดยเฉพาะบริเวณหัวแม่เท้า หากปล่อยให้โรคนี้นาน ๆ ไม่รักษาหรือเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูง นิ่วในทางเดินปัสสาวะ จะทำให้ข้อบิดเบี้ยว ค่าปกติกรดยูริคในเลือด ผู้ชายไม่เกิน 7 มิลลิลิตร/ เดซิลิตร และผู้หญิง ไม่เกิน 5.7 มิลลิตร/เดซิลิตร
อาหารกับโรคเก๊าท์
ผู้ ที่เป็นโรคเก๊าท์ มีสาเหตุมาจากการกินอาหารชนิดที่มีสารพิวรีนมาก เช่น ตับ ไต สมอง และกินอาหารไขมันมาก ทำให้การขับถ่ายกรดยูริคเป็นไปได้ยาก จึงควรกินอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในหลักเกณฑ์ปกติ
อาหารที่มีสารพิวรีนต่ำ ได้แก่ อาหารที่มีเส้นใย เช่น ผัก ผลไม้
อาหารที่ควรกิน
- อาหารที่มีสารพิวรีนต่ำ ผู้สูงอายุที่เป็นโรคเก๊าท์ สามารถกินได้ไม่จำกัดได้แก่ นม ไข่ ธัญพืชต่าง ๆ ผักสดต่าง ๆ ผลไม้
- อาหารที่มีสารพิวรีนปานกลาง กินได้น้อย (หากกินรวมกันต้องไม่เกิน 100 กรัมต่อวัน ) ได้แก่
1. เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ที่ไม่ติดมัน ปลา กระแพงแดง ปลาหมึก ปู ถั่วลิสง
2. ข้าวโอ๊ต
3. พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วลันเตา สะตอ ดอกกะหล่ำ ผักโขมก
อาหารที่มีสารพิวรีนสูง
ได้แก่ เนื้อไก่ เครื่องในสัตว์ ปลาดุก
อาหารที่ไม่ควรกิน
อาหารที่มีสารพิวรีนสูง ได้แก่
- เนื้อ สัตว์ เป็ด ไก่ เครื่องในสัตว์ต่าง ๆ หัวใจ ตับอ่อน ไต มันสมอง ปลา เช่น ปลาดุก ปลาอินทรีย์ ปลาไส้ตัน ปลาซาร์ดีน ไข่ ปลา กุ้ง หอย กะปิ
- ผัก เช่น เห็ด กระถิน ชะอม ขี้เหล็ก หน่อไม้
- ถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วแดง ถั่วแระ ถัวเขียว ถั่วเหลือง
- เบียร์ ขนมปังผสมยีสต์ น้ำต้มกระดูก
Link https://www.agingthai.org/
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โรคเก๊าท์ ทำประกัน
ป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
เราได้ทำประกัน ของ AIA ให้แม่เป็นประกันชีวิตและได้เพิ่มคุ้มครองโรคร้ายด้วย อาทิเช่น โรคมะเร็ง โรคตับ โรคไต พูดง่ายๆคือโรคที่ร้ายแรง ในกรมธรรม์บอกไว้ว่า ถ้าผู้ประกันเป็นโรคร้ายจะจ่ายเลยก่อน 300,000 บาท(แล้วแต่เบี้ยประกันของแต่ละคน) หลังจ่ายนั้นจะจ่ายค่าผ่าตัด ค่ายา ค่าห้อง อื่นๆ แล้วแต่เบี้ยที่ทำ
ก่อนทำเราก็มั่นใจแล้วว่าประกันชีวิตของ AIA น่าจะดีที่สุดแล้ว เพราะมีชื่อเสียงมานาน เราจึงตัดสินใจทำให้แม่เรา โดยยอมอดออมไว้เพื่อไปจ่ายค่าประกันทุกปี เพื่อที่จะได้ไว้พึ่งพาบ้างเวลาแม่เราป่วยขึ้นมา เชื่อว่าทุกคนที่ทำก็มีวัตถุประสงค์เดียวกับเรา
แต่สิ่งที่เราไม่เคยคิดมาก่อนก็เกิดขึ้นแม่เราป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งโชคยังดีที่เป็นระยะแรกซึ่งสามารถรักษาหายได้ ปัจจุบันกำลังฉายแสงอยู่ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 700,000 บาทแล้ว ซึ่งเราต้องสำรองจ่ายไปก่อน
ซึ่งตามกรมธรรม์ที่ทำไว้เราต้องได้ค่าคุ้มครองโรคร้ายก่อน 300,000 บาทตามที่ทำไว้ และค่าอื่นๆก็เบิกได้อีกตามเบี้ยประกัน ** แต่แล้ว AIA บอกว่าขอสืบประวัติก่อนที่จะจ่ายเงิน ใช้เวลาสืบประมาณ 5 เดือน **
หลังจาก 5 เดือนผ่านไปมีจดหมายจาก AIA ส่งมาที่บ้าน บอกว่าทางบริษัทขอคืนเบี้ยประกันทั้งหมดเพราะไม่สามารถจ่ายเงินตามกรมธรรม์ได้
** เนื่องผู้ป่วยมีประวัติเคยความดันขึ้น**มาก่อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และไม่ยอมแจ้งทาง AIA ฉนั้นทางบริษัทขอยกเลิกกรมธรรม์ฉบับนี้
ช๊อค!สิครับ ซึ่งนั่นหมายความว่าเราต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เราก็พึ่งรู้นะว่าความดันขึ้นเพราะความเครียดเนี๊ยมันต้องยกเลิกกรมธรรม์เลย เราข้องใจเลยไปปรึกษาหมอด้านความดัน คุณหมอบอกว่าไม่เกี่ยวกันเลยความดันกับมะเร็งคนละเรื่องกัน คุณหมอก็แนะนำให้ไปฟ้อง สคบ. ตอนนี้ทางเรากำลังดำเนินการอยู่
ตอนนี้ที่บ้านเรายกเลิกประกันของ AIA ทั้งหมด ไปทำกะบริษัทอื่นแล้ว ทุเรศมาก เอาเปรียบผู้บริโภค ตอนทำแทบจะก้มลงกราบ พอป่วยก็ถีบหัวส่ง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=