โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารอักเสบ อาการโรคกระเพาะอาหาร


13,411 ผู้ชม


โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารอักเสบ อาการโรคกระเพาะอาหาร

             โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร

โรคกระเพาะอาหาร

โรคกระเพาะอาหารหมายถึงภาวะที่มีแผลเยื่อบุกระเพาะ และลำไส้ถูกทำลายถึงแม้ว่าจะเรียกว่าโรคกระเพาะ แต่สามารถเป็นได้ทั้งที่กระเพาะ และลำไส้ ว่า ถ้าเป็นเฉพาะเยื่อบุกระเพาะเรียก gastritis แต่ถ้าเป็นแผลถึงชั้นลึกmuscularis mucosa เรียก ulcerถ้าแผลอยู่ที่กระเพาะเรียก gastric ulcerถ้าแผลอยู่ที่ลำไส้เล็กเรียกduodenal ulcer โรคกระเพาะพบได้ทุกวัย 

สาเหตุของโรคกระเพาะอาหาร

สาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะมีมากมาย แต่เชื่อกันว่า สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากมีกรดในกระเพาะอาหารมาก และเยื่อบุกระเพาะอาหารอ่อนแอลง

  1. เชื่อโรค Helicobacter pylori
  2. เป็นเชื้อรูปแท่งติดสีน้ำเงิน มีความสามรถอยู่ในสภาวะกรดได้ดี

  3.  สาเหตุที่กระเพาะอาหารมีกรดมากขึ้น เกิดขึ้นเนื่องจากสิ่งต่อไปนี้กระตุ้นให้กรดหลั่งมาก
  • กระตุ้นของปลายประสาท เกิดจากความเครียด วิตกกังวลและอารมณ์
  • การดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า เบียร์ ยาดอง
  • ชา กาแฟ และน้ำดื่มที่มี Caffeine จะทำให้กรดหลั่งออกมามาก
  • การสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่ทำให้เกิดการหลั่งกรดออกมามาก
  •  การกินอาหารไม่เป็นเวลา
  • ภาวะที่มีกรดหลั่งออกมามาก เช่นโรค Zollinger-Ellisson syndrome กรดที่หลั่งออกมามาก จะทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
  1.   มีการทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหาร เกิดจาก
  •  การกินยาแก้ปวด ลดไข้ แก้ปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ ยาชุดที่มีแอสไพริน และยาสเตียรอยด์ ยาลูกกลอนต่างๆโดยเฉพาะสารที่ระคายกระเพาะ เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID แม้วว่าจะให้ยาโดยการฉีดหรืออมใต้ลิ้นก็มีโอกาสเกิดแผลที่กระเพาะ เนื่องจากนี้จะไปกระตุ้นให้เกิด cyclooxigenase II (Cox II) ซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบที่กระเพาะ
  • การกินอาหารเผ็ดจัด และเปรี้ยวจัดจากน้ำสมสายชู
  • การดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า เบี้ย ยาดอง
  1.  ประวัติเป็นโรคกระเพาะในครอบครัวหากครอบครัวไหนมีโรคกระเพาะ คนในครอบครัวนั้นก็จะมีโอกาสเกิดโรคกระสูง
 

Helicobacter pylori (H. pylori) คืออะไร

เป็นเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุที่สำคัญของผู้ป่วยโรคกระเพาะ เชื่อว่าติดต่อโดยการรับประทานอาหาร และน้ำ เชื้อจะทำลายเยื่อบุ และฝังตัวที่กระเพาะอาหาร กรดจากกระเพาะอาหารจะช่วยทำลายเยื่อบุทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร

               Link   https://www.siamhealth.net/public_html/Disease/GI/pu/peptic_ulcer.htm

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


                      โรคกระเพาะอาหารอักเสบ

กระเพาะอาหารอักเสบ

โรคเรื้อรังที่เป็นๆ หายๆ

พบ 62 %ของผู้ป่วยที่ปวดท้องกว่า 3 พันราย มีสาเหตุจากแผลในกระเพาะอาหาร

คน ทั่วไปมักจะเข้าใจว่าอาการปวดท้องหรือไม่สบายในท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ ที่เป็นๆหายๆมานานนั้น เป็นโรคกระเพาะอาหาร ซึ่งมักคิดว่าเป็นแผลในกระเพาะอาหาร แท้จริงแล้วอาการปวดท้องอาจเกิดจากโรคอื่นๆ ภายในช่องท้องก็เป็นได้

โรคกระเพาะอาหารเป็นกลุ่มโรคที่พบบ่อย ที่สำคัญได้แก่ โรคกระเพาะอาหารที่ไม่มีแผลหรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคแผลในกระเพาะอาหาร

ส่วน ใหญ่พบว่าผู้ป่วยมักไปพบแพทย์ด้วยเรื่องอาการปวดท้องเรื้อรังเป็นๆ หายๆ หรือรู้สึกไม่สบายในท้องบริเวณลิ้นปี่ บางคนอาจมีอาการอืดแน่นท้อง แสบลิ้นปี่ มีเรอแน่น คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วยได้

เมื่อ ดูสาเหตุของโรคจะพบว่าข้อมูลจากโรงพยาบาลศิริราชแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลด้วยเรื่องปวดท้อง ไม่สบายในท้องบริเวณลิ้นปี่จำนวนเกือบ 3 พันราย มีสาเหตุมาจากโรคกระเพาะอาหารที่ไม่มีแผลหรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบประมาณ 62 % เป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก 21 % เป็นโรคหลอดอาหารอักเสบจากกรดไหลย้อน 5 % มะเร็งกระเพาะอาหารประมาณ 2 % และที่เหลือเป็นโรคอื่นๆอีก 9.8 % อาทิ โรคนิ่วในถุงน้ำดี , โรคเกี่ยวกับตับอ่อน เป็นต้น

คน ไข้ในกลุ่มที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบอาจจะมีอาการปวดจุกแน่นท้อง ไม่สบายท้อง อืดแน่นท้อง เรอ ย่อยลำบาก แสบยอดอก คลื่นไส้ โดยอาการอาจจะสัมพันธ์หรือไม่สัมพันธ์กับมื้ออาหารก็ได้ โดยมีอาการเรื้อรังเป็นมานาน อาการเป็นๆ หายๆ บางรายอาจจะรู้สึกว่าอาการดีขึ้นเอง หรือดีขึ้นหลังได้ยาลดกรด บางรายจะมีอาการคล้ายผู้ป่วยที่เป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารโดยผู้ป่วยในกลุ่ม นี้อาจมีอาการได้ดังต่อไปนี้

ปวด หรือจุกแน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือ หน้าท้องช่วงบน เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด อาจเป็นเวลาท้องว่าง หรือเวลาหิว อาจมีอาการเป็นเฉพาะบางช่วงเวลาของวัน

อาการปวดแน่นท้อง อาจจะบรรเทาได้ด้วยอาหารหรือยาลดกรด

อาการปวดมักจะเป็นๆ หายๆ โดยมีช่วงเว้นที่ปลอดอาการค่อนข้างนาน เช่น อาจปวดอยู่ 1-2 สัปดาห์ แล้วหายไปหลายเดือนจึงกลับมาปวดอีก

ส่วนใหญ่มักจะไม่ปวดแน่นท้องกลางดึกหลังจากที่หลับไปแล้ว

อาจ จะมีอาการสัมพันธ์กับความเครียด แม้จะมีอาการเรื้อรังเป็นปี สุขภาพโดยทั่วไปจะไม่ทรุดโทรมโรคนี้จะไม่กลายเป็นมะเร็ง แม้จะเป็นๆ หายๆ อยู่นานกี่ปีก็ตาม

โดยทั่วๆไป ผู้ป่วยจะมีสุขภาพดี ไม่ควรมีอาการของการเสียเลือด เช่น อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ น้ำหนักลด ปวดท้องรุนแรง หรือมีไข้

สาเหตุของโรค

ในปัจจุบัน เรายังไม่ทราบสาเหตุของโรคที่แท้จริงเชื่อว่าอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นเรื้อรัง คือ

1. การบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

2. ความไวของกระเพาะอาหารและลำไส้เปลี่ยนแปลงไป

3. มีสิ่งกระตุ้นจากภายนอก อาทิ อาหาร, ยา เป็นต้น

4. เชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า เฮลิโคแบกเตอร์ ไพลอรี่

5. สภาวะจิตใจ เช่น ความเครียด

โรคกระเพาะอาหารอักเสบ

เป็นการอักเสบของเยื่อบุด้านในกระเพาะอาหารทั้งหมด หรือบางบริเวณเท่านั้น แบ่งเป็น

1. โรคกระเพาะอาหารอักเสบชนิดเฉียบพลัน หมายถึง โรคที่เป็นในระยะสั้นๆ ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ก็หาย อาการสำคัญคือ จะปวดท้องหรือจุกแน่นบริเวณใต้ลิ้นปี่ มักเป็นเวลากินอาหาร หรือหลังอาหารเล็กน้อย คลื่นไส้อาเจียน ในรายที่รุนแรง จะมีอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายอุจจาระสีดำได้ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย สาเหตุที่พบบ่อย คือ จากอาหารเป็นพิษ พิษสุรา และจากยาที่มีฤทธิ์ระคายเยื่อบุกระเพาะอาหาร เช่น ยาแอสไพริน และยาแก้โรคกระดูกและข้ออักเสบ

2. โรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง หมายถึง โรคที่เป็นนานเป็นเดือนหรือเป็นปี ผู้ป่วยโรคนี้มักจะมีอาการของโรคเป็นแบบเรื้อรัง เป็นๆ หาย ๆ การใช้ยาจะช่วยอาการให้ดีขึ้นในผู้ป่วยบางราย บางรายแม้ไม่ได้ใช้ยาอาการก็ดีขึ้นเอง แต่ไม่พบการเกิดโรคร้ายหรือโรคอื่นๆแตกต่างไปจากคนปกติทั่วๆไป

หลักการปฏิบัติตัว

กินอาหารอ่อน ย่อยง่าย

กินอาหารตรงตามเวลาทุกมื้อ

กินอาหารจำนวนน้อยๆ แต่กินให้บ่อยมื้อ ไม่ควรกินจนอิ่มมากในแต่ละมื้อ

หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด สุรา

งดสูบบุหรี่

งดการใช้ยาแก้ปวด แอสไพริน และยาแก้โรคกระดูกและข้ออักเสบทุกชนิด

ผ่อนคลายความเครียด กังวล พักผ่อนให้เพียงพอ

กินยาลดกรด หรือยารักษาแผลกระเพาะอาหาร

ถ้ามีอาการของภาวะแทรกซ้อน ต้องรีบไปพบแพทย์

พึง ระลึกไว้เสมอว่า โรคกระเพาะอาหารที่ไม่มีแผลหรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เป็นโรคเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ มักไม่หายขาดตลอดชีวิต ผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้ยาบางช่วง หรือใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ ที่สำคัญจะต้องปฏิบัติตัวตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่ออาการจะได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

 เรียบเรียงโดย : จุฑารัตน์ สมจริง Team Content www.thaihealth.or.th

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


               อาการโรคกระเพาะอาหาร

อาการของโรคกระเพาะ

1. ปวดท้อง ลักษณะอาการปวดท้องที่สำคัญ คือ

  • ปวดบริเวณลิ้มปี ปวดแบบแสบๆหรือร้อนๆ ปวดเรื้อรังมานาน เป็นๆ หายๆ เป็นเดือนหรือเป็นปี
  • ปวดสัมพันธ์กับอาหาร เช่น ปวดเวลาหิวหรือท้องว่างเมื่อกินอาหารหรือนม จะหายปวด บางรายจะปวดหลังจากกินอาหารหรือนมจะหายปวด บางรายจะปวดหลังจากกินอาหารหรือปวดกลางดึกก็ได้

2. จุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ เรอลม มีลมในท้อง ร้อนในท้อง คลื่นไส้อาเจียน

3. อาการโรคแทรกซ้อน ได้แก่

  •  อาเจียนเป็นเลือดดำ หรือแดง หรือถ่ายดำ เนื่องจากมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็กส่วนต้น
  •  ปวดท้องรุนแรง และ ช๊อค เนื่องจากแผลกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กทะลุ
  •  ปวดท้องและอาเจียนมาก เนื่องจากการอุดต้นของกระเพาะอาหาร

อาการของโรคกระเพาะอาหารจะไม่สัมพันธ์กับความรุนแรงของโรค บางรายไม่มีอาการปวดท้อง แต่มีแผลใหญ่มากในกระเพราะอาหาร หรือลำไส้ บางรายปวดท้องมากแต่ไม่มีแผลเลยก็ได้

อาการอื่นที่พบได้

  • น้ำหนักลด
  • เบื่ออาหาร
  • แน่นท้อง ท้องเฟ้อ
  • คลื่นไส้ อาเจียน

ผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้ต้องรีบพบแพทย์

  1. ปวดท้องทันที ปวดเหมือนถูกมีดบาด ขยับตัวหรือหายใจแรงๆจะทำให้ปวดเพิ่มมากขึ้น และปวดไม่หาย ซึ่งอาจจะเกิดจากกระเพาะอาหารทะลุ
  2. อุจาระดำ หรืออาเจียนเป็นเลือด เนื่องจากเลือดออกทางเดินอาหาร
  3. แน่นท้องอาเจียนบ่อย เป็นอาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งอาจจะเกิดจากลำไส้อุดตัน

การวินิจฉัยโรคกระเพาะอาหาร

หากอาการปวดท้องเหมือนกับโรคกระเพาะอาหารแพทย์จะมีวิธีวินิจฉัยโรคกระเพาะดังนี้

  • จะตรวจกลืนแป้งแล้ว x-ray เป็นวิธีที่ทำง่าย ไม่เจ็บปวด ไม่ต้องให้ยานอนหลับ ตรวจเสร็จแล้วกลับบ้านได้ ข้อเสียของการตรวจวิธีนี้คือไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง แลไม่สามารถนำเนื้อเยื่อไปตรวจ
  •  endoscope เป็นวิธีการที่สำคัญในการตรวจและรักษา ข้อดีของการตรวจคือเห็นด้วยตา สามารถถ่ายรูป และนำเนื้อเยื่อไปตรวจ ข้อเสียต้องใส่ท่อเข้าในกระเพาะ อาจจะต้องใช้ยานอนหลับเพื่อดูว่ามีแผลหรือไม่

การวินิจฉัย H. pylori

หลังจากแพทย์พบว่าเป็นแผลในกระเพาะอาหารแพทย์จะส่งตรวจว่าเป็น H. pylori ได้หลายวิธี

  1. โดยการเจาะเลือดหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ H. pylori
  2. Breath tests วิธีนี้โดยมากใช้ติดตามหลังการรักษา โดยการให้ผู้ป่วยดื่มสาร urea ซึ่งมี atom ของ carbon ที่อาบรังสี ถ้าผู้ป่วยมีเชื้อในกระเพาะจะตรวจพบ atom ของ carbon จากลมหายใจ
  3. จากการตัดเนื้อเยื่อโดยการส่องกล้องซึ่งตรวจได้ 3 วิธี
  • นำเนื้อเยื่อทำปฏิกิริยา urease test  ถ้ามีเชื้อจะให้ผลบวก
  • นำเนื้อเยื่อส่องกล้องหาตัวเชื้อ
  • นำเนื้อเยื่อไปเพาะเชื้อ

อาการของโรคกระเพาะ วิธีการรักษา อาหารสำหรับโรคกระเพาะ โรคกระเพาะอาหาร

             Link   https://www.siamhealth.net/public_html/Disease/GI/pu/pu_sym.html

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


                        

อัพเดทล่าสุด