เมนูอาหารคลายร้อน อาหารคลายร้อน สูตรอาหารคลายร้อน


8,477 ผู้ชม


เมนูอาหารคลายร้อน



ข้าวแช่
เริ่มต้นด้วยเมนูไทยแท้ระดับชาววังอย่าง
ข้าวแช่ ข้าวแช่อาจหาทานได้ไม่ง่ายนัก
ในปัจจุบัน แต่เจ้าข้าวลอยน้ำดอกไม้
อบควันเทียนหอมเย็น รับประทานคู่กับ
เครื่องเคียงต่างๆ ทั้งลูกกะปิทอด
พริกหยวกยัดไส้ หรือปลาหวาน เมนูนี้
ช่วยให้ความสดชื่นหอมอร่อยได้ดี
ในวันอบอ้าวจริงๆ
บะหมี่เย็นทรงเครื่อง
เมนูเส้นคลายร้อนสไตล์ญี่ปุ่นที่คนไทยน่าจะรู้จักกันดี
บะหมี่เย็นทรงเครื่องเป็นเมนูยอดนิยมในฤดูร้อนของ
ชาวญี่ปุ่นทำจากเส้นราเมนลวก ท้อปปิ้งด้วยเครื่องเคียง
หลากหลายเน้นสีสันสวยงามให้สดใสตามฤดูกาล
ราดด้วยซอสทาเระรสเปรี้ยวเพิ่มความสดชื่น

 
สลัด
เมนูเบาๆ แบบฝรั่งที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น ผักสดเย็นๆ
ช่วยเพิ่มน้ำให้กับร่างกาย พร้อมผักและผลไม้สดตาม
ฤดูกาลอื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มรสชาติและวิตามิน พร้อม
ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันไข้หวัดเมื่ออุณหภูมิอากาศ
เปลี่ยนแปลง แถมยังเป็นเมนูคลายร้อนที่เหมาะกับ
สาวๆ ที่กำลังควบคุมน้ำหนักด้วย

อาหารคลายร้อน

1.แตงโม

ผลไม้และผักที่มีส่วนประกอบของน้ำมากๆ จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ และพระเอกตลอดกาลสำหรับผลไม้หน้าร้อนก็คือ แตงโม แตงโมมีส่วนประกอบของน้ำอยู่ถึง90 เปอร์เซ็นต์ และยังมีน้ำตาลสูงอีกด้วย
ซึ่ง น้ำและน้ำตาลในแตงโมนี่เองที่จะเข้าไปทดแทนความเย็นในร่างกายที่เสียไปกับ อากาศร้อนได้อย่างดี หลายๆประเทศในเขตร้อนจึงนิยมกินแตงโมกันอย่างแพร่หลาย สังเกตุได้จากประเทศญี่ปุ่นเป็นต้น ที่ชอบกินแตงโมกันสุดๆ แถมแตงโมที่โน่นยังแพงเว่อร์ ดังนั้น สำหรับประเทศที่แตงโมถูกเว่อร์ๆอย่างบ้านเรา แตงโมจึงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่ควรหามากินให้สะใจ ในช่วงหน้าร้อน

2.ส้มตำ

ฟังไม่ผิดหรอกครับ ส้มตำเนี่ยแหละช่วยให้หายร้อนได้ดีนัก และถ้าจะให้ดี
ต้อง เป็นส้มตำที่เผ็ดๆด้วย ส้มตำประกอบไปด้วยพริกมะเขือเทศ และมะละกอเป็นหลัก ซึ่งก็ล้วนเป็นส่วนประกอบที่ให้ความเย็นกับร่างกายได้ดี โดยเฉพาะพริก

หลายคนอาจจะเถียงว่ากินพริกก็ควรจะทำให้เราร้อนสิ(เฟ้ย) เพราะมันเผ็ด !!!

ใช่ครับ มันเผ็ด แต่ในความเป็นจริงก็คือการกินเผ็ดจะช่วยทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราสูง ขึ้นกว่าอุณหภูมิภายนอก ส่งผลให้ร่างกายเราปรับสภาพตัวเองให้เย็นลงด้วยการขับเหงื่อและระบายความ ร้อนออกตามรูขุมขน นั่นจึงเป็นการหลอกให้ร่างกายของเราสร้างความเย็นขึ้นมากกว่าอุณหภูมิปกติ ทำให้หายร้อนในเวลาต่อมานั่นเอง

นี่ละ เป็นเหตุผลที่ประเทศในเขตร้อนๆส่วนใหญ่ชอบกินเผ็ดกัน และอาหารประจำชาติของเราที่ทั้งเผ็ด ทั้งมีประโยชน์ก็คือส้มตำนี่ล่ะเหมาะนักเชียว

3.ไอศครีมที่ไม่มีส่วนผสมของนมหรือครีม

การกินไอศครีมไม่ได้ทำให้ร่างกายของเราเย็นลงได้ในระยะยาวเท่าการกินเผ็ด
แต่ การกินไอศครีมก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่เสมอสำหรับหน้าร้อน เพราะการเกินไอศครีมจะทำให้ร่างกายของเราเย็นลงทันที และช่วยคลายร้อนได้อย่างทันใจวัยรุ่น แต่ที่สำคัญก็คือ มันอร่อย!

ไอศครีมที่แนะนำในช่วงหน้าร้อนก็คือไอศครีมรสผลไม้ที่ไม่มี ส่วนผสมของนมและครีม อย่างเชอร์เบ็ตมะนาว หรือไอศครีมผลไม้สดเป็นต้น เนื่องจากนมและครีมจะไปสร้างความร้อนให้กับร่างกาย การกินไอศครีมที่มีครีมเยอะอย่างรสวานิลา หรือช็อคโกแล็ตจึงควรเอาไว้กินในช่วงหน้าหนาวจะดีกว่า

4.ชาร้อน

ใบชามีสรรพคุณเป็นยาและช่วยทำให้ร่างกายเย็นลงได้ ยิ่งเป็นชาร้อนจะยิ่งทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ช่วยให้ระบบขับความร้อนของร่างกายเราทำงานได้ดี   การกินของร้อนในขณะอากาศร้อนเป็นทางเลือกที่ดีในการดับร้อน เข้าตำราหนามยอกเอาหนามบ่ง และยิ่งเป็นการกินชาร้อน จะยิ่งให้สรรพคุณที่ดีขึ้นด้วย

คำแนะนำสำหรับการกินชาร้อนในช่วงซัมเมอร์คือ ลองใส่น้ำตาลลงไปสักครึ่งช้อน จะช่วยเพิ่มความสดชื่นได้อีกมากเลยทีเดียว หรือใครจะลองบีบมะนาวลงไปด้วยก็ได้ เพราะกรดในมะนาวจะช่วยให้เราปลอดโปร่งขึ้นได้เช่นกัน

5.น้ำเปล่าธรรมด๊า ธรรมดา

ท้ายที่สุด เป็นของกินที่ง่ายสุด และส่งผลดีที่สุดในช่วงหน้าร้อน ซึ่งหลายๆคนมองข้าม นั่นก็คือน้ำเปล่าสะอาดธรรมดาๆ นั่นเอง

ร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยน้ำถึง70 เปอร์เซ็นต์ และในช่วงหน้าร้อน ร่างกายของเราจะขาดน้ำ ดังนั้นการดื่มน้ำบ่อยกว่าปกติ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อให้ร่างกายของเราสดชื่น
และเติมความเย็นโดย ธรรมชาติเข้าสู่ร่างกาย การดื่มน้ำมากๆ ยังช่วยให้ผิวพรรณของเราเปล่งปลั่ง และดูมีเลือดฝาดในช่วงหน้าร้อนอีกด้วย เราจึงควรพกน้ำเปล่าบริสุทธิ์ไปดื่มด้วย เมื่อออกไปท่องเที่ยวหรือเมื่อต้องทำกิจกรรมในช่วงหน้าร้อนแบบนี้จ้ะ


สูตรอาหารคลายร้อน

 ขั้นตอนการทำ ไอศครีมกะทิสูตรโบราณ

ส่วนผสม
          1. กะทิกล่อง หรือกะทิกระป๋องสูตรเข้มข้น ขนาด 560 มิลลิลิตร   
          2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
          3. เกลือ ¾ ช้อนชา
          4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
          5. เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น (มีหรือไม่มีก็ได้)
วิธีทำ
          1. เทกะทิทั้งหมด ผสมกับน้ำเปล่า 2 ถ้วย หรือถ้ามีน้ำมะพร้าว ก็ให้ใช้น้ำมะพร้าว กับน้ำเปล่าอย่างละ 1 ถ้วย เพื่อเพิ่มความหอมหวานของกะทิมากขึ้น 
          2. นำกะทิไปตั้งไฟ แล้วค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายผสมลงไป จากนั้นคนให้เข้ากันจนกะทิเดือด
          3. นำกะทิมาพักให้เย็น จากนั้นเทใส่ภาชนะที่เหมาะกับการแช่เย็น
          4. นำภาชนะดังกล่าวไปแช่ในช่องแข็ง จนกะทิเริ่มแข็งตัว
          5. ในการแช่กะทิ ให้สังเกตุว่ากะทิเริ่มเป็นเกล็ดหรือยัง หากเริ่มเย็นจนเป็นเกล็ดแล้ว สามารถนำออกจากตู้เย็น โดยไม่ต้องรอให้กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานานพอสมควร
          6.นำกะทิดังกล่าวมาปั่น หากไม่มีเครื่องปั่นสำหรับทำไอศกรีม สามารถใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ธรรมดาแทนได้ค่ะ

ปั่นครั้งที่ 1
          นำกะทิใส่เครื่องปั่น และปั่นจนกว่าเนื้อไอศครีมจะละเอียด จากนั้นนำไปแช่ในช่องแข็งอีกรอบ
ปั่นครั้งที่ 2
          เมื่อเนื้อไอครีมที่ปั่นรอบแรกเริ่มเป็นน้ำแข็ง ก็ให้นำออกมาปั่นใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้ให้ใส่ไข่ขาวลงไป 1 ฟอง เมื่อเครื่องปั่นตีกะทิกับไข่ขาวจนเข้ากันแล้ว จะเห็นว่าเนื้อไอศครีมขาว และฟูขึ้น จากนั้นจึงนำไปแช่ในช่องแข็งอีกรอบ
ปั่นครั้งที่ 3
          นำไอศกรีมที่แช่จนเป็นเกร็ดแล้วมาปั่นอีกรอบ เพื่อให้เนื้อไอศกรีมเนียนฟูมากยิ่งขึ้น หากใครชอบทานไอศกรีมกะทิ แบบมีเนื้อมะพร้าวด้วย ให้นำเนื้อมะพร้าวอ่อนที่เราขูดไว้ มาผสมกับไอศกรีมกะทิที่ปั่นในรอบที่สาม แต่ในครั้งนี้ควรปั่นเพียงเล็กน้อยพอให้เนื้อมะพร้าวเข้ากันค่ะ หรือจะปั่นรอบที่สามให้เสร็จก่อน แล้วค่อยใส่เนื้อมะพร้าวแล้วปั่นอีกนิดก็ได้ค่ะ
          เพียงแค่นี้ เราก็จะได้ไอศกรีมกะทิแสนอร่อย เอาไว้ทานเพื่อคลายร้อนกันแล้วล่ะ...อ้อ เคล็ดลับความอร่อยของไอศกรีมกะทิจะอยู่ที่การปั่นเนื้อไอศกรีมให้ละเอียด ยิ่งปั่นหลายรอบ เนื้อไอศกรีมก็จะยิ่งเนียนฟูมากขึ้น แต่วิธีที่เรานำมาฝากนี้จะเป็นแบบเร่งรัดจ้า
 

อัพเดทล่าสุด