ไส้เลื่อน โรคไส้เลื่อน อาการไส้เลื่อน ภาพไส้เลื่อนที่เกิดกับผู้หญิง - ชาย (รูปภาพ)
โรคไส้เลื่อน(Hernia) หมายถึง ภาวะที่ลำไส้เลื่อนออกนอกช่องท้องผ่านผนังช่องท้องที่บอบบาง ตำแหน่งที่ลำไส้จะเลื่อนออกนอกช่องท้องมีหลายแห่ง เช่น บริเวณขาหนีบ(Groin Hernia) ผนังหน้าท้อง(Abdominal Hernia) สะดือ(Umbilical Hernia) และ รอยแผลผ่าตัด(Incisional Hernia) เป็นต้น
เมื่อวานนี้ดูทีวีเรื่องปัญหาไส้เลื่อน(Hernia) คุณหมอท่านก็บอกโดยมากจะคิดกันว่าจะเป็นเฉพาะผู้ชายแต่หาใช่เช่นนั้นไม่ เพราะปัญหานี้ทุกคนมีโอกาสเป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ผู้ชายมีโอกาสเป็นมากกว่า....เท่านั้นเอง...เพราะ ไส้เลื่อนเกิดจากการที่ความดันในช่องท้องมีมากกว่าความดันภายนอก จนดันผนังท้องให้โป่งออกมา แล้วในที่สุดลำไส้ก็เคลื่อนออกมาทางช่องบริเวณขาหนีบได้ แต่บางท่านอาจเป็นตั้งแต่เด็ก บางท่านอาจเป็นตอนโต บางท่านอาจเป็นข้างเดียว แต่บางท่านอาจเป็นทั้งสองข้าง
อันตัวข้าพเจ้าเองก็เป็นนะจ๊ะ...ฮิฮิ...เมื่อศึกษาดูก็รู้ว่าเป็นชนิดที่เลื่อนเข้าไปในถุงอัณฑะ มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Indirect Inguinal Hernia วันไหนรู้สึกว่าอ่อนเพลียละเหี่ยใจ ข้าวก็กินแล้ว ขนมก็กินแล้ว แต่ยังดูเหนื่อย ๆ พิกล ก็ต้องลองจับตรงนั้นดูรู้สึกเจ็บ ๆ คิดในใจว่าคงใช่แน่แล้ว ก็ต้องพาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำไปเลย เพื่อจัดการเขาให้เรียบร้อย ออกมาก็ล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาด จะรู้สึกว่าเดินตัวปลิวไปเลย
การ ดูแลตัวเองนั้นผมไปได้วิชามาจากหมอนวดแผนโบราณ เขาถามว่าเป็นไส้เลื่อนหรือเปล่า ผมบอกเป็น เขาบอกว่างั้นจะบอกวิธีรักษาให้ เขาบอกว่ามีเส้นบริเวณเหนือขาหนีบซึ่งจุดนั้นเขาเรียกว่า เส้นกษัย ถ้า เรามีอาการไส้เลื่อน เส้นบริเวณนั้นจะตึงมาก ให้เรานวดบริเวณเส้นนั้นจากที่มีอาการเส้นตึง นวดไปประมาณสองนาทีก็จะหย่อน ก้มลงดูก็จะพบว่าลูกอัณฑะของเราด้านที่มีปัญหาไส้เลื่อน จะไม่มีส่วนที่หย่อนลงมาให้เห็นแล้ว...ผมแนะนำเพื่อน ๆ ไปหลายคนแล้ว ทุกคนบอกได้ผลครับ
แต่ ถ้าเป็นมากกว่านี้ผมก็ขอแนะนำให้ไปผ่าตัดครับ จะได้หายขาดถาวร ทุกวันนี้การแพทย์แผนปัจจุบันทันสมัยมาก การผ่าตัดก็มีรอยแผลน้อย เพราะใช้เลเซอร์และใช้กล้องส่องให้เห็นภายในร่างกายบริเวณที่ต้องการผ่าตัด
ส่วนรายละเอียดของโรคไส้เลื่อนนั้น ได้นำรายละเอียดที่ได้ศึกษามาเป็นตัวอย่างให้ดู เพื่อท่านผู้อ่านจะได้ทำการศึกษาต่อไป ดังนี้ครับ
โรคไส้เลื่อน(Hernia) หมายถึง ภาวะที่ลำไส้เลื่อนออกนอกช่องท้องผ่านผนังช่องท้องที่บอบบาง ตำแหน่งที่ลำไส้จะเลื่อนออกนอกช่องท้องมีหลายแห่ง เช่น บริเวณขาหนีบ(Groin Hernia) ผนังหน้าท้อง(Abdominal Hernia) สะดือ(Umbilical Hernia) และ รอยแผลผ่าตัด(Incisional Hernia) เป็นต้น
ลำ ไส้เลื่อนส่วนใหญ่จะพบที่บริเวณขาหนีบ ผนังช่องท้องบริเวณนี้มีหลายตำแหน่งที่ไส้เลื่อนออกนอกช่องท้องได้ ในผู้ชายส่วนมากลำไส้จะเลื่อนผ่านรูที่ช่องท้องที่มีลักษณะเป็นวงแหวน เข้าไปในถุงอัณฑะ(Indirect Inguinal Hernia) บางรายผ่านผนังช่องท้องออกมาที่ขาหนีบมีลักษณะนูนเป็นลำ บางรายผ่านผนังช่องท้องแต่ไม่นูนออกมาให้เห็นและคลำไม่ได้
อาการที่สำคัญสำหรับ ไส้เลื่อนนี้ได้แก่ การที่มีก้อนที่บริเวณขาหนีบ โดยก้อนนี้จะโตขึ้นเวลายกของหนักหรือไอแรงๆจะทำให้ก้อนโผล่ออกมา และอาจจะได้ความรู้สึกมีเสียงเคลื่อนไหวของลำไส้เหมือนเวลาเราหิวข้าว เมื่อนอนลง หรือจับก้อนยัดเข้าไปในรู ก้อนจะหายไป แต่ถ้าลำไส้ถูกรัดแน่นจะมีอาการปวดคล้ายในกรณีของลำไส้ตัน
สาเหตุของไส้เลื่อนนั้น ส่วนมากเกิดจากความบอบบางของผนังช่องท้องในส่วนต่างๆของร่างกาย แต่บางรายเกิดความผิดปกติตั้งแต่แรกเกิด บางรายเกิดจากการผ่าตัด บางรายเกิดร่วมกับโรคอื่นๆที่ทำความดันในช่องท้องมากขึ้น เช่น คนไข้ที่มีน้ำในช่องท้องจากสาเหตุอื่น ดันให้ผนังท้องแยกออก หรือคนไข้ที่มีอาการไอเรื้อรัง หรือมีอาการท้องผูกเรื้อรัง เป็นต้น
ส่วนการรักษา ไส้เลื่อนยังใช้การผ่าตัดเป็นการรักษาหลัก เพื่อเอาลำไส้ส่วนที่เลื่อนออกนอกช่องท้องกลับเข้าที่และซ่อมผนังที่ผิดปกติ ให้แข็งแรงคงทนเพื่อไม่ให้ลำไส้เลื่อนออกไปได้อีก การรับประทานยาหรือฉีดยาไม่สามารถรักษาโรคไส้เลื่อนได้
ใน ปัจจุบันการผ่าตัดได้ก้าวหน้าไปมาก มีการใช้วัสดุที่คงทนแข็งแรงมาซ่อมแซมส่วนที่อ่อนแอ ทำให้มีโอกาสในการเป็นซ้ำลดลง นอกจากนี้เทคนิคในการผ่าตัดก็ยังทันสมัยและรวดเร็ว ซึ่งอาจจะไม่ต้องดมยาสลบ เพียงแต่ใช้ยาฉีดเข้าในไขสันหลังซึ่งจะทำให้ส่วนล่างของร่างกายชา ก็สามารถทำการผ่าตัดได้
แต่ ในบางกรณีที่คนไข้ไม่สามารถรับการผ่าตัดได้ อาจจะใช้กางเกงรัดที่บริเวณขาหนีบเพื่อไม่ให้ลำไส้เลื่อนออกมาได้ ซึ่งอาจช่วยป้องกันผลแทรกซ้อนจากลำไส้อุดตันได้บ้าง สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ที่โรงพยาบาลทั่วไปหรือโรงพยาบาลศูนย์ ที่มีศัลยแพทย์ผ่าตัด โดยสามารถใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาได้
โดยส่วนใหญ่แล้วจะพักอยู่โรงพยาบาลประมาณ 3 วันเพื่อดูแลบาดแผลผ่าตัด และนัดตัดไหมวันที่ 7 แต่ในช่วง 6-12 เดือนหลังผ่าตัดนั้นห้ามออกกำลังกายหนักๆหรือยกของหนักด้วย มิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อการเกิดซ้ำได้
เรื่อง ของอาหาร ไม่มีอาหารชนิดใดห้ามกิน แต่บางสถาบันการแพทย์จะเน้นเรื่องอาหารที่ไม่ทำให้เกิดอาการท้องผูกเพราะจะ ต้องเบ่งอุจจาระ แต่ในกรณีนี้จะแนะนำในคนไข้ที่เกิดอาการภาวะไส้เลื่อนอย่างรุนแรง
ส่วนการออกกำลังกาย จะไม่มีข้อห้ามในกรณีการออกกำลังกายนั้นไม่ต้องใช้การเบ่งหรือการเกร็ง หรือการใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อเพิ่มความดันในช่องท้อง เช่น ห้ามเด็ดขาดในการออกกำลังกายโดยการยกน้ำหนัก การ Situp ก็จะทำให้ต้นขาและขาหนีบทำงานมากขึ้น และในการ Situp บางจังหวะก็จะทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น ก็จะยิ่งไปทำให้ลำไส้มีโอกาสหลุดเลื่อนลงมาได้มาก
===========================================
*ข้อมูลจากคอลัมน์ "แพทย์บางกอก" ในนิตยสาร บางกอก ปีที่ 50 ฉบับที่ 2564 ประจำวันที่ 5 กรกฎาคม 2550
...............................................................................................
ส่วนข้อมูลจาก www.thaihealthstory.com/man-and-hernia/ มีดังนี้ครับ
เรื่องลูกผู้ชายกับไส้เลื่อน
ไส้ เลื่อนพบบ่อยในผู้ชาย จนหลายคนคิดว่าผู้หญิงไม่เป็นไส้เลื่อน เพราะไม่มีถุงอัณฑะให้ไส้เลื่อนลงมา แต่ความจริงแล้วผูหญิงก็มีโอกาสเป็นได้แต่ไม่บ่อยเท่าผู้ชายเท่านั้นเอง เพราะไส้เลื่อนเกิดจากการที่ความดันในช่องท้องมีมากกว่าความดันภายนอก จนดันผนังท้องให้โป่งออกมา แล้วในที่สุดลำไส้ก็เคลื่อนออกมาทางช่องบริเวณขาหนีบได้
ฟัง ดูแล้วแปลกๆ ใช่มั้ยครับ ไส้เลื่อนออกมาจากช่องท้อง เป็นไปได้ยังไง แล้วอย่างนี้ไม่เลื่อนไหลไปไหนต่อหรือ แล้วอวัยวะอื่นๆ จะเลื่อนตามออกมามั้ย
อัน ที่จริงแล้วในช่องท้องมีอวัยวะหลายอย่างอยู่รวมกัน เช่น ตับ ถุงน้ำดี กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก ซึ่งอวัยวะเหล่านี้ถูกปลกคลุมด้วยเยื่อหุ้มช่องท้อง (peritoneum) และมีพังผืดหรือกล้ามเนื้อหุ้มอีกชั้นเพื่อป้องกันอวัยวะภายใน แต่ผนังเยื่อหุ้มช่องท้องนี้ไม่ได้ปิดสนิททีเดียว แต่จะมีรูที่ให้ท่อรังไข่ในผู้หญิง และท่อน้ำเชื้อในผู้ชายออกมาได้ ซึ่งไส้เลื่อนนี้มีภาวะ 2 รูปแบบ คือ แบบอินไดเร็คและไดเร็ค (indirect in guinal hernia และ indirect inguinal hernia)
ไส้เลื่อนแบบอินไดเร็ค (indirect in guinal hernia)
แบบนี้จะเกิดในเด็ก โดยขณะที่อยู่ในครรภ์ มีการพัฒนาอวัยวะต่างๆ เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 7 สัปดาห์ อัณฑะจะเคลื่อนที่ออกจากช่องท้องมาอยู่ในถุงอัณฑะ และรูหรือทางที่มันเคลื่อนที่จะปิด แต่เด็กผู้ชายบางคนรูและทางเดินดังกล่าวไม่ปิดทำให้ไว้เคลื่อนสู้ถุงอัณฑะ ซึ่งเราเรียกว่า ไส้เลื่อน มักจะพบในผู้ชาย สำหรับผู้หญิงก็เกิดโรคนี้ได้เหมือนกัน โดยรูที่เปิดขากเยื่อที่ยึดมดลูก Round Ligament มีการเคลื่อนตัวจึงเรียกได้ว่าไส้เลื่อนนี้เป็นได้ทั้งชายหญิง
ไส้เลื่อนแบบไดเร็ค (direct guinal hernia)
แบบ นี้เกิดภายหลัง ลำไส้เคลื่อนตัวออกจากช่องท้องลงมาเลยโดยอาจจะเกิดจากความดันในช่องท้อง เพิ่มมากขึ้นอวัยวะเบียดเสียดกัน จนต้องหาทางระบายออก ตำแหน่งไหนที่ผนังเยื่อหุ้มช่องท้องบางมากๆ หรือหย่อน ลำไส้ก็จะไหลออกมาเป็นถุง กลายเป็นไส้เลื่อนได้
อาการ ของไส้เลื่อนในผู้ใหญ่นี่ มันก็อาจจะบอกได้ถึงความผิดปกติที่ร้ายแรงอื่นๆ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ไส้เลื่อนเท่านั้น แต่สาเหตุของไส้เลื่อนนี้อาจมาจากความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้นจากตับแข็ง หรือถุงลมโป่งพองมากๆ ทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมาก ผลที่ตรวจเจอคือ ไส้เลื่อนแต่ความผิดปกติภายในก็ต้องหาสาเหตุกันต่อไป
บาง ครั้ง ไส้ที่เลื่อนออกมาก็อาจเลื่อนกลับเข้าไปในช่องท้องได้เหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนี้คุณก็จะไม่มีอาการอะไรอื่นอีก ไส้เลื่อนออกมาก็เลื่อนกับไปได้เหมือนเดิมถ้าไม่ตรวจสาเหตุที่แท้จริงที่ทำ ให้ไส้เลื่อก็คงจะปล่อยทิ้งไว้ ไม่ได้รักษา และยังไม่ตระหนัก แต่ถ้าเลื่อนแล้วไม่กลับเข้าไป คราวนี้แหละ จะเกิดความรำคาญในช่องแรกๆ และกลายเป็นทรมานในช่วงหลังๆ
ถ้า ไส้เลื่อนลงมาบริเวณขาหนีบ หรือบริเวณลูกอัณฑะคุณก็จะเกิดความรู้สึกหน่วงๆ เวลายืนหรือเดิน แล้วหากทิ้งไว้นานๆ ไส้ที่เลื่อนลงมาจะขาดเลือดมาหล่อเลี้ยง อันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อเนื้อลำไส้ตายและเริ่มเน่า คุณจะเจ็บปสดและทรมานอย่างมาก แถมมีอันตรายมากด้วย
ดังนั้น หากพบว่ามีก้อนหรือมีอะไรออกมาตุงอยู่แถว ๆ ขาหนีบ หรือลูกอัณฑะ หรืออาจจะคลำเจอบ้างไม่เจอบ้างแต่ถ้ายกของหนักหรือไอแรงๆ ก้อนจะโผล่ออกมาจนคลำได้และอาจจะจับได้ถึงเสียงเคลื่อนไหวของลำไส้เหมือน เวลาเราหิวข้าว คลำได้เป็นก้อน แต่อาจจับยัดใส่กลับเข้าไปได้แสดวงว่าผนังบุช่องท้องบริเวณนั้นอ่อนแอ ความดันในช่องท้องจะดันเอาลำไส้ออกมา หรืออย่างบริเวณลูกอัณฑะก็เกิดได้ง่าย เพราะลำไส้จะเคลื่อนออกมาตามแนวของลุกอัณฑะที่เคลื่อนลงมาจากช่องท้องจนเข้า มาในลูกอัณฑะ หากเป็นเช่นนี้จะพบว่าลูกอัณฑะมีขนาดใหญ่มากๆ และหากปล่อยไว้นานๆ ลูกอัณฑะจะบวมมาก
ไส้ เลื่อนทั้ง 2 ชนิด รักษาได้ด้วยการผ่าตัดเพื่อนำลำไส้กลับมาไว้ในช่องท้องตามเดิม แล้วเย็บปิดซ่อมแซมผนังเยื่อหุ้มช่องท้องก็เสร็จเรียบร้อย ยกเว้นแต่ว่า มีโรคอื่นๆทำให้เกิดไส้เลื่อนก็ต้องหาสาเหตุและรักษาไป หรืออาจจะไม่โชคร้าย แต่เป็นภาวะที่ไปเพิ่มความดันช่องท้องอย่างมาก พบว่าคนที่ความดันในช่องท้องสูงอาจจะเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ คือ ตั้งครรภ์ ไอมากๆ ไอเรื้อรัง อ้วนมากๆ ท้องผูก ต่อมลูกหมากโต ซึ่งทำให้ต้องเบ่งอย่างแรงขณะปัสสาวะ ซึ่งจะไปเพิ่มแรงดันในช่องท้องจนอาจเกิดไส้เลื่อน