ภาวะพร่องวิตามินดีของคนไทย เกิด สาเหตุการขาดวิตามินดี สูงมาก จากการวิจัย


971 ผู้ชม


นักวิชาการ เผย คนไทยเผชิญภาวะพร่องวิตามินดีสูงขึ้น หวั่นผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงเป็นมะเร็ง เบาหวาน พร้อมแนะออกกำลังกายกลางแจ้งสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ศ.นพ.บุญส่ง องค์พิพัฒนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ทีมคณะแพทย์ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ศึกษาวิจัยโครงการสำรวจความชุกของภาวะพร่องไวตามินดีในประชากรไทยรวมทั้งผล เสียต่อสุขภาพคนไทย ภายในระยะเวลา 1 ปี เบื้องต้นพบว่า คนไทยกำลังเผชิญกับภาวะพร่องหรือขาดวิตามินดีโดยไม่รู้ตัว โดยขณะนี้พบมากกว่าร้อยละ 50 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งมีระดับวิตามินดีในร่างกายต่ำกว่า 30 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร เนื่องจากคนไทยมักหลีกเลี่ยงการถูกแดด และทาครีมกันแดดมากจนเกินไป หรือมีข้อจำกัดต้องทำให้ในตึก ทำให้ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์รังสีอัลตราไวโอเลตบี (UVB) จากแสงแดดได้ รวมถึงอาหารที่คนไทยรับประทานส่วนใหญ่มีวิตามินดีน้อยมาก เมื่อเทียบกับวิตามินชนิดอื่น ซึ่งการขาดวิตามินดีทำให้อาจมีผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อาจเสี่ยงกับภาวะกระดูกหัก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมถึงโรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูงได้ง่ายขึ้นนอกจากนี้ ผลการวิจัยจากต่างประเทศยืนยันว่า การขาดวิตามินดีในวัยเด็ก ทำให้เกิดโรคเบาหวาน ชนิดภูมิคุ้มกันทำลายอินซูลินในร่างกายด้วย ดังนั้นควรออกกำลังกายกลางแจ้งสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือรับประทานวิตามินดีเสริมในร่างกายให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม มีข้อแนะนำจากต่างประเทศว่า ควรถูกแดดที่หน้าและแขน โดยไม่ต้องทาครีมกันแดด ในช่วงเวลาระหว่าง 10.00-14.00 น. สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละเพียง 10 นาทีเท่านั้น ก็น่าจะเพียงพอ แต่สำหรับประเทศไทยจะมีการศึกษาวิจัยต่อไปว่า ระยะเวลาในการตากแดดของคนไทยจำนวนเท่าใดจึงจะเหมาะสม เพื่อทำเป็นข้อแนะนำที่สามารถปฏิบัติได้อย่างง่ายๆต่อไป คาดว่า จะแล้วเสร็จไม่เกินสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
ที่มา  news.sanook.com

อัพเดทล่าสุด