| โรคต้อกระจก(Cataract) โรคตาที่มักเกิดกับผู้สูงวัย ต้อกระจก(Cataract) เป็นโรคที่เกิดกับอวัยวะสำคัญของคนคือดวงตา โรคต้อกระจกก่อให้เกิดปัญหาทางสายตาทำให้คนตาบอดมาแล้วเป็นจำนวนมากที่เกิด จากต้อกระจกและโรคที่เกิดต่อเนื่องจากการแทรกซ้อนของโรคต้อกระจก โดยเฉพาะประเทศที่ได้รับแสงแดดจัดทำให้มีโอกาสเป็นโรคต้อกระจกได้มากขึ้นหาก ไม่รู้จักวิธีป้องกันและการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง โรคต้อกระจก จะมีอาการที่สำคัญคือ การมองเห็นของผู้ที่เป็นต้อกระจกจะค่อยๆ มัวลงทีละน้อยๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไปจนถึงขึ้นมองไม่เห็น(ตาบอด)ซึ่งอาจใช้ระยะเวลานานหลายปี ส่วนมากโรคต้อกระจกจะเกิดจากภาวะที่ร่างกายเสื่อมถอยไปตามวัยที่สูงขึ้นและ อาการของโรคต้อกระจกอาจเป็นมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไปเรียกว่า ต้อกระจกในผู้สูงอายุ ส่วนสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เกิดต้อกระจกก็คือการได้รับการกระทบกระเทือนอย่าง รุนแรงที่ตา(อุบัติเหตุ) การใช้ยาประเภทสเตอรอยด์หรือยาลดความอ้วนเป็นระยะเวลานาน การถูกรังสีบริเวณตาบ่อยๆ(ฉายรังสี)และต้อกระจกที่เกิดจากโรคเบาหวาน อาการของโรคต้อกระจก เมื่อการมองเห็นค่อยๆมัวลง ในระยะแรกจะรู้สึกเหมือนมีหมอกบางๆมาบังการมองเห็น เมื่ออยู่ในที่ที่มีแสงสว่างมากๆตาจะพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน ไม่สามารถสู้แสงได้ทั้งๆที่ไม่มีอาการตาแดงหรือเจ็บปวดแต่ประการใด อาการมัวของตาจะค่อยๆเป็นมากขึ้นเรื่อยๆและอาจใช้เวลานานหลายเดือนจนถึงหลาย ปีจนถึงขั้นที่แก้วตาขุ่นขาวหมดหรือที่เรียกว่า “ต้อสุก” มาถึงขั้นนี้ก็จะมองไม่เห็นอะไรแล้ว การรักษาโรคต้อกระจก เริ่มตั้งแต่มีอาการเล็กน้อย เมื่อเริ่มเป็นเลนส์ตายังขุ่นไม่มากก็อาจใช้ยาหยอดตาหยอดทุกวันๆละ 3-4 ครั้ง การรักษาต้อกระจกโดยการหยอดตาจะช่วยเพียงแค่ทำให้เลนส์ตาขุ่นช้าลงเท่านั้น นอกจากนี้อาจมีการใช้แว่นสายตาเพื่อช่วยให้การมองเห็นดีขึ้นซึ่งเหมาะกับคน ที่เป็นต้อกระจกร่วมกับสายตาสั้น แต่การรักษาต้อกระจกที่สาเหตุต้องใช้วิธีผ่าตัดดวงตาจึงจะได้ผลดีที่สุด การรักษาตาต้อกระจกโดยการผ่าตัดดวงตา(รอ จนต้อสุกก่อน) เนื่องจากสาเหตุของโรคต้อกระจกเกิดจากเลนส์ตาที่ขุ่นมัว ดังนั้นการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนเลนส์ตาจึงเป็นวิธีรักษาที่ต้นเหตุ ซึ่งในปัจจุบันจะผ่าตัดตาโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเป็นตัวทำลายเลนส์ตา เดิมที่ขุ่นมัวแล้วใส่เลนส์เทียมเข้าไปแทนที่ หลังจากการผ่าตัดดวงตาและพักฟื้นระยะหนึ่งแล้วผู้ป่วยสามารถกลับมามองเห็น ได้เหมือนคนปกติ การป้องกันโรคต้อกระจกเป็นวิธีที่ดีที่สุด เนื่องจากสาเหตุของต้อกระจกเกิดจากการที่ดวงตาได้รับรังสีจากแสงแดดมากจนทำ ให้กรดไขมันในดวงตาเกิดปฏิกิริยาสร้างอนุมูลอิสระที่ทำให้เลนส์ตารับแสงได้ น้อยลงจึงเห็นภาพที่ขุ่นมัว ดังนั้นการกินอาหารประเภทผัก-ผลไม้ที่ให้สารแอนตี้ออกซิแดนซ์(Antioxidant) สูงจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต้อกระจก ตัวอย่างเช่น ผักที่มีสีเขียวเข้ม(คะน้า บล็อคโคลี ใบย่านาง ใบและดอกขี้เหล็ก) ผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงเช่น ส้มเขียวหวาน ฝรั่ง มะกอก มะม่วง มะนาว ฯลฯ การกินอาหาร ผัก-ผลไม้ที่กล่าวมาข้างต้นถือว่าเป็นอาหารบำรุงสายตาที่จะมีส่วนช่วยป้องกันโรคต้อกระจกได้. |
| ที่มา thai-good-health.blogspot.com |