หมา เป็นนิ่วในไต นิ่วในไตสุนัข หมานิ่วในไต อาหาร การกินอย่างไรดี


1,618 ผู้ชม


โรคนิ่วในสุนัข (หมา)


โรคนิ่ว จะเรียกภาวะรวมถึงการมีก้อนนิ่ว หรือมีปริมาณของ Crystal ในระบบทางเดินปัสสาวะ
ซึ่งโรคนิ่วมักจะสัมพันธ์กับโรค หรืออาการในระบบทางเดินปัสสาวะต่างๆเช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
( Cystitis ) ท่อปัสสาวะอักเสบ ( Urethritis) นิ่วในไต ( Kidney Stone ) นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
( Bladder Stone ) เช่นเดียวกับในคน 
      นิ่วสามารถเกิดได้ในทุกส่วนของระบบทางเดินปัสสาวะ โดยนิ่วที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินปัสสาวะ ดังกล่าวจะระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินปัสสาวะ ทำให้เกิดความเจ็บปวด ในบางกรณีก้อนนิ่วอาจขวางทางเดินปัสสาวะ ให้เกิดปัสสาวะขัด
หรือปัสสาวะด้วยความเจ็บปวด และปัสสาวะไม่ออก จนทำให้กระเพาะปัสสาวะแตกซึ่งเป็น
อันตรายถึงตายได้นิ่วชนิดต่างๆที่พบได้มากในสุนัข
Magnesium Ammonium Phosphate (struvite)
       เป็นนิ่วชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในสุนัข โดยมากมักเกิดสัมพันธ์กับการเกิดการติดเชื้อในทางเดิน
ปัสสาวะ โดยแบคทีเรียชนิดที่เปลี่ยนยูเรียในปัสสาวะให้กลายเป็น Ammonia และอยู่ภายใต้สภาวะ
แวดล้อมที่เป็น ด่าง มีความอิ่มตัวของสารที่เป็นองค์ประกอบอื่นๆ และการมีโภชนาการที่ไม่เหมาะสม
ซึ่งสภาพเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดนิ่วที่มี Struvite และกลุ่มของ Calcium Phosphate
(Carbonate และ Hydroxyl Form) ได้
Calcium Phosphate
       เป็นนิ่วที่มักเกิดกับสุนัขที่มีอาการเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของเมตาโบลิซึม หรือเกิดร่วมกับภาวะ
เช่นเดียวกับนิ่วชนิด Struvite
Calcium Oxalate
       เป็นนิ่วที่พบได้น้อยในสุนัข (แต่พบมากในคน) การเกิดนิ่วชนิดนี้เป็นผลตามมาจากความผิดปกติที่
ทำให้เกิดการตกตะกอนของ Calcium Oxalate ในปัสสาวะที่มักอยู่ในสภาวะที่เป็น กรด ซึ่งมีกลไก
ในการเกิดที่ยังไม่ชัดเจน
Urate
       เป็นนิ่วที่พบได้มากที่สุดในสุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยน นอกจากนั้นยังพบในพันธุ์อื่นๆในเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่า
มาก การเกิดนิ่วชนิดนี้ในสุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยน เนื่องมาจากความผิดปกติของสุนัขพันธุ์นี้ที่ไม่สามารถกำจัด
Uric Acid ไปเป็น Allantoin ซึ่งเป็นสารที่ละลายได้ในปัสสาวะ โดยนิ่วชนิด Urate นี้มักเกิดในสภาวะของ
ปัสสาวะที่เป็น กรด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกินอาหารที่มีปริมาณของโปรตีนสูง หรืออาหารที่มีปริมาณ
ของ Urate มาก เช่น เครื่องในไก่ ก็จะยิ่งโน้มนำให้เกิดนิ่วชนิดนี้มากขึ้นนิ่วชนิดอื่นๆ (มีอุบัติการณ์เกิดที่ต่ำมาก)
- Silica
- Cystine
- ตะกอนของยาบางชนิด
- ฯลฯ

สาระน่ารู้เกี่ยวกับโรคนิ่วในสุนัข
- ปัสสาวะ เป็นสารละลายของสารหลายชนิด ประกอบด้วยสารที่สามารถยับยั้ง และสารที่โน้มนำให้เกิด
นิ่วได้
- การสืบประวัติของการให้อาหารสุนัข ในการวินิจฉัยสุนัขที่เป็นโรคนิ่วจะช่วยสามารถระบุสาเหตุ
ชนิดของนิ่ว ปัจจัยเสี่ยง และการป้องกันการเกิดนิ่วใหม่ได้
- การตรวจ Crystal ของสารต่างๆในปัสสาวะจากการส่องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะมีส่วนช่วยในการ
วินิจฉัยถึงชนิดของนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้ นอกจากนั้น ยังช่วยในการประเมินภาวะในระหว่างการรักษา
และหลังการรักษาได้เช่นกัน
- แม้ว่าความสัมพันธ์ของการพบ Crystal ในปัสสาวะ และการเกิดนิ่ว ยังไม่เฉพาะเจาะจงนักก็ตาม
อย่างไรก็ตามการพบ Crystal ของสารประกอบชนิดต่างๆในปัสสาวะก็ย่อมแสดงให้เห็นว่าเกิดการตกผลึก
(ความเข้มข้นของสารมากเกินการละลายได้) ในปัสสาวะขึ้นแล้ว
- นิ่วชนิด Urate มักมองไม่เห็นจากภาพ x-ray แม้จะพบว่ามีนิ่วจำนวนมากอุดตันอยู่ตลอดท่อทางเดิน
ปัสสาวะก็ตาม
- ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดนิ่วชนิด Urate ประกอบด้วย
       a. การมีความเข้มข้นของ Uric Acid ในปัสสาวะมาก
       b. การเพิ่มการผลิต หรือขับสารพวก Uric Acid ออกมาจากไตมาก หรือเกิดการการมีแบคทีเรียที่
ผลิต Urease จาก Ammonium Ions
       c. การมีสภาวะในกระเพาะปัสสาวะที่เป็นกรด (เช่นอาจเกิดจากการบริโภคโปรตีนในปริมาณที่มาก)
       d. มีการส่งเสริมการเกิด หรือการขาดสารยับยั้งการเกิดของ นิ่วชนิด Urate
       e. ปัญหาทางพันธุกรรม เนื่องจากพบว่านิ่วชนิด Urate มักเกิดในสุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยน และ อิงลิช
บูลดอก มากเป็นพิเศษ
- การจัดการภาวะนิ่วชนิด Urate ในสุนัขคือ
       a. การจำกัดปริมาณโปรตีน และสารอาหารที่ให้พลังงานในอาหาร
       b. ให้สารที่ช่วยยับยั้งการเกิด Uric Acid (Xanthine Oxidase Inhibitor ;Allopurinol)
       c. การเปลี่ยนสภาวะในทางเดินปัสสาวะให้มีสภาพเป็นด่าง
       d. ควบคุมการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นในทางเดินปัสสาวะ
       e. ลดความเข้มข้นของปัสสาวะลง เพิ่มการบริโภคน้ำสะอาด
- สุนัขที่พบว่าเป็นนิ่วชนิด Calcium Oxalate วิธีเดียวที่จะรักษาได้คือการผ่าตัดเอาก้อนนิ่วออก
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดมักไม่สามารถกำจัดนิ่วชนิดนี้ออกจากทางเดินปัสสาวะออกไปได้หมด เนื่องจากพบว่ามีนิ่วขนาดเล็กที่แทรกอยู่ในท่อทางเดินปัสสาวะซึ่งจะเป็นตัว โน้มนำให้เกิดนิ่วขึ้นมา
ใหม่ได้ถ้าไม่สามารถควบคุมภาวะเสี่ยงต่างๆภายหลังจากการผ่าตัดลงไปได้
- ส่วนมากสุนัขที่พบว่าเป็นนิ่วชนิด Calcium Oxalate มักมีประวัติว่าได้กินอาหารเหมือนกับคน
หรือการได้กินขนมขบเคี้ยวที่ไม่ได้คุณภาพ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนมกรอบที่มีความเค็ม)
มาเป็นเวลานาน เนื่องจากปริมาณเกลือในร่างกายที่มากเกินความต้องการจะไปกระตุ้นให้เกิดการ
สะสมของ Calcium ในกระแสเลือด (ซึ่งเป็นปัจจัยโน้มนำให้เกิดนิ่ว) ด้วยเช่นกัน
- การผ่าตัดยังเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการรักษานิ่วชนิด Calcium Phosphate แต่การควบคุมอาหาร
ประเภท โปรตีน โซเดียม แคลเชี่ยม และวิตามิน ดี ก็จะช่วยลดการเกิดนิ่วชนิดนี้เช่นกัน
- นิ่วชนิด Magnesium Ammonium Phosphate หรือเรียกอีกชื่อว่า Struvite นี้เป็นนิ่วชนิดที่พบ
ได้บ่อยมากที่สุดในสุนัข ซึ่งนิ่วชนิดนี้สัมพันธ์กับการเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดผลิต Urease
ได้ ในทางเดินปัสสาวะ
- นิ่วชนิด Struvite เพียงชนิดเดียวที่สามารถละลายโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งมีหลักดังนี้
       a. ลดความเข้มข้นของสารต่างๆในปัสสาวะเช่น Urea (สารที่แบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะใช้เป็น
อาหาร) Phosphorus และ Magnesium ในอาหาร
       b. ปรับภาวะภายในทางเดินปัสสาวะให้เป็นกรดเพื่อให้นิ่วไม่สามารถคงตัวอยู่ได้
       c. การวัดระดับของ ยูเรีย ในเลือด (Blood urea Nitrogen;BUN) ว่าลดลงอยู่ในระดับเท่าใด จะเป็นการพิจารณาอย่างง่ายๆที่ช่วยบอกสภาะวะของสุนัขในช่วงการรักษาได้
       d. การถ่ายภาพรังสี x-ray หรือ Ultrasound เป็นระยะๆ จะช่วยให้ทราบถึงขนาดของก้อนนิ่วที่
ลดลงในระหว่างการรักษาได้
       e. หากไม่พบนิ่วจากภาพรังสี x-ray แล้ว ควรให้อาหารเพื่อการสลายนิ่วต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย
1 เดือน เนื่องจากนิ่วที่มีขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นจากภาพ x-ray นี้สามารถโน้มนำให้เกิดการก่อ
ตัวของก้อนนิ่วขนาดใหญ่ภายหลังได้หากไม่ให้อาหารเพื่อสลายนิ่วต่อ
       f. นอกจากนี้การควบคุมการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างที่จะป้องกัน
ไม่ให้เกิดนิ่วชนิด Struvite ขึ้นมาได้ใหม่
การให้อาหารที่ครบถ้วนและสมดุล ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป รวมถึงการดูแล เอาใจใส่เป็นอย่างดี
เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับสุขภาพที่ดีของคุณ และเจ้าสุนัขแสนรัก

ที่มา  /disease.108dog.com

อัพเดทล่าสุด