น่ารู้ เรื่อง การแปลผลการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี - การแปรผลการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เพื่อประโยชน์


1,421 ผู้ชม


การอ่านผลการตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบบี - การแปลผลการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
ไวรัสตับอักเสบบี
HBsAg เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัส ตับอักเสบชนิด B ว่ามีในเลือดหรือไม่
    * ถ้ารายงานว่า HBsAg -ve ก็คือปกติ หรือไม่มีเชื้อนี้ในเลือด
    * ถ้ารายงานว่า HBsAg +ve ก็คือพบว่า มีเชื้อนี้ในเลือด ซึ่งต้องดูว่าจะเป็นประเภทไหนดังต่อไปนี้
...... พวกที่มีเชื้อ และ มีอาการอักเสบฉับพลันของตับชัดเจน (เช่น มีไข้ท้องอืดตาเหลืองตัวเหลือง และมีค่าเอ็นไซม์ต่างๆของตับผิดปกติ) รวมทั้งอาจจะมีประวัติเพิ่งสัมผัสโรคมา ก็จัดเป็นพวกที่ กำลังเป็นไวรัสตับอักเสบชนิด B พวกนี้ถ้าได้รับการรักษา ด้วยการพักผ่อนให้พอเพียง ส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติได้ และเชื้อจะหมดไปจากเลือดภายในหกเดือน และจะมีภูมิต้านทาน (HBsAb) เกิดขึ้นมาแทน และจะไม่เป็นโรคนี้อีกต่อไป แต่ถ้าหกเดือนแล้วยังไม่หาย ก็จะกลายเป็นพวกพาหะ หรือ พวกตับอักเสบเรื้อรัง ต่อไป
...... พวกที่มีเชื้อ แต่ไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งผลการตรวจเอ็นไซม์ของตับปกติ พวก นี้เรียกเป็นพาหะ (Carrier) (ดูเรื่อง LFT ข้างล่างประกอบอีกที) พวกนี้ไม่มีอันตราย แต่ต้องระวังเชื้อจะติดต่อไปยัง คู่สมรสได้หรือ ถ้าเป็นหญิงก็ จะมีเชื้อผ่านไปลูกได้ และถ้ากินเหล้าหรือตรากตรำอาจจะเกิดตับอักเสบขึ้นมาภายหลังได้ แต่ก่อนพวก พาหะตับอักเสบบีนี้ จะไม่มีการรักษาเฉพาะ (มีหายไปเองได้บ้างบาวส่วน) แต่ปัจจุบัน มีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อใช้ยาให้ภาวะนี้หายไปได้มากขึ้น ซึ่งต้องติดตามกันต่อไป
(หมายเหตุ - กรณีที่เป็นพาหะ ที่เจาะเลือดเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะมีประวัติ คล้ายตับอักเสบมาก่อนไม่เกินหกเดือนอาจจะ ไม่ใช่พาหะก็ได้ อาจจะเป็นพวกตับอักเสบ ที่กำลังหายแต่เชื้อยังไม่หมดไป ควรรอจนครบหกเดือนแล้วเจาะซ้ำอีกครั้ง ถ้ายังพบเชื้ออยู่ จึงจัดเป็นพาหะนำเชื้อตับอักเสบ)
...... พวกที่มีเชื้อ และยังไม่มีอาการอะไร แต่อาจจะพบมีค่าเอ็นไซม์ของตับสูงผิดปกติ หรือ มีประวัติเคยเป็นตับอักเสบเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง พวกนี้จะจัดเป็นพวกที่เป็นตับอักเสบเรื้อรัง พวกนี้มีความเสี่ยงต่อการเกิดตับอักเสบรุนแรงกลับขึ้นมาอีก หรือ เกิด ภาวะตับแข็ง ตลอดจนมะเร็งตับได้ง่ายกว่าคนปกติมาก พวกนี้ถ้าจำเป็นอาจจะต้อง รับการวินิจฉัยด้วยการเจาะเอาเนื้อตับมาตรวจ (Liver Biopsy) และพิจารณาให้ Interferon เพื่อการรักษา (ราคาแพงมาก)
HBsAb ตัวนี้เป็นการตรวจหาระดับ ภูมิต้านทานต่อเชื้อตับอักเสบชนิด B
  ถ้ารายงานว่า HBsAb -ve ก็ คือ ไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อนี้ในเลือด และถ้าไม่มีเชื้อ (HbsAg) ด้วย และไม่เคยมีประวัติได้รับวัคซีนมาก่อน ถ้าอยากจะป้องกันโรคนี้ไว้ ก็ให้วัคซีนป้องกันตับอักเสบได้ รวมสามเข็ม จะมีผลป้องกันได้ตลอดไป
แต่ ถ้าเคยมีประวัติได้รับวัคซีนนี้มาครบสามเข็มแล้ว แม้ว่าการตรวจ จะไม่พบระดับภูมิต้านทานนี้ อายุรแพทย์ และกุมารแพทย์หลายท่าน ยังคงแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเพิ่ม เนื่องจากมีการศึกษา และรายงานว่า แม้ระดับภูมิต้านทานจะต่ำกว่า ระดับที่เราจะตรวจพบได้ แต่ก็ยังคงเพียงพอต่อการป้องกันโรค
  ถ้ารายงานว่า HBsAb +ve พวก นี้ดี คือมีภูมิต้านทานต่อเชื้อนี้แล้ว และจะไม่เป็นโรคนี้อีก พวกนี้อาจจะเกิดจากเคยฉีดวัคซีนนี้ครบแล้วมาก่อน หรือเคยเป็นโรคนี้แล้วหายไปแล้ว หรือ บางคนเคยรับเชื้อและหายไปเองโดยไม่รู้สึกตัว (ผมเองก็เป็นแบบนี้ คือมีภูมิต้านทานโดยไม่รู้ตัว)
ที่มา  www.bloggang.com

อัพเดทล่าสุด