ปัญหานอนไม่หลับเมื่อลูกนอนไม่หลับ |
การที่เด็ก “กินอิ่ม นอนหลับ” ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญมากที่จะทำให้เด็กเป็นคนที่มีสุขภาพแข็ง แรงทั้งกาย จิตใจและอารมณ์ ทั้งยังส่งผลให้มีพัฒนาการที่ดีพร้อมทุกด้าน เนื่องจากการที่เด็กได้รับประทานอาหารอย่างเพียงพอทั้งปริมาณและมีสารอาหาร ครบถ้วนจะช่วยทำให้เด็กมีร่างกายที่แข็งแรง เจริญเติบโตสมวัย มีความสุขอย่างเต็มที่ เพราะเราคงเคยได้เห็นเด็กที่ไม่มีอาหารรับประทานว่าเขาจะเป็นคนที่ขาดความ สุข ทั้งสีหน้าและแววตาเลื่อนลอย ทั้งยังมีอารมณ์แปรปรวนตลอดเวลา ส่วนการที่เด็กได้พักผ่อนนอนหลับอย่างเต็มที่ จะทำให้เด็กมีร่างกายที่เติบโตแข็งแรง สดชื่น กระฉับกระเฉง สมองพร้อมเปิดรับการเรียนรู้ใหม่ๆ ซึ่งในวัยเด็กเล็กหรือทารกควรนอนวันละประมาณ 15 ชั่วโมง หากโตแล้วอยู่ในวัยเรียนควรนอนวันละประมาณ 7-8 ชั่วโมง แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกที่ยังเล็กอยู่ ผู้เขียนเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนจะต้องพบเจอปัญหาเกี่ยวกับการนอนของลูก แทบทั้งนั้น เช่น ลูกนอนไม่เป็นเวลา ลูกชอบตื่นกลางดึก ลูกตื่นนอนบ่อยๆ หรือลูกนอนไม่ค่อยหลับ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะทำให้ลูกไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขได้ ่ เพราะการนอนไม่เพียงพอจะเป็นผลร้ายทั้งต่อพัฒนาการในทุกด้าน ทั้งสมองไม่สามารถเปิดรับการเรียนรู้ได้ ทั้งอารมณ์ไม่ดีหงุดหงิดง่าย กลายเป็นคนอารมณ์รุนแรงขี้โมโห และอาจรวมถึงการมีโรคภัยอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา เช่นปวดศีรษะ ความดันสูง ผู้เขียนขอนำเสนอถึงสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาการนอนไม่หลับของลูก ดังนี้ สาเหตุที่ลูกนอนไม่หลับ 1.ปัญหาจากความเจ็บป่วย มีเด็กหลายคนที่มีปัญหาการนอนไม่หลับเกิดจากการที่มีปัญหาความเจ็บป่วยทาง ด้านร่างกาย เช่น เป็นไข้ ปวดศีรษะ ปวดท้อง ปวดฟัน ซึ่งในวัยเด็กเล็กนั้น เมื่อเวลาที่เด็กไม่สบายหรือเกิดความผิดปกติของร่างกาย เขาจะไม่สามารถอธิบายให้คุณพ่อคุณแม่ทราบได้ถึงอาการผิดปกติต่าง ๆ นั้น ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นคอยสังเกตความผิดปกติของลูกอยู่เสมอ เมื่อพบว่าลูกไม่สบายจะได้รักษาอาการได้ทันท่วงที 2.ปัญหาจากสิ่งแวดล้อม เช่น เด็กที่มีบ้านอยู่ในเขตที่มีเสียงอึกทึกตลอดเวลา อยู่ในที่แออัด มีอากาศร้อนหรือหนาวมากเกินไป หรือเด็กนอนห้องเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ที่ชอบดูโทรทัศน์ หรือฟังวิทยุเสียงดังในเวลากลางคืน ซึ่งปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมดังกล่าวนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงที่ทำให้ลูกเกิด ปัญหาการนอนไม่หลับได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรใส่ใจเรื่องการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการนอน ของลูกด้วย 3.ปัญหาเด็กนอนกลางวันมากเกินไป การนอนกลางวันของเด็กเล็กเป็นสิ่งสำคัญต่อพัฒนาการของลูก แต่การที่คุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้ลูกนอนกลางวันมากเกินไป จะส่งผลให้ลูกแปลงร่างเป็นนกฮูกไม่ยอมนอนในตอนกลางคืนซึ่งถือเป็นเวลาพัก ผ่อนอย่างแท้จริง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรจัดสรรเวลาการนอนกลางวันของลูกให้เหมาะสม เช่นให้นอน 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้นให้เป็นเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ 4.ปัญหาเด็กไม่ได้ออกกำลังกาย คุณพ่อคุณแม่บางครอบครัวเลี้ยงลูกโดยที่ไม่ยอมให้เล่นหรือทำอะไรเลย ซึ่งการที่เด็กไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมากเท่าที่วัยเด็กควรจะเป็นนั้น จะส่งผลทำให้เด็กหลับยาก เพราะร่างกายของเขาไม่รู้สึกเหนื่อย จึงทำให้ไม่อยากนอนหลับพักผ่อนนั่นเอง วิธีที่ทำให้ลูกนอนหลับสบาย 1.อาบน้ำก่อนนอน การอาบน้ำจะช่วยทำให้ลูกสบายตัว คลายเครียด ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกอาบน้ำอุ่น เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วควรให้ลูกทาแป้งเพื่อไม่ทำให้ระคายตัว และจัดเสื้อผ้าที่ไม่บางหรือหนาเกินไปให้ลูกสวมใส่ ก็จะทำให้ลูกนอนหลับสบายตลอดคืน 2.สัมผัสเบา ๆ ก่อนนอน เวลาที่คุณพ่อคุณแม่เห็นลูกนอนไม่หลับกระสับกระส่าย คุณพ่อคุณแม่ลองลูบหลัง ลูบหัว ตบก้นลูกเบา ๆ หรืออาจจะลองนวดแขนขาลูกเบา ๆ ก็ได้ เพราะการสัมผัสร่างกายของลูกเช่นนี้ จะทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย สบายใจ ซึ่งจะช่วยให้ลูกหลับง่ายขึ้น 3.จัดสภาพแวดล้อมให้ดี ในห้องนอนของลูกต้องมีอุณหภูมิที่พอเหมาะ คือไม่หนาวหรือไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ในห้องไม่ควรมีแสงไฟที่ส่องแยงตาเด็กแต่ควรเปิดไฟสลัว ๆ เพื่อให้ลูกมองเห็นคุณพ่อคุณแม่ได้ อีกทั้งห้องนอนต้องสะอาดไม่มีอะไรวางกองไว้รกหูรกตา เพราะบางทีเวลานอนไม่หลับเด็กมักมองนั่นมองนี่ไปเรื่อย หากเขาเห็นสิ่งของต่าง ๆ ในไฟสลัว ๆ เขาอาจคิดจินตนาการว่าเป็นสิ่งน่ากลัวอยู่รอบ ๆ ตัวเขาก็จะทำให้ไม่กล้านอนหลับได้ 4.เล่านิทานก่อนนอน คุณพ่อคุณแม่ควรใช้เวลากับลูกก่อนนอนด้วยการพาลูกเข้านอน และเล่านิทานให้ลูกฟังเพื่อให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลายและมีความสุข ซึ่งนิทานที่เล่าให้ลูกฟังก่อนนอนนั้นควรเป็นเรื่องที่ฟังได้เพลินๆ มีเนื้อเรื่องที่ราบรื่น มีความสุข ไม่ควรเป็นเรื่องที่มีเนื้อหาตื่นเต้น โลดโผน หรือน่ากลัว เพราะนั่นจะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ลูกยิ่งนอนไม่หลับได้ 5.เปิดเพลงสบาย ๆ วิธีนี้สามารถช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่าย โดยเพลงที่เหมาะแก่การเปิดฟังตอนนอนนั้น ควรเป็นเพลงบรรเลงเบา ๆ ที่มีเสียงธรรมชาติประกอบ เช่น เสียงน้ำไหล เสียงลม เสียงนก และไม่ควรเปิดเพลงดังจนเกินไปการฟังเพลงบรรเลงเบา ๆ ก่อนนอนหรือขณะที่นอนหลับจะช่วยคลายเครียด ลดความวิตกกังวล ทำให้รู้สึกสบายใจ จึงส่งผลทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นอนหลับง่ายขึ้น 6.ดื่มนมอุ่น ๆ ก่อนนอน ในนมมีกรดอะมิโนที่เรียกว่าทรัยป์โตฟาน (tryptophan) ช่วยผ่อนคลายประสาท ทำให้หายอ่อนเพลีย จึงช่วยให้นอนหลับสบายได้ ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงสาเหตุว่าทำไมลูกของเราจึงนอนไม่ หลับและได้แก้ไขตามวิธีการทั้ง 6 ข้อที่ผู้เขียนได้นำเสนอไปแล้วนั้น ลูกของท่านจะเป็นเด็กหลับง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เขามีความสุขทั้งกาย และใจได้อย่างเต็มที่ในที่สุด |