ปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของโลก มีผลต่อวิกฤตสุขภาพของผู้คนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะผลจากเส้นแรงแม่เหล็กโลกที่คั่งค้างในร่างกาย ก่อให้เกิดการปวดเมื่อย อ่อนเพลีย
ชามะเขือพวง พีระมิด ชามะเขือพวงบีวี ราคา ขายที่ไหน ผศ.ดร.ไชยวัฒน์ ไชยสุต ชามะเขือพวง
เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดแห้ง มะเขือพวง ตรา พีระมิด
สรรพคุณ ชามะเขือพวง พีระมิด : - ลดและควบคุมระดับน้ำตาล ( เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน )
- ป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เกิดจากเบาหวานได้ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ ไตพิการ จอตาพิการ ประสาทพิการ โรคที่เ้ท้า
- ลดการเสี่ยงของอาการหลอดเลือดแข็งและตีบตัน
- ป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจได้
- กระตุ้นระบบการขับถ่ายให้ดีขึ้น
- ลดระดับโคเลสเตอรอลในกระแสเลือด
- ป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ขับเสมหะ
- ต้านโรคมะเร็ง
( ไม่มีผลต่อไตเหมือนการรับประทานยา ) | ผลิต ชามะเขือพวง พีระมิด โดย : บริษัท ออร์แกนิก ไวต้า จำกัด จัดจำหน่ายโดย : บริษัท ไทย โปรดักส์ อินโนเวชั่น จำกัด อย. 502-06649-1-0012 น้ำหนักสุทธิ ชามะเขือพวง พีระมิด : 40 กรัม 1 กล่องบรรจุ : 20 ซอง 1 ซอง ใช้ชงกับน้ำ 600 - 1,000 มิลลิลิตร ทานง่าย ไม่หวานเกินไปและ ไม่ขมเหมือนชา ส่วนประกอบ : มะเขือพวง 100% คำแนะนำ : ควรดื่มเป็นประจำวันละ 1 ซอง |
เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดแห้ง ชามะเขือพวง พีระมิด จาก เฮิร์บบัลลิสต์ กับการดูแลสุขภาพเชิงพลังงาน ปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของโลก มีผลต่อวิกฤตสุขภาพของผู้คนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะผลจากเส้นแรงแม่เหล็กโลกที่คั่งค้างในร่างกาย ก่อให้เกิดการปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ภูมิคุ้มกันลดลงไขข้ออักเสบ โรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน มะเร็งศูนย์ฝึกอบรมสวนบุรณรักษ์ธรรมค้นพบว่ามะเขือพวงเป็นพืชที่มีธาตุความเกิด หรือความสว่างซึ่งเป็นธาตุบริสุทธิ์สูงสามารถใช้เพื่อการดูแลสุขภาพได้ คณะวิจัยจึงได้ทำการวิจัยพัฒนา ร่วมกับการวิจัยในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ และผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานชีวภาพ(ฮาโด) ตากประเทศญี่ปุ่น ในด้านการตวจสอบพลังงานชีวภาพ จนเกิดเครื่องดื่มสมุนไพรชนิดแห้งมะเขือพวง พีระมิด โดยการนำมะแคว้งกุลา(มะเขือพวง) ที่มีสรรพคุณพิเศษ คือเป็นสมุนไพรที่ “ธาตุความเกิด” สูง หรือ “ธาตุแห่งความสว่าง” มาก มาใช้ร่วมกับน้ำเสริมสุขภาพโดยผ่านกระบวนการอบจนแห้งสนิท
การแพทย์ในรูปแบบพลังงาน เป็นการแพทย์รูปแบบหนึ่งที่มองมนุษย์เป็นพลังงานในหลายมิติ โดยนำเอาความแตกต่างของรูปแบบแรงสั่นสะเทือน และระดับความถี่ที่หลากหลายนั้นเข้ามาวินิจฉัยและบำบัดรักษาคนในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งต่างจากการแพทย์แผนปัจจุบันที่มองว่า มนุษย์นั้นประกอบขึ้นมาจากสสารที่เป็นอวัยวะและสารเคมีทมี่ไหลเวียนน่ายการ การรักษาจะทำโดยการปรับปรุงการทำงานของอวัยวะนั้น ๆ ทั้งวิธีการให้ยาและการผ่าตัดซึ่งเป็นที่ยอมรับและได้ผลระดับหนึ่งแต่ก็มีผลข้างเคียงจากการรักษา นอกจากนี้โรคบางชนิดยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
จากปัญหาดังกล่าว ทำให้เกิดการศึกษาวิจัยด้วยวิทยาการใหม่ ๆ โดยมีพื้นฐานของทฤษฏีจากมุมมองแบบไอน์สไตน์ ที่มีชื่อเรียกว่า ศาสตร์คลื่นพลังบำบัด (Vibrational Medicine) โดยมองว่ามนุษย์ คือเครืองข่ายของสนามพลังงานอันซับซ้อนที่สอดประสานอยู่กับระบบการทำงานของอวัยวะและระบบเซลล์ทางกายภาพ น้ำมาสู่ความเข้าใจที่ว่า ร่างกายของมนุษย์ที่ระดับใต้อะตอมก็คือพลังงานซับซ้อนที่มีการสั่นสะเทือนและแกว่งในอัตราที่แตกต่างกันไป ซึ่งอาจเรียกว่าพลังงานชีวภาพ ปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องมือที่สามารถวัดพลังงานดังกล่าวได้เ เรียกว่า เครื่อง MRA หรือ PIA
เครื่อง PIA จะประมวลผลระดับพลังงานชีวภาพวัดค่าเป็นหน่วยอาโด อยู่ในช่วง 20 หรือ +20 ชามะเขือพวง พีระมิด
ระดับพลังงานฮาโด | การแปลผล |
+19 ขึ้นไป | ดีเลิศ |
+15 ขึ้นไป | มีผลในการบำบัดได้ |
+10 ขึ้นไป | มีผลในการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ |
+ 6 ขึ้นไป | พืชผักปลอดสารพิษ |
0 | ไม่มีผลกระทบ |
ต่ำกว่า 0 | มีผลทางลบต่อร่างกาย |
ต่ำกว่า -10 | เกิดปัญหา |
ต่ำกว่า -15 | มีพิษ |
ผลิตภัณฑ์ ชามะเขือพวง พีระมิด | ค่าพลังงานชีวภาพ (Hado Unit) |
ภูมิคุ้มกัน | ตับ | ลำไส้ใหญ่ | มะเร็ง | เบาหวาน | ไต | หลอดลม |
น้ำ RO | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 |
น้ำ RO มะเขือพวง | +11 | +10 | +12 | +10 | +11 | +12 | +11 |
น้ำเสริมพลังงาน + มะเขือพวง | +17 | +16 | +16 | +16 | +16 | +16 | +17 |
เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดแห้งมะเขือพวง ก่อนผ่านกระบวนการผลิตเสริมพลังงาน จะมีค่าพลังงานชีวภาพอยู่เพียงแค่ 10 ฮาโด แต่หลังจากผ่านกระบวนการผลิตที่มีการเสริมพลังงาน จะให้ค่าพลังงานชีวภาพที่มากกว่า 16 ฮาโดซึ่งมีผลในการบำบัดโรคต่าง ๆ ได้
Source: https://www.tpi.co.th/product-turkey-berry.php
ผศ.ดร.ไชยวัฒน์ ไชยสุต ชามะเขือพวง มะเขือพวง แก้เบาหวาน นักวิจัยเผยสรรพคุณมะเขือพวง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยโรคเบาหวาน เตือนอย่าบริโภค ในปริมาณมากเกินไปเพราะมีสารพิษรวมอยู่ด้วย เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ผศ.ดร.ไชยวัฒน์ ไชยสุต อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หัวหน้าโครงการศึกษาวิจัยพืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ สถาบันนวัตกรรมสุขภาพก้าวหน้า เปิดเผยผลการวิจัยเกี่ยวกับมะเขือพวงว่า
|
|
มะเขือพวงเป็นพืชที่อยู่คู่ครัวไทยมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นแกงเขียวหวาน แกงเนื้อ แกงป่า น้ำพริกกะปิ หรือผัดเผ็ดบางชนิด ซึ่งตำรับอาหารที่เราได้รับการสืบทอดมาแต่โบราณกาลนั้น บรรพบุรุษของเรามิได้คำนึงถึงรสชาติแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังมองถึงทางด้านสรรพคุณของเครื่องเทศและสมุนไพรที่ใช้ไว้อีกด้วย ทั้งนี้ มะเขือพวงมีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนไทยหลายประการ คือ ช่วยเจริญอาหาร และย่อยอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงธาตุ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยให้ โลหิตหมุนเวียนดี แก้ปวด ฟกช้ำ ปวดกระเพาะ ฝีบวมหนอง อาการบวมอักเสบ ขับปัสสาวะ ซึ่งสรรพคุณเหล่านี้ จากการที่ได้รับองค์ความรู้ในการใช้มะเขือพวงเพื่อการดูแลสุขภาพผู้ป่วย ณ ศูนย์ฝึกอบรมสวนบูรณรักษ์ธรรม ทำให้ทราบว่า มะเขือพวงมีสารจำพวกไฟโตนิวเทรียนท์ ที่จะช่วยร่างกายในสภาวะขาดแคลนสารอาหาร ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ และกลุ่มสารทอร์โวไซด์ ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเทอรอลในกระแสเลือดได้ และกระตุ้นให้ตับนำคอเลสเทอรอลในเลือดไปใช้ได้มากขึ้น รวมทั้งยับยั้งการดูดซึมกลับของคอเลสเทอรอลในลำไส้ด้วย จึงอาจช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีกทางหนึ่ง สารอีกตัวหนึ่งที่ค้นพบในมะเขือพวงคือ ซาโปนิน ทำให้มะเขือพวงมีฤทธิ์ขับเสมหะ จากการศึกษาพบว่ามะเขือพวงนั้นเป็นพืชที่มีเส้นใยสูงมาก โดยมีเส้นใยมากกว่ามะเขือยาว 3 เท่า และมากกว่ามะเขือเปราะถึง 65 เท่า แม้ว่าจะมีผักหลายชนิดที่มีสารเส้นใยสูง แต่มะเขือพวงก็ยังได้รับสมญานามเป็น “ราชาแห่งผักพื้นบ้านในเรื่องของสารเส้นใย” เนื่องจากมะเขือพวงมีสารเส้นใยมากที่สุดเมื่อเทียบกับผักพื้นบ้านของไทยเกือบทั้งหมด เส้นใยในมะเขือพวงมีชื่อเรียกว่า เพกติน เป็นสารที่ละลายน้ำได้ สารนี้จะสามารถ เปลี่ยนเป็นวุ้นไปเคลือบที่ผิวของลำไส้ทำให้ลำไส้ดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง จึงเป็นการช่วยไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วเกินไป ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้อีกด้วย “เพกตินในมะเขือพวงนั้น ยังช่วยในการดูดซับ ไขมันส่วนเกินจากอาหารได้ นี่คือเหตุผลหนึ่งของบรรพบุรุษของไทย มักจะทำแกงกะทิใส่มะเขือพวง ซึ่งน่าจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และ โรคหลอดเลือดหัวใจได้ ผลวิจัยในหนูทดลองที่เป็นโรคเบาหวาน พบว่ามะเขือพวงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของหนูเหล่านั้นค่อยๆลดลง นอกจากนี้ปริมาณอนุมูล อิสระซุปเปอร์ออกไซด์และไนตริกออกไซด์ในเลือดก็ลดลงด้วย อนุมูลอิสระเหล่านี้พบมากในภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูง และเป็นสาเหตุของการเสื่อมของอวัยวะต่างๆในภาวะเบาหวาน เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ ไตพิการ จอตาพิการ ประสาทพิการ โรคที่เท้า และการ เกิดผิดปกติที่อวัยวะต่างๆในร่างกาย ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า มะเขือพวงช่วยในการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน และโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดจากเบาหวานได้” ผศ.ดร.ไชยวัฒน์กล่าว ผศ.ดร.ไชยวัฒน์กล่าวอีกว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักเกิดโรคแทรกซ้อนอันเนื่องมาจากอนุมูลอิสระที่เข้าไปทำลายเซลล์ในอวัยวะต่างๆ และโดยมากมักจะเป็นโรคไตร่วมด้วยในภายหลัง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะต้องมีการคุมพฤติกรรมการกินการอยู่อย่างเคร่งครัด เพื่อจะทำให้ ร่างกายของผู้ป่วยเป็นปกติ แต่จากที่พบมานั้นค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยากเพราะผู้ป่วยยังติดนิสัยการกินการอยู่แบบเดิมๆ จึงทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น และในบางราย อาการลุกลามจนถึงต้องตัดอวัยวะต่างๆ เรื่องเหล่านี้มีผลกระทบต่อทางจิตใจของผู้ป่วยและญาติเป็นอย่างยิ่ง จากผลวิจัยในหนูที่เป็นเบาหวานพบว่า น้ำตาลและอนุมูลอิสระในเลือดของหนูลดลง ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีเพราะอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในการช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ผศ.ดร.ไชยวัฒน์กล่าวเตือนด้วยว่า แม้ว่ามะเขือพวงจะมีฤทธิ์ช่วยลดอนุมูลอิสระได้จริง และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูทดลองที่เป็นเบาหวานได้ แต่จากการวิจัยของเรายังค้นพบสารที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกายหากได้รับในปริมาณที่มาก นั่นคือ สารอัลคาลอยด์ในมะเขือพวง เป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทและมีผลต่ออวัยวะอื่นๆ ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้บริโภคในปริมาณที่มากเกินไป ในปัจจุบันมีการศึกษาพัฒนามะเขือพวง โดยนำมาอบแห้งและผ่านกรรมวิธี ลดปริมาณสารอัลคาลอยด์ได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ในรูปแบบของชามะเขือพวง จากการทดสอบกับอาสาสมัครที่เป็นโรคเบาหวาน โดยให้ดื่มชามะเขือพวงในปริมาณที่เหมาะสมต่อวันพบว่า ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เมื่อร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค นอกจากนี้ยังช่วยลดภาวะโรคแทรกซ้อนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสรรพคุณของมะเขือพวง ขอรายละเอียดได้ที่สถาบันนวัตกรรมสุขภาพก้าวหน้า -------------------------------------- @ ^ - ^ @ ----------------------------------------- ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สถาบันนวัตกรรมสุขภาพก้าวหน้า https://www.be-v.net/
|