เกร็ดความรู้ : มี SEX ถูกวิธีป้องกันไม่ให้ ป่อง คำถาม
ทาน ยาคุมกำเนิดติดต่อกันนานหลายเดือน และ ได้หยุดทานมา 1 เดือนแล้ว ปรากฏว่าประจำเดือนที่ เคยมาปกติตอนช่วงทานยาคุมกำเนิด ตอนนี้ไม่มาได้ 1 สัปดาห์แล้ว ไม่ทราบว่าอาการแบบนี้จะผิดปกติไหมคะ เพราะตอนที่มีเพศสัมพันธ์กันให้แฟนใส่ถุงยางอนามัย 2 ชั้น ไม่ทราบว่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการตั้งท้องได้หรือไม่ หรือว่า 1 ชิ้นก็เพียงพอแล้ว และการคุมกำเนิดแบบใช้ถุงยางอนามัยกับแบบทานยาคุมกำเนิด อย่างไหนจะลดความเสี่ยงในการตั้งท้องได้มากกว่ากัน จาก ผู้หญิงอยากโสด คำตอบ
การ ทานยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นการปรับสภาพสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายด้วยส่วนหนึ่ง นอกเหนือจากการควบคุมการตกของไข่ การทานยาเม็ดคุมกำเนิดก็จะบังคับให้ประจำเดือนมาปกติและมาสม่ำเสมอ สำหรับ การที่ประจำเดือนไม่มา 1 สัปดาห์ หลังจากหยุดทานยาคุมกำเนิด กรณีอย่างนี้ยังไม่ถือว่าผิดปกติ อยากให้รอดูอีก 15 วัน แต่ถ้าเกิน 15 วันแล้วประจำเดือนยังไม่มาต้องกลับมาดูแล้วว่าถ้าหากไม่มีการตั้งครรภ์เกิด ขึ้น มีความผิดปกติอะไรอย่างอื่นหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ก่อนที่จะรับ ประทานยาเม็ดคุมกำเนิดประจำเดือนอาจจะมาไม่ปกติก่อนหน้านี้ก็ได้ แต่พอทานไปแล้วประจำเดือนมาสม่ำเสมอและปกติ คงต้องสังเกตต่อว่าหากหยุดการทานยาเม็ดคุมกำเนิดแล้วประจำเดือนจะมาผิดปกติ หรือไม่นั้นคงต้องรอดูรอบประจำเดือนถัดไปอีก 2-3 รอบ ถึงจะได้คำตอบ สำหรับ การใส่ถุงยางอนามัย 2 ชั้น หมอคิดว่ามันมากเกินความจำเป็น การใส่ถุงยางอนามัยเพียงชั้นเดียวและใส่อย่างถูกวิธีก็น่าจะเพียงพอต่อการ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้ว ส่วนการใส่ 2 ชั้นบางทีก็อาจจะทำให้ถุงยาง อนามัยฉีกขาดได้เหมือนกัน (แทนที่จะช่วยอาจจะสร้างปัญหาซ้ำเติมได้) ในรายนี้โอกาสของการตั้งครรภ์ค่อนข้างยากเพราะแฟนคุณสวมถุงยางอนามัย ส่วน การคุมกำเนิดแบบสวมถุงยางอนามัยกับทานยาคุมกำเนิดนั้น การทานยาคุมกำเนิดดีกว่าอยู่แล้ว เพราะการทานยาเม็ดคุมกำเนิดนั้น ยาจะทำให้เกิดมูกตรงบริเวณปากมดลูก ส่งผลต่ออสุจิทำให้ไม่สามารถแหวกว่ายหรือแหวกว่ายด้วยความยากลำบากจากช่อง คลอดผ่านปากมดลูกไปยังโพรงมดลูกและไปรอไข่ที่บริเวณปีกมดลูกข้างใดข้างหนึ่ง ได้ และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมต่อการฝังตัว ทำให้ปีกมดลูกมีการโบกพัดไม่ดี และยาเม็ดคุมกำเนิดทำให้รังไข่ไม่มีการตกไข่ ส่วน ในเรื่องของถุงยางอนามัยถ้ามีการสวมใส่ที่ดี ถูกต้อง สามารถป้องกันและคุมกำเนิดได้ (ถ้าเกิดถุงยางอนามัยไม่รั่วหรือแตกกลางคัน หรือการสวมใส่ไม่ถูกต้อง) หากการปฏิบัติภารกิจสิ้นสุดแล้วยังนอนแช่ อยู่กับที่โดยไม่ถอดถุงยางอนามัยออก ก็อาจจะทำให้ถุงยางอนามัยหลุดเข้าไปในช่องคลอดของฝ่ายหญิงได้ และตัวอสุจิเล็ดลอดหลุดเข้าไปในช่องคลอดก็ทำให้ มีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ได้ด้วย...รับฟัง ชูรัก ชูรส เรดิโอโชว์ ทาง FM 105 ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.30-24.00 น.
|