|    3.1.1 สมุนไพรบำบัด (สมุนไพรชนิดต่างๆ)  สมุนไพร : บำบัดโรค       ถ้าจะกล่าวว่า  พืชสมุนไพรเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทยก็คงไม่แปลก  เพราะทั้งอาหารที่บริโภคก็มีส่วนประกอบของพืชสมุนไพร  ซึ่งทั้งอร่อยและบำบัดโรค  รวมถึงน้ำดื่มดับกระหายคลายร้อนหรือชาสมุนไพรที่เคยดื่มเคยจิบกันมาตั้งแต่ เล็กแต่น้อยมีทั้งเก็กฮวย ตะไคร้ กระเจี๊ยบ ใช้ดื่มดับกระหาย  โดยไม่รู้ว่านอกจากรสชาติที่อร่อยชื่นใจแล้ว ยังกำนัลด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพ  แต่ด้วยวันและเวลาผ่านไป  ใครหลายคนคงลืมน้ำสมุนไพรเหล่านี้ไปแล้วลองย้อนวันเวลากลับไปทบทวนความ รู้สึกเมื่อครั้งวัยเยาว์ที่ได้ดื่มน้ำสมุนไพรหรือน้ำชาเหล่านี้  ว่าทำให้เรามีแรงกระโดดโลดเต้นได้มากมายเพียงใด    |      |             ความหมายของสมุนไพร  สมุนไพร หมายถึง “พืชที่ใช้ทำเป็นเครื่องยา” ส่วน ยาสมุนไพร  หมายถึง “ยาที่ได้จากส่วนของพืช สัตว์ และแร่ ซึ่งยังมิได้ผสมปรุง หรือ  แปรสภาพ” ส่วนการนำมาใช้ อาจดัดแปลงรูปลักษณะของสมุนไพรให้ใช้ได้สะดวกขึ้น  เช่น นำมาหั่นให้มีขนาดเล็กลง หรือ  นำมาบดเป็นผงเป็นต้นมีแต่พืชเพียงอย่างเดียวหามิได้เพราะยังมีสัตว์และแร่ ธาตุอื่นๆอีกสมุนไพร ที่เป็นสัตว์ได้แก่ เขา หนัง กระดูก ดี  หรือเป็นสัตว์ทั้งตัวก็มี เช่น ตุ๊กแกไส้เดือน ม้าน้ำ ฯลฯ "พืชสมุนไพร"  นั้นตั้งแต่โบราณก็ทราบกันดีว่ามีคุณค่าทางยามากมายซึ่ง เชื่อกันอีกด้วยว่า  ต้นพืชต่างๆ  ก็เป็นพืชที่มีสารที่เป็นตัวยาด้วยกันทั้งสิ้นเพียงแต่ว่าพืชชนิดไหนจะมีคุณ ค่าทางยามากน้อยกว่ากันเท่านั้น   สมุนไพรออกได้เป็น ๓ กลุ่ม เพื่อให้ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น           สมุนไพรกลุ่มที่ ๑ เรียกว่า สมุนไพรที่เป็นอาหาร  ถ้าเป็นสมุนไพรที่เป็นอาหาร  อย่างนี้นักธรรมชาติบำบัดสอนให้คนนำมากินอาหารได้  กินสมุนไพรแล้วต้านโรคอย่างนี้ เราสอนกันได้           สมุนไพรกลุ่มที่ ๒ เรียกว่า สมุนไพรที่เป็นยา  หมายความว่าเป็นสมุนไพรที่โดยปกติคนไม่เอามารับประทานเป็นอาหาร  แต่ใช้เพื่อเป็นยาโดยเฉพาะ เช่น ฟ้าทะลายโจร เวลาพูดเรื่องฟ้าทะลายโจร  ต้องบอกว่านี่มันเป็นงานของเภสัชกร และของแพทย์  เราไม่ควรไปรู้จักมันเลยจะดีกว่า นอกจากว่าเวลาเจ็บป่วย  แล้วให้ท่านเหล่านั้นเป็นผู้แนะนำเรา          พวกสมุนไพรที่เป็นสารอาหาร กินผิดกินถูกไม่เป็นอันตราย  แต่ถ้ากินถูกก็ได้กำไร สมุนไพรกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นยา  ยังไม่ใช่เป็นยาอันตราย นักธรรมชาติบำบัดจะไม่ไปยุ่งกับเรื่องนั้น  ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้มีความรู้เฉพาะทางคือแพทย์และเภสัชกรเท่านั้น           สมุนไพรกลุ่มที่ ๓ เรียกว่าสมุนไพรที่เป็นยาพิษ  ที่จริงพวกนี้ก็เป็นสมุนไพร ถ้าว่ากินตามหลักของหมอชีวกโกมารภัจ  ท่านอาจารย์หมอในสมัยพุทธกาล พวกสารหนู กำมะถัน มันเป็นสมุนไพรที่เป็นยาพิษ  แต่ว่าแพทย์หรือเภสัชกรสามารถเอาไปทำยาได้ สารหนูก็เหมือนกัน  ที่จริงสารหนูมันคือยาพิษกินเข้าไปตายแน่นอน แต่มันไปเข้าตำรับยาลม  ยาแก้ลมที่เรากินกันต้องมีสารหนูมันถึงจะทรงสรรพคุณ  แต่เมื่อเข้าอยู่ในตำรับยาแล้ว มันไม่เป็นพิษ  แต่ต้องปรุงโดยเภสัชกรหรือแพทย์    ลักษณะของพืชสมุนไพร   "พืชสมุนไพร" โดยทั่วไปนั้น แบ่งออกเป็น 5 ส่วนสำคัญด้วยกัน คือ  1. ราก  2. ลำต้น  3. ใบ  4. ดอก  5. ผล             "พืชสมุนไพร" เหล่านี้มีลักษณะลำต้น ยอด ใบ ดอก  ที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่ส่วนต่างๆ ก็ทำหน้าที่เช่นเดียวกัน  เช่นรากก็ทำหน้าที่ดูดอาหาร  มาเลี้ยงลำต้นกิ่งก้านต่างๆและใบกับส่วนต่างๆนั่นเองใบก็ทำหน้าที่ปรุงอาหาร ดูดออกซิเจน คายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ดอก ผล เมล็ด  ก็ทำหน้าที่สืบพันธุ์กันต่อไป  เพื่อทำให้พืชพันธุ์นี้แพร่กระจายออกไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด    |