บุญเปี่ยมล้นในเดือนรอมฎอน


บุญเปี่ยมล้นในเดือนรอมฎอน

การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เป็น หลักการหนึ่งใน 5 ของอิสลาม มุสลิมต้องปฏิบัติเหมือนกัน เป็นการระงับความชั่วทุกอย่างด้วยสำนึกนอบน้อมต่ออัลลอฮฺ (ศุบหฯ) ทำให้เกิดจิตเมตตาผู้ขัดสน มุ่งสู่การภักดีเพื่อสดุดีความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ประตูสวรรค์เปิดออกตั้งแต่คืนแรกจนสิ้นสุดรอมฎอน

แง่คิดและดวงจิต

รอมฎอนคู่กับละหมาดยามค่ำคืน อ่านอัลกุรอาน ซิกรุ้ลลอฮฺ (กล่าวรำลึก) ถ้าปฏิบัติด้วยความศรัทธาอัลลอฮฺจะทรงอภัยโทษ-เพิ่มพูนความดี ความดีทั่วไปจะเทียบเท่าฟัรดูตอบแทนให้ 10-700 เท่า ในสิ่งที่เป็นฟัรดูจะได้ผลถึง 70 ฟัรดู ท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวว่า "ถ้าทุกคนรู้ถึงความดีในรอมฎอน ก็แทบจะให้มีรอมฎอนตลอดทั้งปี"

การถือศีลอดมีมานานแล้วและเป็นฟัรดูแก่มุสลิม ถ้าปฏิบัติได้รับภาคผลหากละทิ้งจะมีโทษ มุสลิมที่ศรัทธามั่นจะยำเกรงและปฏิบัติตามที่อิสลามกำหนดคืนที่ดีกว่า 1,000 เดือน (อัล-ก็อดริ์) อยู่ในเดือนนี้ คือคืนแรกของการประทานอัล-กุรอานสู่โลก รอมฎอนเป็นการฝึกฝนทางกายและจิตใจคู่กัน

ณ อัลลอฮฺ แล้วกลิ่นปากของผู้ถือศีลอดหอมยิ่งกว่าสิ่งใด ประตูนรกปิดและซัยตอน-มารร้ายถูกล่ามโซ่เป็นเดือนแห่งการเชิญชวนสู่ความดี หยุดคิดสิ่งชั่ว ผู้ถือศีลอดที่ยังมิยับยั้งคำพูด-การกระทำที่ไร้สาระ อัลลอฮฺไม่ทรงพอใจ เขาจะได้เพียงรสชาติของความหิวกระหายเท่านั้น

ภาคผลที่เพิ่มพูน

ผู้ถือศีลอดอย่างดีและมีศรัทธา ความผิดที่เคยมีจะได้ลบล้าง ในอาหารดึก-ซะฮูรนั้นมีความจำเริญแฝงอยู่ (บะรอกัต) การทานอาหารดึกให้ล่า รีบละศีลอดเมื่อได้เวลาเป็นความดียิ่ง ผู้ถือศีลอดนั้นการวอนขอต่ออัลลอฮฺ (ศุบหฯ)จะไม่ไร้ผล ท่านนบีมุฮัมมัด อ่านอัลกุรอานในรอมฎอนทั้งกลางวันและกลางคืน

ท่านนบีจะสงบจิตในมัสยิด (เอี๊ยะติกาฟ) 10 วันในรอมฎอน ช่วงสุดท้ายของชีวิตท่านเคยพักถึง 20 วัน รอมฎอนเป็นช่วงของการทบทวนอัล-กุรอาน ท่านนบี กล่าวว่า "ผู้ที่ประเสริฐคือผู้ที่เรียนและสอนอัลกุรอาน" กล่าวได้ว่าความบริบูรณ์ของรอมฎอนคือ อัลกุรอานแนวทางชีวิตที่อัลลอฮฺประทานแก่มนุษยชาติ

เกียรติยศของรอมฎอนสูงสุดคือ คืนอัล-ก็อดริ ดีกว่าพันเดือนที่อัลลอฮฺทรงประทานอัลกุรอานลงมา โดยมะลาอิกะฮฺ-ดวงวิญญานลงมาในคืนนี้ด้วยอนุมัติของพระองค์ ความสงบสุขจะเกิดขึ้นจนสิ้นแสงอรุณ

รอมฎอน คือ การต่อสู้กับความอ่อนแอ ขจัดอิจฉาริษยา เห็นแก่ตัว การกดขี่ การถือศีลอดทำให้ใจสะอาดและการทำทานทำให้สูงกียรติ มุสลิมพิชิตมักกะฮฺในเดือนนี้ ทำให้กะอ์บะฮฺสะอาดจากรูปเคารพทั้งปวง

อัลลอฮฺ (ศุบหฯ)ทรงประทานชัยชนะให้ในเดือนรอมฎอน ทรงอภัยในสิ่งผิดที่พ้นผ่านหรือจะมีตามมา และทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์มีความสมบูรณ์สำหรับผู้เชื่อมั่น เพื่อนำทางสู่ความเที่ยงแท้เป็นชัยชนะอันมีเกียรติ

พัฒนาพฤติกรรม

การถือศีลอด คือ การอบรมจิตใจให้สูงส่งเหนือความโสมม เป็นครึ่งหนึ่งของความอดทน ฝึกจิตให้เข้มแข็งใฝ่ความดี ลดความเย่อหยิ่ง มีความเสมอภาค เป็นโล่ป้องกันความเลวร้าย เห็นใจผู้อื่น ปฏิบัติตามคำบัญชาของอัลลอฮฺ (ศุบหฯ) เอาชนะอารมณ์ใฝ่ต่ำ ทิ้งการแก่งแย่งได้

ความเข้มแข็งที่เห็นชัดคือ ในสมรภูมิบัดร์ มุสลิมน้อยกว่าแต่ชนะกองทัพศัตรูอิสลามในช่วงรอมฎอน แม้แต่ท่านนบีผู้ประเสริฐทุกวัน จะยิ่งดีในเดือนรอมฎอนเพราะญิบรีลมาหาท่านนบีเพื่อศึกษาอัลกุรอาน ซึ่งขณะที่ญิบรีลมาพบนั้นมีความดียิ่งกว่าสายลมที่พัดโชย

ศีลอดกับบทบาท

ศีลอดทำให้ยำเกรงอัลลอฮฺ และหลีกห่างการฝ่าฝืน เพราะมีความละอายต่อพระองค์ที่ทรงมองเห็นเขา ต้องระวังตัวเองไม่ยอมปฏิบัติความชั่ว แม้เมื่อถูกชวนวิวาทก็ตอบโต้ด้วยความดีว่า "ฉันถือศีลอด" เป็นการข่มใจอดกลั้น ยึดมั่นในความดี พูดแต่ความจริง มองและพูดในสิ่งที่ดี

อัลลอฮฺกล่าวไว้ในหะดีษกุดซีย์ว่า "การงานทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวของมนุษย์เอง ยกเว้นการถือศีลอดเป็นของอัลลอฮและพระองค์จะตอบแทนเอง" การถือศีลอดทำให้สุขภาพดีเพราะล้างสิ่งหมักหมมในรอบปี การถือศีลอดที่จะได้รับภาคผลคือยึดมั่นในข้อบัญญัติ มีมารยาทที่ดีงาม

รอมฎอนเป็นการเสริมสร้างสุขภาพจิตด้วยการถือศีลอด ละหมาด สงสารคนขัดสน ในทางกายท่านนบี กล่าวว่า "ซัยตอนวิ่งอยู่ในเส้นเลือดมนุษย์ จงทำให้เส้นเลือดแคบลงด้วยการถือศีลอด"

ศีลอดในเดือนรอมฎอน เป็นการระงับอารมณ์ ควบคุมมิให้ปฏิบัติตามใจชอบ ทำให้ไม่ผูกพันกับวัตถุและไปสู่โลกอันบริสุทธิ์ ร่างกายมีความอดทน บริสุทธิ์ใจในการทำงาน และมีจิตสำนึกอยู่กับอัลลอฮฺ (ศุบหฯ)

พลังศรัทธาที่แข็งแกร่ง บริสุทธิ์ใจมั่นคงต่ออัลลอฮฺ ย่อมเป็นพลังอาวุธที่มีอานุภาพเหนือกว่าอื่นใดทั้งมวล อัลลอฮฺให้ความช่วยเหลือผู้ถือศีลอดในการปกป้องอิสลาม โดยเพิ่มกำลังทหารมะลาอิกะฮฺให้

ผู้ถือศีลอดจะต้องสำรวมไม่ฉุนเฉียวกริ้วโกรธ สุขุมอดทน คนที่ละหมาดแล้วทำให้ชีวิตเขาหลีกห่างจากการชั่วได้จึงจะเรียกว่าได้ผล เช่นเดียวกับศีลอดจะต้องไม่ทำให้เราได้รับเพียงความกระหายหิว และภาคผลของศีลอดรอมฎอนจะยังไม่ถึงอัลลอฮฺ จนกว่าจะจ่ายซะกาตฟิตเราะฮฺในวันอัล-ฟิตริ

อิมามฆอซาลีย์นักปราชญ์จิตรอิสลามกล่าวว่า "ศีลอดจะต้องลดสายตาลงต่ำ ไม่ฟังสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง รักษาลิ้นมิให้พูดเพ้อเจ้อ นินทาว่าร้าย ทะเลาะวิวาท ข่มใจไม่ให้คิดชั่ว ไม่อิจฉาริษยา และไม่มองคนในแง่ร้าย จึงจะเป็นการถือศีลอดที่แท้จริง"

แท้จริงบรรดาผู้ที่อดทนจะได้รับการตอบแทนอย่างครบถ้วนโดยไม่อาจจะนับคำนวณได้ ศีลอดและการอ่านอัลกุรอานจะไถ่โทษให้ในวันกิยามะฮฺ โดยเอ่ยทูลขอต่ออัลลอฮฺ และพระองค์ก็ทรงอนุญาต อบูอุมามะฮฺเคยขอให้ท่านนบีสั่งใช้ท่าน ท่านนบี กล่าวว่า "ท่านจงถือศีลอด แท้จริงไม่มีสิ่งใดจะเทียบเท่าสิ่งนี้"

จิตวิญญาณจากรอมฎอน

การภักดี-อิบาดะฮฺที่มีศรัทธาจึงจะถูกต้อง นั่นคือมีสำนึกยำเกรงต่ออัลลอฮฺ รอมฎอนคือบทฝึกให้ทำในสิ่งอัลลอฮฺใช้เว้นสิ่งที่ห้าม เพื่อนำตักวา-ความยำเกรงจากโลกนี้เป็นเสบียงเดินทางสู่อาคิเราะฮฺ รอมฎอนสร้างนิสัยที่ดีแก่เราในการกินดื่ม เปลี่ยนการนอนและตื่น พร้อมเผชิญสถานการณ์คับขันที่จะเกิดขึ้นในชีวิต

รอมฎอนทำให้เกิดความอดทนในการอดอาหาร และอดอารมณ์โกรธ ความอยาก ผู้ถือศีลอดจะไม่มีความยุ่งยากอึดอัดใจ เขาจะพอใจ สงบและตื่นตัวอยู่เสมอ การอดทนเพื่ออัลลอฮจะได้รับการตอบแทน

รอมฎอนทำให้เกิดสำนึกในอิสลาม ยำเกรงอัลลอฮฺทั้งในที่ลับและแจ้ง ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ถ้าเขานำความเคยชินนี้ไปใช้ในชีวิตเดือนอื่นๆ เขาก็จะควบคุมตนเอง เป็นคนดีตลอดปี

ขออัลลอฮฺทรงช่วยให้เรามีความอดทนและในการขอบคุณที่ทรงประทานรอมฎอนแก่เรา ให้เราได้มีโอกาสสัมผัสกับรอมฎอน เพื่อให้เรามีจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์และมีแรงใจใฝ่ฝันถึงความดีตลอดไป

อัพเดทล่าสุด