อินทผลัม ผลไม้ละศีลอด


1,755 ผู้ชม

ในเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นเดือนที่มุสลิมทั่วโลกถือศีลอดนั้น เมื่อถึงเวลาละศีลอดในตอนดวงอาทิตย์ตกดิน ไม่ว่าจะไปบ้านไหนหรือมัสยิดแห่งใด ในสำรับอาหารละศีลอดจะมีผลชนิดหนึ่งซึ่งมุสลิมเตรียมไว้สำหรับการละศีลอดโดยเฉพาะ นั่นคือ อินทผลัม ...


อินทผลัม ผลไม้ละศีลอด

ในเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นเดือนที่มุสลิมทั่วโลกถือศีลอดนั้น เมื่อถึงเวลาละศีลอดในตอนดวงอาทิตย์ตกดิน ไม่ว่าจะไปบ้านไหนหรือมัสยิดแห่งใด ในสำรับอาหารละศีลอดจะมีผลชนิดหนึ่งซึ่งมุสลิมเตรียมไว้สำหรับการละศีลอดโดยเฉพาะ นั่นคือ "อินทผลัม" ผลไม้ดึกดำบรรพ์จากทะเลทราย

การละศีลอดด้วยการกินอินทผลัมมิใช่เพราะอินทผลัมเป็นผลไม้มงคล หรือเป็นเพราะข้อบังคับทางศาสนา แต่มุสลิมละศีลอดตามคำแนะนำของท่านนบีมุฮัมมัดที่กล่าวว่า "เมื่อจะละศีลอดก็ให้ละด้วยอินทผลัม เพราะว่ามันสะอาด"

นอกจากนี้แล้วท่านยังได้กล่าวอีกด้วยว่า "อินทผลัมจาก (กิ่ง) ที่สูงนั้นเป็นยา"

ต้นกำเนิดของอินทผลัม

อินทผลัมเป็นต้นไม้ให้ผลเก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่งของโลก ซึ่งรู้จักกันว่าเป็นต้นไม้แห่งชีวิต มันขึ้นอยู่ทั่วไปในที่แห้งแล้ง โดยเฉพาะในโลกอาหรับ อินทผลัมมีต้นกำเนิดมาจากไหนไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด บางคนอ้างว่ามันมีต้นกำเนิดมาจากเมืองบาบิลในอิรัก บางคนก็เชื่อว่ามันมีต้นกำเนิดในดารีนหรือฮุฟ ซาอุดีอาระเบียหรือฮัรฺกอน ซึ่งเป็นเกาะบนอ่าวอารเบียในบาห์เรน

อินทผลัมเป็นไม้ยืนต้นและเติบโตช้า มีทั้งต้นตัวผู้และตัวเมีย ต้นตัวเมียโดยปรกติแล้วจะเริ่มให้ผลภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปีโดยเฉลี่ยนับตั้งแต่ปลูกและสามารถมีอายุยืนยาวถึง 150 ปี

ต้นอินทผลัมขึ้นกระจัดกระจายไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ พื้นที่บางส่วนของแอฟริกาตะวันออกและแอฟริกาใต้ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ และแม้แต่ในยุโรปตอนใต้ (สเปนและอิตาลี) ก็มี แต่พื้นที่เพาะปลูกเพื่อการค้านั้นจะอยู่ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

จุดเด่นของอินทผลัมก็คือ มันสามารถเติบโตได้ในพื้นที่มีน้ำจำกัด ให้ผลยาวนานและสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ผลอินทผลัมมีรสชาติหวานอร่อย นอกจากจะเป็นผลไม้ทะเลทรายที่มีค่าแล้ว ลำต้นและใบอินทผลัมยังเป็นวัตถุดิบสำหรับการก่อสร้างและยังมีส่วนช่วยในการรักษาระบบนิเวศภายในโอเอซิสอีกด้วย

คุณค่าทางโภชนาการของอินทผลัม

อินทผลัมเป็นผลไม้ที่มีความจุน้ำตาลทั้งกลูโคสและฟรัคโตสสูงถึง 70% อินทผลัมน้ำหนัก 100 กรัมจะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก โพแทสเซียม 150 มิลลิกรัม แมกนีเซียม ซึ่งเป็นธาตุสำคัญสำหรับกล้ามเนื้อ ซัลเฟอร์ ทองแดง แคลเซียมและฟอสฟอรัส นอกจากนี้ยังมีวิตามินอื่นๆอีก เช่น วิตามินเอซึ่งบำรุงสายตา ไธอามีน ริโบฟลาวิน ไบโอติน กรดโฟลิกและแอสคอร์บิก เป็นต้น ในอินทผลัมจะมีน้ำ 13.8% และโปรตีนประมาณ 3%

อินทผลัมหนึ่งกิโลกรัมจะให้พลังงาน 3,470 แคลอรีแก่ร่างกายหลังจากที่กินเข้าไปได้สักพักหนึ่ง พลังงานนี้เพียงพอสำหรับความต้องการอาหารของร่างกายโดยเฉพาะขณะละศีลอด

อินทผลัมมีบทบาทสำคัญอย่างมากในทางด้านโภชนาการของประชากรมนุษย์และสัตว์ในทะเลทราย นอกจากจะนำผลมากินโดยตรงแล้ว อินทผลัมยังสามารถนำไปทำเป็นน้ำหวาน แยม ไอศกรีม อาหารเด็กและเครื่องดื่มได้อีกด้วย

ผลอินทผลัมถูกเรียกตามลักษณะของมัน ผลที่กำลังจะสุกมีรสหวานอมฝาดนิดหน่อยจะถูกเรียกว่า "บะละฮฺ" เมื่อสุกเต็มที่จะถูกเรียกว่า "รุฏ๊อบ" และเมื่อแห้งมีสีน้ำตาลเข้ม เนื้อในหนึบเหนียวเหมือนมะขามเปียกจะถูกเรียกว่า "ตะมัรฺ" เมื่อชาวอาหรับมาเห็นมะขามในอินเดียที่ชาวอาหรับเรียกว่า "ฮินด์" ชาวอาหรับจึงเรียกมะขามว่า "ตะมัรฺฮินด์" ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า "ตะมะรินด์" (Tamarind) ในภาษาอังกฤษ

ต้นอินทผลัมในคัมภีร์กุรอาน

ต้นอินทผลัมได้ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์กุรอานหลายครั้งด้วยกันในฐานะเป็นความมหัศจรรย์แห่งการสร้างสรรค์และความโปรดปรานของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์โดยเฉพาะในทะเลทราย เช่น

"ด้วยน้ำนั้น พระองค์ทรงให้พืชผลและผลมะกอก อินทผลัมและองุ่นงอกงามสำหรับสูเจ้า และผลไม้อีกมากมายหลายชนิด แท้จริงในนั้นย่อมเป็นสัญญาณสำหรับกลุ่มชนที่ตรึกตรอง" (กุรอาน 16:11)

เมื่อตรองดูแล้วก็พบว่ามันน่าทึ่งตรงที่แม้ทะเลทรายจะมีน้ำจำกัดและทรายมีรสจืด แต่ต้นอินทผลัมกลับให้ผลที่มีรสหวานโดยไม่ต้องเชื่อมด้วยน้ำตาลเหมือนพุทราเชื่อม และถ้าใครจะเอาอินทผลัมมาปลูกในพื้นที่ชุ่มน้ำ มันก็จะไม่ให้ผลสุกเต็มที่

อินทผลัมจะให้ผลในฤดูร้อนซึ่งในภูมิภาคตะวันออกกลางจะตกประมาณเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ในตอนที่นางมัรฺยัม หรือนางมารีย์หญิงพรมจรรย์แบกครรภ์ใกล้คลอดนบีอีซา หรือพระเยซูนั้น นางได้หลบหน้าผู้คนมานั่งพักเหนื่อยอยู่ใต้ต้นอินทผลัมต้นหนึ่ง พระผู้เป็นเจ้าในฐานะที่เป็นผู้ส่งวิญญาณบริสุทธิ์มาจุติในครรภ์ของเธอได้กล่าวว่า :-
"ส่วนอาหารนั้น เธอจงเขย่าต้นอินทผลัม แล้วอินทผลัมสุกก็จะหล่นลงมาบนตัวเธอ จงกินและจงดื่มและจงทำให้ดวงตาของเธอสดชื่น..." (กุรอาน 19:26)

หลักฐานสภาพแวดล้อมจากคัมภีร์กุรอานดังกล่าวเป็นสิ่งยืนยันว่า วันเกิดของนบีอีซาหรือพระเยซูมิใช่วันที่ 25 ธันวาคม

นอกจากนี้แล้วการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ทำให้เราได้ทราบว่า อินทผลัมสุกจะมีสารที่กระตุ้นการบีบตัวของมดลูก โดยเฉพาะในตอนคลอด สารนี้คล้ายกับ "ออกซิโทซิน" ที่หลั่งออกมาจากต่อมพิทูอิทารีที่ช่วยการหดตัวของมดลูก

ต้นอินทผลัมที่ดีที่สุดคือ ต้นที่เติบโตโดยไม่ใช้สารเคมีใดๆ หรือใช้การพ่นละอองน้ำ การรมควันและการอบไอน้ำซึ่งทำกันในทะเลทรายแคลิฟอร์เนียของสหรัฐที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 68 ฟุต

อัพเดทล่าสุด