“ฝาครอบแก้ว ชาไข่มุก” ฝากระวัง อันตราย...หยุดลมหายใจ!


7,942 ผู้ชม

อุทาหรณ์! ฝาครอบแก้วชาไข่มุก หยุดลมหายใจ เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับผู้หญิงคนหนึ่ง เตือนใจให้รู้ไว้ จะได้ป้องกันไว้ก่อน...


ฝาครอบแก้ว ชาไข่มุก” ฝากระวัง  อันตราย...หยุดลมหายใจ!   


อุทาหรณ์! ฝาครอบแก้วชาไข่มุก หยุดลมหายใจ เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับผู้หญิงคนหนึ่ง เตือนใจให้รู้ไว้ จะได้ป้องกันไว้ก่อน...
เรื่องราวมีอยู่ว่า
> ปุ๊ ! เสียงหลอดกาแฟอันโตกระแทกเจาะฝาครอบแก้วชาไข่มุก 
> เศษฝาพลาสติกแผ่นกลมขนาดเท่าปลายหลอดตกลงสู่ก้นแก้ว 
> ฉันดูดเครื่องดื่มสุดโปรดอย่างหิวกระหายและ 
> กระดกแก้วกินน้ำแข็งจนเกลี้ยงตามความเคย...ชิน 
> เมื่อจะทิ้งแก้วลงถังขยะ 
> ฉันแปลกใจเล็กน้อยที่ไม่เห็นเศษฝาพลาสติกอยู่ในแก้วเหมือนทุกคราว 
> แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก 
> สักพัก รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ติดอยู่ในคอ 
> แม้จะพยายามล้วงและดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้อาเจียน 
> แต่สิ่งนั้นก็ไม่ยอมหลุดออกมา 
> ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เริ่มติดขัด 
> อาจารย์และเพื่อน ๆ จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล 
> เมื่อไปถึงโรงพยาบาล 
> หลังจากรอหมออยู่เกือบสองชั่วโมง หมอก็ให้ลองกลืนน้ำดู 
> ปรากฎว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่จริง 
> ตามด้วยการเอกซเรย์ ซึ่งสูญเปล่า เพราะไม่เห็นสิ่งแปลกปลอมนั้นเลย 
> จึงตัดสินใจให้วางยาสลบเพื่อส่องกล้องตรวจหาต้นเหตุ 
> ระหว่างนั้นฉันยังรู้สึกตัวดีอยู่ทุกอย่าง 
> จนกระทั่งหลังวางยาสลบ 
> ท่อส่องทางเดินอาหารขนาดใหญ่ประมาณท่อประปาขนาดเล็ก 
> สอดจากปากผ่านลงไปตามทางเดินอาหาร 
> แต่ไม่รู้ด้วยโชคร้ายของฉัน 
> หรือด้วยความประมาทเลินเล่อของใคร 
> แทนที่เจ้าท่อนี้จะเป็นอุปกรณ์ในการตรวจเพื่อช่วยชีวิตฉัน 
> หลังการตรวจ 
> มันกลับทำให้ฉันรู้สึกปวดแน่นหน้าอกและหลังอย่างสุดจะบรรยาย 
> เมื่อฟื้นจากยาสลบ แม่บอกว่าฉันปากซีด ตัวเขียว และไข้ขึ้น 
> ผิดกับเมื่อตอนก่อนส่องกล้องราวกับคนละคน 
> จนแม่ใจหาย รีบตามหมอกลางดึก 


> การกลืนแป้งเพื่อเอกซเรย์เริ่มขึ้น 
> ผลปรากฎว่า หลอดอาหารทะลุ ต้องผ่าตัดด่วน 
> แต่แม่ไม่มีเงิน อย่าว่าแต่ค่าผ่าตัดที่สูงลิบลิ่วของโรงพยาบาลเอกชนเลย 
> แม้แต่ค่าตรวจทั้งหลายก่อนหน้านี้ 
> ที่เกินวงเงินการประกันอุบัติเหตุของนักศึกษา เพียงไม่กี่พันบาท 
> แม่ก็ไม่มี ทางโรงพยาบาลจึงขอยึดบัตรประชาชนของแม่ไว้ 
> เพื่อเป็นหลักประกันให้แม่หาเงินส่วนเกินมาชำระในภายหลัง 
> หมอที่ส่องกล้องแนะนำให้ย้ายฉันไปโรงพยาบาลรัฐบาลที่เขาประจำอยู่ 
> แต่แม้จะเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลก็ต้องคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายเช่นกัน 
> แม่จึงวิ่งวุ่นติดต่อเรื่องใช้สวัสดิการบัตรประกันสุขภาพ 30 บาท 
> กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็เกือบเที่ยง 
> นั่นแหละฉันจึงได้รับการผ่าตัด 

> การผ่าตัดใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง 
> เพราะรอยทะลุที่หลอดอาหารอยู่ใกล้ปอด 
> น้ำย่อยจะไหลเข้าไปในปอดซึ่งอันตรายมาก 
> หมอต้องผ่าตัดเปิดซี่โครงจากราวนมด้านซ้ายไปจนถึงสันหลังอีกข้าง 
> แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่สามารถซ่อมแผลได้หมด 
> เพราะแผลในทางเดินอาหารเป็นทางยาว 
> จากต้นคอถึงกระเพาะ ยาวถึง 30 เซนติเมตร 
> สามวันหลังผ่าตัด ฉันลืมตาขึ้นมาพร้อมสายระโยงระยางเต็มตัว 
> สายจากจมูกทั้งสองข้างเพื่อเอาน้ำย่อยในกระเพาะออกมา 
> สายที่ไว้ดูด น้ำมูก น้ำลาย สายที่ต่อจากบริเวณซี่โครงที่ผ่าตัดเพื่อเอาเลือดจากแผลออกมา 
> สายให้เลือด สายน้ำเกลือ 
> สิบเอ็ดวันที่อยู่โรงพยาบาลเต็มไปด้วยความเจ็บปวด 
> กินอาหารไม่ได้อยู่เป็นอาทิตย์ 
> ยิ่งเวลานอนจะรู้สึกทรมาน 
> เพราะเจ็บที่บริเวณแผลผ่าตัดเป็นที่สุด 
> หมอที่ส่องกล้อง ซึ่งช่วยหาหมอผ่าตัดให้ 
> มาสารภาพในภายหลัง ว่า... 
> แผลในทางเดินอาหารที่ยาวเหยียด 
> เกิดจากการส่องกล้องไปดันเอาเศษแผ่นพลาสติก 
> ซึ่งติดอยู่ที่ระหว่างหลอดลมและหลอดอาหารให้ครูดบาดไปตลอดทางเดินอาหาร 
> แต่อย่างไรเขาก็ติดต่อหาหมอผ่าตัดที่เชี่ยวชาญให้ 
> เ และเป็นความผิดพลาดที่เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ 
> เพราะมองไม่เห็นแผ่นพลาสติกแก้วที่ติดอยู่ที่หลอดลม/ หลอดอาหาร 
> กรุณาช่วยส่งต่อเพื่อนๆ พี่ๆ 
> เพื่อเตือนภัยคนที่เรารักและเป็นห่วงนะคะ
 
กินชาไข่มุก แก้วต่อไป ระวังนะคะ 
> แผ่นพลาสติกที่เจาะทะลุจากตัวแก้ว... 
> อันตรายถึงชีวิตได้ 
> บอกลูกหลานด้วย 
> โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ชอบซื้อเครื่องดื่มทานเองค่ะ 
> ฝาครอบแก้วที่ต้องเจาะรู... ผู้ปกครองควรช่วยดูแล
ที่มา: thinkofliving

อัพเดทล่าสุด