อาหารที่ห้ามกินคู่กัน ผัก ผลไม้ สมุนไพร ห้ามกินคู่กัน


3,706 ผู้ชม


อาหารที่ห้ามกินคู่กัน ผัก ผลไม้ สมุนไพร ห้ามกินคู่กัน

เราตระหนักถึงอาหารที่ห้ามกินคู่กัน หรือธาตุของอาหาร ผลไม้ สมุนไพร แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าหากคู่ที่ไม่เหมาะสมเจอกันมากๆเข้า อาจทำให้ร่างกายเราย่ำแย่ได้เลย หลักจากนั้นบทความสุขภาพเราก็พอได้ข้อมูลมาคร่าวๆว่า อาหาร ผลไม้ สมุนไพร อาหารเสริม ที่ห้ามกินคู่กัน มีอะไรบ้าง โดยอาศัยความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ มีอะไรบ้างตามไปดูในบทความสุขภาพนี้เลยครับ

 

อาหารที่ห้ามกินคู่กัน

อาหารที่ห้ามกินคู่กัน


 

สมุนไพร อาหารที่ห้ามกินคู่กัน

 

ผัก ผลไม้ ห้ามกินคู่กัน

ผัก ผลไม้ ห้ามกินคู่กัน


  •       หัวไชเท้าห้ามกินคู่กันกับลูกพลับ และผลไม้ชนิดอื่นๆ เพราะจะทำให้เกิดโรคเนื้องอกในต่อมไทรอยด์ได้


  •       หัวไชเท้ายังห้ามกินคู่กันกับโสม เพราะจะทำให้สูญเสียประโยชน์ของโสมไปง่าย


  •       ปวยเล้งห้ามกินคู่กันกับใบกุยช่าย เพราะจะทำให้ท้องร่วงง่ายขึ้น


  •       ฟักทองห้ามกินคู่กันกับเนื้อแพะ เพราะอาจทำให้เกิดอาการดีซ่าน

     

  •       ขึ้นฉ่ายห้ามกินคู่กันกับน้ำส้มสายชู เพราะมันจะไปกัดกร่อนเนื้อฟันได้เร็วขึ้น

     

  •       ผักมัสตาร์ดห้ามกินคู่กันกับปลาหลีฮื้อ เพราะจะทำให้บวม


  •       ลูกพลับห้ามกินคู่กันกับน้ำอ้อย เพราะจะทำให้ท้องอืด ปวดกระเพาะ อาเจียนได้ง่าย


 

อาหารที่ห้ามกินคู่กัน


 

อาหาร ห้ามกินคู่กัน

อาหาร ห้ามกินคู่กัน

  
  • กล้วยกับเผือก ห้ามกินคู่กัน จะทำให้ท้องอืด

  •      ข้อเท็จจริง คือ มีส่วนจริงอยู่บ้าง เพราะกล้วยกับเผือกมีสิ่งที่เหมือนกันคือแป้งปริมาณมหาศาล เมื่อแป้งถูกหมักอยู่ในท้องก็จะเกิดแก๊สจึงทำให้แน่นท้องได้ 

  • เหล้าขาวกับลูกพลับ ห้ามกินคู่กัน จะทำให้เป็นพิษ

  •     ข้อเท็จจริง คือ เรื่องความเป็นพิษนั้นไม่ต้องกังวลเลย ลูกพลับมีเบต้าแคโรทีนสูงมากจึงช่วยบำรุงตับได้ แต่ว่าเหล้าขาวนั้นไม่ดีต่อตับอย่างแรงแม้ไม่มีปัญหาเวลากินคู่กัน แต่ดื่มเหล้ามากๆ อันตรายแน่นอน 

  •  ส้มกับมะนาว ห้ามกินคู่กัน จะทำให้กระเพาะทะลุ

  •      ข้อเท็จจริง คือ อย่างมากก็แค่แสบหรือระคายท้องเพราะรสชาติเปรี้ยวจัดเท่านั้น ไม่อย่างนั้นคนที่ชอบดื่มน้ำส้มผสมมะนาวคงกระเพาะรั่วไปหลายคนแล้ว

  • กล้วย มะละกอ แตงโม ห้ามกินคู่กัน จะทำให้เป็นโรคเบาหวาน

  •      ข้อเท็จจริง คือ แม้พวกนี้จะเป็นผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) เป็นอันดับต้นๆ ที่คนเป็นเบาหวานต้องระวัง เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้ แต่ไม่ถึงขั้นทำให้คุณเป็นเบาหวานอย่างแน่นอน 

  • น้ำผึ้งกับน้ำร้อน ห้ามกินคู่กัน น้ำผึ้งที่ชงด้วยน้ำร้อนจะเสียวิตามินไป

  •      ข้อเท็จจริง คือ วิตามินบีและวิตามินซีที่มีอยู่ในน้ำผึ้งค่อนข้างใจเสาะต่อความร้อนก็จริง แต่วิตามินพวกนี้มีน้อยมากอยู่แล้ว หากสูญเสียไปก็ไม่ได้มีผลอะไรมากเท่าไหร่

  • หัวไชเท้ากับผลไม้ทุกชนิด ห้ามกินคู่กัน จะทำให้เกิดคอพอก

  •      ข้อเท็จจริง คือ คอพอกไม่ได้เป็นง่ายๆ และการกินหัวไชเท้ากับผลไม้ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ที่ต้องระวังสำหรับคนที่เป็นคอพอกอยู่แล้วคือ "กะหล่ำปลีดิบ" ต่างหาก

  • ผักปวยเล้งกับเต้าหู้ ห้ามกินคู่กัน จะทำให้เป็นนิ่วที่ไขสันหลัง

     ข้อเท็จจริง คือ โรคนิ่วในไขสันหลังไม่มีในสารบบด้วยซ้ำ ปวยเล้งเองก็เป็นผักที่ดีมาก มี "โฟลิก" สูง ส่วนเต้าหู้ถ้าเป็นห่วงเรื่องนิ่วก็ขอให้เลี่ยงเต้าหู้แข็ง เพราะแคลเซียมจะได้ไม่มากเกินไป

 

โรคกระเพาะอาหาร, โรคเกาต์, โรคเบาหวาน, โรคไต, โรคกระเพาะเป็นแผล ห้ามกินอะไร


 

โรค ห้ามกิน

โรค ห้ามกิน

  
  •       ถ้าเป็น โรคกระเพาะอาหาร ไม่ควรกินขิง พริก รวมทั้งพืชผักที่ที่รสจัด 

  •       ถ้าเป็น โรคเกาต์ไม่ควรกินหน่อไม้ เห็ดหอม เห็ดเข็มทอง ผักทอดยอด 

  •       ถ้าเป็น โรคเบาหวาน ไม่ควรกินข้าวโพด มันเทศ รากบัว ถั่วแดง ถั่วแระ รวมทั้งพืชผักประเภทถั่ว

  •       ถ้าเป็น โรคกระเพาะเป็นแผล ควรเลี่ยงผักขึ้นฉ่าย หน่อไม้ ผักบุ้ง พริกใหญ่สีเขียว หอมใหญ่ พริกขี้หนูที่เผ็ดจัด 

  •       ถ้าเป็น โรคไต เป็นไตวายเรื้อรัง ต้องเลี่ยงพืชผักที่มีโพแทสเซียมมากเช่น กล้วยหอม ฟักทอง

     อย่างไรก็ตาม นอกจากบทความสุขภาพนี้ ถ้าการกินอาหารอย่างอื่นด้วยความไม่ระวังล้วนเกิดผลเสียตามมาทั้งสิ้น ดังนั้นควรจะใส่ใจเรื่องการกินอาหารให้มากขึ้นการรับประทานอาหารคู่กันบางสิ่งนั้นดี เพราะจะไปเสริมฤทธิ์กัน แต่ดังบทความสุขภาพนี้เป็นอาหารที่ห้ามกินคู่กัน ฉะนั้นพึงควรระวังไว้เป็นดี ดังนั้นขอฝากทุกท่านไว้กับบทความสุขภาพนี้ด้วยครับ

แหล่งที่มา: xn--22cd0dkb1ang7c5ad8fge1gwlwb.blogspot.com

อัพเดทล่าสุด