ผมร่วง Alopecia


1,049 ผู้ชม


ผมร่วง Alopecia

            ผมร่วง เป็นปัญหาที่พบบ่อย เกือบทุกคนผมจะบางลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้นโดยจะพบใน ผู้ชาย มากกว่า ผู้หญิง แต่ ปัญหา ผมร่วงมีด้วยกันหลายสาเหตุ โดยสามารถแยกแยะสาเหตุได้ดังนี้

 1. ผมร่วง เป็นหย่อม ๆ (Alopecia areata)

เป็น โรคผิวหนัง อย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากความแปรปรวน ของภูมิคุ้มกัน ของ ร่างกาย ไปทำลาย ราก ผม  โดย ผมร่วง มีลักษณะเป็นหย่อม ๆ โดยไม่มีการอักเสบของ หนังศีรษะ ให้เห็น อาจพบเพียงหย่อมเดียว หรือหลายหย่อมก็ได้ บางรายผมอาจ ร่วง ทั้งศีรษะหรือมี ขนคิ้ว ขนตา ร่วง ด้วย ผมร่วง ชนิดนี้ เชื่อว่าเกิดจาก ความเครียด ทำงานหนัก ร่างกายนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ไม่ได้เกิดจากการติด เชื้อโรค ใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ใช่ เชื้อรา และไม่ใช่ โรคติดต่อ แต่จะลุกลามในตัวเองได้ วงเล็กๆ อาจขยายเป็นวงกลมใหญ่ขึ้นได้

การรักษา
1. ใช้ยากลุ่ม Minoxidil
2. ใช้ยาทากลุ่ม สเตียรอยด์ เช่น Topicorte
3. ฉีดยาเข้าไปใต้หนังศีรษะบริเวณที่มี ผมร่วง (Intra lesional kenacorte) ซึ่งต้องฉีดโดย แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น
 

2. ผมร่วง แบบ กรรมพันธ์ (Male pattern alopecia)

ผมร่วง แบบ กรรมพันธุ์ คือ เกิดจากสาเหตุทาง พันธุกรรม  โดยมีพ่อแม่พี่น้องที่ผมบาง(ศีรษะเถิก หรือ ศีรษะล้าน) และระดับ ฮอร์โมน Dihydro testosterone สูง ถ้า ผู้ชาย คนไหนมี ฮอร์โมน ชนิดนี้สูง ก็จะทำให้ ผมร่วง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย พบได้ทั้งสองเพศ แต่จะพบใน ผู้ชาย มากกว่า ผู้หญิง  ลักษณะผมจะ ร่วง และบางลงเรื่อยๆ โดยมากจะเป็นตรงบริเวณหน้าผาก และ ตรงกลาง ศีรษะ ส่วนด้านข้างและด้านหลังมักจะปกติมักเริ่มแสดงอาการเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น และจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ใน ผู้ชาย  ถ้าเป็นไม่มากผมจะบางเฉพาะบริเวณ หน้าผาก กลายเป็น ศีรษะเถิก มีรูปร่างเหมือนตัวอักษร M ถ้าเป็นมาก  ส่วนในผู้หญิง มักจะเริ่มแสดงอาการหลังจากเข้าสู่วัยหมด ประจำเดือน มักจะ ร่วง ทั่ว ๆ ไป     โดยเฉพาะตรงบริเวณกลางกระหม่อมทำให้แลดูผมบางลง อาการจะเป็นมากน้อยขึ้นกับ กรรมพันธุ์ ที่ได้รับมา และอายุยิ่งมาก ก็ยิ่งเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ บางคนอาจเกิดร่วมกับการมี รังแค มาก  ทำให้มีอาการคันและมี ขี้รังแค มาก

การรักษา

1. ยากิน

1.1  ยาได้ผลดีในปัจจุบันนี้ คือยา Finasteride ชนิด 1 มิลลิกรัมต่อวัน ยา Finasteride เป็นยายับยั้ง เอนไซม์ type z-alpha reductase  ช่วยลดระดับ ฮอร์โมน Dihydro testosterone ทำให้ ผมร่วง ช้าลง และช่วยให้ผมใหม่เพิ่มขึ้น แต่ยาตัวนี้ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของแพทย์เฉพาะทางด้าน ผิวหนัง เท่านั้น

1.2 ยากิน Minoxidil สมัยก่อนนิยมใช้ยากินตัวนี้ แต่ปัจจุบันนิยมใช้กินยานี้ลดลงยาตัวนี้ เป็นยาที่ใช้ขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงที่ศีรษะดีขึ้น แต่ทำให้ความดันลดต่ำลง เป็นยาที่ใช้รักษาความดันเลือดสูง และมีผลข้างเคียงอื่นคือ ทำให้มีขนยาวขึ้น หนวดขึ้นได้ (hypertrichosis)

2. ยาทา

ยาทากลุ่ม Minoxidil มีตั้งแต่ขนาด 2%, 3%, 5% Minoxidil ใช้ทา ศีรษะ ก่อนนอน พอช่วยได้บ้างเล็กน้อย ผมที่ขึ้นใหม่ จะเป็นเส้นเล็กๆ บางๆ

            3. ผมร่วง จาก ความเครียด, สุขภาพไม่แข็งแรง (Telogen effluvium)

เป็นภาวะ ผมร่วง บาง ชนิดซึ่งผมจะ ร่วง ทั่วๆ ไปทั้งศีรษะ ค่อยๆ ร่วง ทีละน้อย มีสาเหตุที่เกิดจาก

1. เครียดมาก (stress) เป็นภาวะ เครียด ทางจิตใจ เช่น ตกใจ เสียใจ เศร้าใจ เป็นต้น เมื่อเกิด เครียด (stress) จะส่งผลให้ 3-4 เดือน ถัดมาเกิดภาวะ ผมร่วง เกิดขึ้นได้

2. ไม่สบายมาก(illness) จนต้องเข้าเป็นไข้สูง เช่น โรคไทฟอยด์ ไข้รากสาดน้อย ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ เป็นต้น จะมีอาการ ผมร่วง หลังเป็นไข้ ประมาณ 2-3 เดือน

3. การคลอดบุตร ผู้หญิง หลังคลอด ผมมัก ร่วง หลังคลอดประมาณ 3 เดือน   เนื่องจากขณะคลอด เส้นผมบางส่วนเกิดหยุดการเจริญในทันที ต่อมาอีก 2-3 เดือน ผมเหล่านี้ก็จะ ร่วง ในทารกแรกเกิดอาจมีอาการ ผมร่วง ในระยะ 1-2 เดือนแรก แล้วจะค่อย ๆ มีผมงอกขึ้นใหม่

4. การผ่าตัด ภายหลังการ ผ่าตัด ใหญ่ บางครั้งในบางคน 3-4 เดือน ต่อมาจะเกิดภาวะ ผมร่วง ได้

5. เจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น วัณโรค, เบาหวาน , โลหิตจาง, ขาดอาหาร เป็นต้น

6. การเสียเลือด การบริจาคเลือด

7. การใช้ยา เช่น ยาคุมกำเนิด, อัลโลพูรินอล, โพรพิลไทโอยูราซิล, เฮพาริน เป็นต้น

การรักษา

ผมร่วง ชนิดนี้เป็นชั่วคราว หายเองได้ อาจใช้ยา Minoxidil ทาช่วยได้

4. ผมร่วง จากการดึง ถอนผมออกเอง (Trichotillomania)

บางคนจิตไม่ว่าง รู้สึก คันศีรษะ หรือว่าไม่ คันศีรษะ ก็ตาม แต่จะชอบ ดึงทึ้ง ผมตัวเอง ถอนผมออกเอง พบได้คนที่มีปัญหากดดันทางจิตใจด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น ปัญหาทางครอบคัว ปัญหาการเรียน เป็นต้น บางคนอาจถอนผมเล่นจนเป็นนิสัย โดยไม่มีปัญหาทางจิตใจก็ได้ (เรียกอาการนี้ว่า Trichotillomania) จะถอนผมตัวเองเล่น จน ผมร่วง หรือ ผมแหว่ง โดยจะมีตอผมให้เห็น เป็นจุดดำ ๆ บริเวณหย่อมผมร่วง

การรักษา

- ยาทากลุ่ม Minoxidil, กลุ่มสเตียรอยด์ เช่น Topicrote, Ta lotion

- ควรปรึกษาจิตแพทย์ด้วย

5. ผมร่วง จากการได้รับ เคมีบำบัด การ ฉายรังสี รักษา (Chemotherapy, Radiation)

การ ฉายรังสี ในการรักษา โรคมะเร็ง ภายหลังจากการรักษาดังกล่าว ผมจะ ร่วงไ ด้ และยาที่อาจทำให้เกิด ผมร่วม ได้เช่นยารักษามะเร็ง, ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (anticoagulants) เช่น เฮพาริน (Heparin), ยารักษาคอพอกเป็นพิษ, ยาคุมกำเนิด,คอลชิซีน, อัลโลพูรินอล (Allopurinol) ป้องกันโรคเกาต์, แอมเฟตามีน (Amphetamine)เป็นต้น แต่ภายหลังการรักษาผมจะค่อยๆ ขึ้นใหม่ได้เอง แต่ใช้ระยะเวลา 1-2 ปี

           6. ผมร่วง จากโรคบางชนิด

1. โรคบางอย่าง เช่น เอสเอลอี , ไทรอยด์, มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น  ก็อาจมีอาการผมร่วง บาง ผมจะ ร่วง ไปทั่วทั้งศีรษะมากน้อยแล้วแต่บุคคล

2. โรคซิฟิลิส ผมจะ ร่วง เป็นหย่อมๆ วงกลมเล็กๆ กระจายทั่วๆ ไป

การรักษา

ต้องพบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังเท่านั้นนะคะ

7. ผมร่วง ตามธรรมชาติ

โดยธรรมชาติแล้วคนเราทุกคนจะต้องมี ผมร่วง เป็นประจำทุกวัน จากการหวีผมหรือสระผม แต่ไม่เกินวันละ 100 เส้น ซึ่งถือว่าเป็น ผมร่วง ตามธรรมชาติ หลังจากนั้นก็มีเส้นผมใหม่งอกขึ้นมาทดแทน เช่นเดียวกับเซลล์ของ ผิวหนัง ที่มีบางส่วนที่ตาย และหลุดลอกออกมาเป็นขี้ไคลทุกวัน ในคนบางคน เมื่อมีความวิตกกังวลอะไรบางอย่าง จะมีอาการเบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ใจสั่น และอาจรู้สึกว่ามีอาการ ผมร่วง ผิดปกติ ซึ่งความจริงผมของคนเหล่านี้มิได้ ร่วง มากผิดธรรมชาติ (คือไม่เกินวันละ 100 เส้น) แต่เนื่องจากความวิตกกังวล มักจะพบได้บ่อยในคนที่บ่นว่า มีอาการ ผมร่วง ในกรณีนี้ไม่ต้องให้ยารักษาแต่อย่างไร แค่อธิบายให้เข้าใจว่า ไม่ใช่เรื่องผิดธรรมชาติ และไม่ทำให้ผมบาง หรือ ศีรษะล้าน
ที่มา   https://www.doctorcosmetics.com/read_content.php?id=1639&pagetype=articles

อัพเดทล่าสุด