13 ลดความหวานในชีวิต


722 ผู้ชม


"13 ลดความหวานในชีวิต"

    จำได้ว่าไม่กี่วัน widemagazine ได้แนะนำเกี่ยวกับเรื่องการกินเพื่อลดความอ้วนไปแล้ว มาวันนี้ เราเลยหาข้อมูลดีๆเรื่องของการลดอาหารหวานๆสำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีลดหวานอยู่คะ

ก็เพราะความสวยของผู้หญิงเราเป็นเรื่องสำคัญที่สุดนะสิคะถึงต้องอยู่อย่างอดๆอยากๆ จะกินอะไรก็ไม่ได้กิน อยากกินแค่ไหนก็ต้องอดทน และวันนี้เราก็มีวิธีที่จะช่วยให้คุณลดความหวานให้ง่ายขึ้นไปอีกนะคะ เพราะหวังว่ามันจะช่วยให้คุณสาวๆสวยหุ่นเพรียวได้ไม่ยากเกินไปคะ ส่วนวิธีก็มีดังสี้คะ 

1. ทานอาหาร 3 มื้อให้ตรงเวลา และอีก 2 มื้อของว่างที่เป็นผลไม้ เพื่อปรับให้ร่างกายคุ้นเคยกับการรับสารอาหารอย่างเต็มที่ เป็นการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติ
2. เลือกทานผักและผลไม้สดเป็นหลัก หากต้องการของหวานมากๆ ก็ให้เน้นทานผลไม้ที่มีรสหวาน เช่น ส้ม มะละกอ แอปเปิ้ล เพราะน้ำตาลจากผลไม้สดจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
3. เปลี่ยนการรับประทานแป้งและคาร์โบไฮเดรตทุกชนิดมาเป็นการทานโปรตีนจากพืชหรือเนื้อสัตว์ให้มากขึ้น
4. กินหรือเพิ่มเครื่องเทศต่างๆ ลงในอาหาร ซึ่งจะช่วยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดและลดความอยากน้ำตาลได้
5. ผิดนะค่ะถ้าเหนื่อยล้าและรู้สึกว่าน้ำตาลช่วยได้ ถ้าเพลียมากๆ ก็ควรนอนพักผ่อน ไม่ควรกินของหวานเพื่อเพิ่มความกระชุ่มกระชวย
6. เก็บของหวานให้ไกลตัวที่สุด หรือถ้าเป็นไปได้ก็อย่าให้มีอยู่ในบ้าน บนโต๊ะทำงาน หรือในกระเป๋าเลย
7. งดน้ำตาลเทียมทุกชนิด เพราะถึงเขาจะว่าไม่อ้วนแต่ก็ทำให้ติดน้ำตาลได้เหมือนกัน
8. ใช้น้ำตาลธรรมชาติแท้ๆ แทน เช่น น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมจากข้าวโพด
9. ดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยลดความอยากทานน้ำตาล
10. ดีท็อกซ์ล้างพิษจะช่วยล้างปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือด
11. ออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกเยอะๆ หรือใช้กำลังเยอะกว่าปกติ เช่น แอโรบิก วิ่ง หรือโยคะ
12. อ่านฉลากก่อนทุกครั้งที่จะต้องซื้ออาหารที่มีรสหวาน ถ้าเป็นอาหารชนิดเดียวกันให้ลองเลือกดูจากหลายๆ ยี่ห้อและเทียบปริมาณน้ำตาลดูว่ายี่ห้อไหนมีน้ำตาลน้อยที่สุดก็ให้เลือกยี่ห้อนั้น
13. ฝึกการหายใจ หากรู้สึกอยากน้ำตาลขึ้นมาเมื่อไหร่ให้ลองหายใจเข้าออกช้าๆ เนิบๆ ทำให้ออกซิเจนเข้าสู้กระแสเลือดได้ดีเป็นการช่วยลดความอยากน้ำตาลได้ดีมาก

เป็นไงบ้างคะ คิดว่ามันง่ายขึ้นไหมคะ หลายคนบอกยากมาก แต่ยังไงสุดท้ายก็อยู่ที่ตัวเรานะคะว่าจะอดได้หรือไม่ได้ ยังไงก็เอาใจช่วยคะ ก็อยากให้สวยหุ่นดีกันทุกคนนี่คะ สู้ๆคะ
ที่มา    https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=1368

อัพเดทล่าสุด