สูตรหน้าใสด้วยตัวเอง


1,091 ผู้ชม


"สูตรหน้าใสด้วยตัวเอง"

    สูตรหน้าใสด้วยตัวเองนี้จะช่วยให้คุณผู้หญิงมีใบหน้าที่สดใส ไร้ความหมองคล้ำ คืนความชุ่มชื้น กลับสู่ความเต่งตึงให้กลับมาที่ใบหน้าของคุณให้ดูอ่อนเยาว์ และ สูตรหน้าใสด้วยตัวเอง

วันนี้ทีเรากำลังจะบอกจะเป็นศาสตร์การนวดหน้าใสและรวมถึงเราก็จะสอนวิธีนวดหน้าใส วิธีนวดผ่อนคลาย วิธีออกกำลังกายใบหน้า รวมถึง สูตรหน้าใสด้วยตัวเอง นี้ยังบอกถึง อาหารบำรุงผิวพรรณ ควบคู่กันอีกด้วย เรียกได้ว่าสวยใสครบสูตรกันเลยทีเดียวค่ะ สำหรับผู้หญิงอย่างเรา ๆ แล้วผิวพรรณบนใบหน้าเรียกได้ว่าสำคัญเป็นที่สุด เราจึงหาสิ่งดี ๆ มาเพื่อผิวหน้าของคุณให้ได้สวยใสเปล่งปลั่งกันทุกคนเลยค่ะ และยังเป็นเป็นสูตรที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองอีกต่างหาก นั้นเรามาเริ่มลงมือกับ สูตรหน้าใสด้วยตัวเอง กันเลยดีกว่าค่ะ

สูตรหน้าใสด้วยตัวเอง "ศาสตร์การนวดหน้าใส"

ศาสตร์อายุรเวทของอินเดียเชื่อว่า การกดจุดบนใบหน้ามีส่วนช่วยเสริมสร้างความงามบนใบหน้าได้ เพราะการกดจุดเป็นการไปกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับจุดนั้น ๆ ให้ดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยล้างพิษที่สะสมออกไปอีกด้วย หากทำเป็นประจำหลังตื่นนอนตอนเช้าเชื่อกันว่าจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดช่วยให้ผิวหน้าสดใส ไม่หมองคล้ำ สำหรับจุดต่าง ๆ มีดังนี้
วิธีนวดหน้าใส
จุดที่ 1 บริเวณ ขมับติดกับกระบอกตาทั้งสองข้างช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาทำให้นัยน์ตาสดใส วิธีกดใช้นิ้วกดในลักษณะนวดวนเป็นวงกลมเข้าไปพร้อมออกแรงกดจากนั้นวนออกพร้อมผ่อนแรงกด 
จุดที่ 2 บริเวณกลางหน้าผาก ช่วยให้อารมณ์สงบและมีสมาธิมากขึ้นวิธีกดใช้นิ้วกดลึกเข้าไป (ไม่ต้องวนนิ้ว) แล้วผ่อนแรงกด
จุดที่ 3 บริเวณใต้หัวคิ้ว ช่วยบรรเทาอาการไซนัสได้โดยจะใช้นิ้วโป้งซ้อนใต้หัวคิ้วแล้วกดนิ้วขึ้นไป แล้วผ่อนแรงกดจุดที่ 4 บริเวณกระดูกแก้มใต้ดวงตา จุดนี้เชื่อมกับกระเพาะอาหารช่วยเพิ่มพลังบริเวณช่องท้องได้วิธีกดเหมือนจุดที่ 2 
จุดที่ 5 บริเวณคาง ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกหรือขับถ่ายไม่เป็นปรกติได้โดยใช้วิธีบีบให้ทั่วบริเวณคาง
จุดที่ 6 บริเวณใต้คางไปจนถึงกราม วิธีกดใช้ท้องนิ้วของนิ้วโป้งรูดบริเวณใต้คางขึ้นไปจนถึงกราม จะช่วยลดอาการปวดหัวหรือไมเกรนได้
จุดที่ 7 บริเวณหลังติ่งหู วิธีกดเหมือนจุดที่ 2 ช่วยให้ระบบการทำงานของลำไส้เล็กดีขึ้น
จุดที่ 8 บริเวณใบหู บีบใบหูให้พับติดกันช่วยเรื่องการทรงตัวให้เป็นปรกติ 
ข้อควรระวัง เวลานวดหรือกดที่ผิวหน้านั้น อย่าขยี้หรือกดแรงเกินไปเพราะจะทำให้ผิวช้ำและเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ 
อีกวิธีที่ช่วยเพิ่มพลังและความสดชื่น คือ การใช้บริเวณท้องนิ้วมือทั้งสี่ถูเร็ว ๆ แบบเบา ๆ ที่ใบหูจนรู้สึกอุ่นและใช้นิ้วมือทั้งสิบนวดที่หนังศีรษะจนทั่ว เพียงเท่านี้คุณก็จะรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าและยังช่วยให้ผิวหน้ามีสุขภาพดีขึ้นด้วย

วิธีนวดผ่อนคลาย 
การนวดหน้าช่วยผ่อนกล้ามเนื้อใบหน้าที่ตึงเครียดให้คลายลงและยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณใต้ชั้นผิวหน้าให้ดีขึ้น ซึ่งทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งสดใส หากนวดเป็นประจำสามารถลดและป้องกันริ้วรอยที่ก่อตัวบนใบหน้าได้วิธีนวดหน้าอย่างง่าย ๆ มีดังนี้
ขั้นที่ 1 ล้างหน้าและมือให้สะอาด เช็ดให้แห้ง จากนั้นถูผ่ามือทั้งสองข้างด้วยกันแบบเร็ว ๆ แล้วนำมาปิดที่ใบหน้าคุณจะรู้สึกอุ่นที่ผิวเป็นการวอร์มผิวก่อนนวด
ขั้นที่ 2 หยดครีมบำรุงหรือน้ำมันสำหรับนวดหน้า (คนละชนิดกับน้ำมันนวดตัว) ลงบนผิว เกลี่ยให้ทั่วใบหน้าโดยใช้ท้องนิ้วของนิ้วกลางและนิ้วนางซึ่งเป็นนิ้วที่ไม่มีแรงกดมากจึงไม่ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยได้ง่าย 
ขั้นที่ 3 นวดวนเป็นวงกลมลงน้ำหนักนิ้วปานกลาง วิธีการวนนิ้วมือซ้ายให้วนซ้าย มือขวาให้วนขวาไปเรื่อย ๆ พร้อมกันทั้ง 2 มือ เริ่มจากหน้าผากไปจนถึงขมับจากปลายคางจนถึงติ่งหูและจากร่องจมูกจนถึงใบหู
ขั้นที่ 4 ใช้ปลายนิ้วกดเบา ๆ บริเวณแนวคิ้ว จากหัวคิ้วไปไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึงหางคิ้วและจากปีกจมูกเฉียงไปจนถึงมุมปาก
วิธีออกกำลังกายใบหน้า
วิธีที่ 1 พูดคำว่า A, E, I, O, U ติดกันโดยทำปากให้โอเวอร์แอคชั่นมากที่สุด 10 ครั้ง 
วิธีที่ 2 อ้าปากกว้างพร้อมทำตาโต นับ 1 - 3 ในใจ แล้วผ่อนกล้ามเนื้อใบหน้าให้กลับสู่ภาวะปรกติ 10 ครั้ง 
วิธีที่ 3 ทำปากเหมือนกับอมน้ำไว้ในปากให้มากที่สุดแล้วเลิกคิ้วสูงไปพร้อมกัน นับ 1 - 3 ในใจ แล้วผ่อนกล้ามเนื้อใบหน้าให้กลับสู่ภาวะปรกติ 10 ครั้ง
การบริหารใบหน้าอย่างสม่ำเสมอนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อและผิวหนังกระชับมากขึ้น ป้องกันรอยเหี่ยวย่นและลดความหย่อนยานของผิวหนังได้
อาหารบำรุงผิวพรรณ 
ผิวพรรณที่เปล่งปลั่งย่อมเกิดมาจากภายในการรับประทานอาหารที่บำรุงผิวพรรณเป็นพิเศษจึงมีส่วนสำคัญไม่น้อยทีเดียว อาหารที่มีวิตามิน A C E ธาตุเหล็ก กำมะถัน และสังกะสี โดยเฉพาะผักและผลไม้สดจะมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือสาร Anti - Oxidant อยู่หลายชนิดสารนี้มีคุณสมบัติช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายได้ 
นอกจากนี้แล้วยังควรดื่มสะอาดอย่างเพียงพอประมาณ 6 - 8 แก้ว ในแต่ละวัน เพื่อชดเชยน้ำหล่อเลี้ยงผิวที่ระเหยออกไปอยู่ตลอดเวลา 
สุดท้ายที่จะลืมไม่ได้นั่นคือการพักผ่อนให้เพียงพอและหลีกหนีจากความเครียดให้ได้มากที่สุด เพียงเท่านี้หน้าใสสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ก็จะเป็นของคุณ
ที่มา    https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=391

อัพเดทล่าสุด