กลเม็ดหยุดความหิว ก่อนจะสายเกินแก้


699 ผู้ชม


"กลเม็ดหยุดความหิว ก่อนจะสายเกินแก้"

    จำกัดแคลอรี=ลดน้ำหนัก ฟังดูเป็นเรื่องง่าย ๆ ใช่มั้ยคะ? ปัญหาเดียวก็คือ กระเพาะของคุณจะคร่ำครวญ และโหยหิวจนกว่าคุณจะให้อาหารมันอีกครั้ง

   เวลาไดเอ็ต อย่าเลือกอาหารจืดชืดน่าเบื่อ ให้ฝึกใส่เครื่องเทศ และสมุนไพรจนเป็นนิสัย ที่ง่าย ๆ ก็คือ หัวหอม พริกไทย ผักและผลไม้สับ ของเหล่านี้เพิ่มรสชาติให้อาหารได้ แต่เพิ่มแคลอรีน้อยมาก จึงทำให้ไดเอ็ตง่ายขึ้นเยอะ
 1.รับยามเช้าด้วยโปรตีน
          นักโภชนาการมักจะย้ำอยู่เสมอว่าให้เรากินโปรตีนไขมันต่ำ เหตุผลก็เป็นเพราะว่า มันทำให้เราอิ่มกว่าอาหารชนิดอื่น ๆ และใช้เวลาย่อยกับดูดซึมนานเช่นกันด้วย อย่างไรก็ตาม โปรตีนแต่ละชนิดนั้นไม่เหมือนกัน 
          การศึกษาจาก Purdue University ชี้ว่าการกินโปรตีนไร้มัน (เช่น ในโยเกิร์ตไขมันต่ำ หรือไข่ขาว) เป็นอาหารเช้า จะทำให้คุณอิ่มนานกว่าการกินในมื้ออื่น ๆ ของวัน ดังนั้น จึงควรลองกินโปรตีนประมาณ 30 กรัมในมื้อเช้า อาหารที่มีโปรตีนอยู่มากก็อย่างเช่น ทูน่า 3 ออนซ์ จะมีโปรตีนประมาณ 22 กรัม อกไก่ 3 ออนซ์ (ประมาณสำรับไพ่) มีโปรตีน 30 กรัม โยเกิร์ต 1 ถ้วย มี 11 กรัม และไข่หนึ่งฟองใหญ่ที่มีถึง 7 กรัม
 2.ลองกินมันฝรั่ง
          สูตรการไดเอ็ตแบบงดข้าวงดแป้งอาจจะแพร่หลายมาก แต่ความจริงแล้วคาร์โบไฮเดรตหลายชนิดสามารถทำให้คุณอิ่มท้อง โดยเฉพาะมันฝรั่ง ซึ่งมีแป้งชนิดพิเศษ ทนทานต่อการย่อย จึงใช้เวลาอยู่ในระบบย่อยอาหารนานมาก ทำให้เราไม่รู้สึกหิว 
          ดังนั้น แทนที่จะไม่กินแป้งเอาเสียเลย ลองกินมันฝรั่งอบเป็นอาหารเย็น (หัวขนาดกลางจะมีประมาณ 100 แคลอรี) หรือถ้าเป็นสลัดมันฝรั่งก็ยิ่งดี เพราะมันฝรั่งที่เย็น ๆ จะยิ่งช่วยให้อิ่มท้องมากขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ มันฝรั่งทอด หรือเฟรนซ์ฟรายด์ก็ยังเป็นวายร้ายอยู่ดี
 3.กินไขมัน (บ้าง)
          การตัดไขมันทุกชนิดออกจากเมนูอาหารของคุณ อาจย้อนเข้ามาทำร้ายตัวเองได้ในภายหลัง โดยเฉพาะหากคุณขาดกรดโอเลอิก ไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่งซึ่งพบได้ในน้ำมันมะกอก ถั่ว และอะโวคาโด ซึ่งในกระบวนการย่อยอาหาร มันจะกลายเป็นสารที่ส่งสัญญาณทางอ้อมไปยังสมองให้หยุดกิน เพียงแต่การกินไขมันต้องระวังเรื่องปริมาณหน่อย ไขมันไม่อิ่มตัวควรจะมีปริมาณไม่เกินร้อยละ 20 ของแคลอรีทั้งหมดในหนึ่งวัน
 4.ไม่กิน แต่ดม
          การดมกลิ่นอาหารบางอย่างจะช่วยหลอกสมองว่า คุณกินเข้าไปแล้ว การศึกษาครั้งหนึ่งเคยพบว่า คนที่ได้กลิ่นสะระแหน่ทุก ๆ 2 ชั่วโมง จะกินน้อยลง 2,700 แคลอรีต่อสัปดาห์ (นั่นหมายความว่าลดได้ 2 กิโลกรัมต่อเดือน) 
          และไม่ใช่แค่สะระแหน่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงพืชที่มีสรรพคุณเดียวกันอย่างกล้วย แอปเปิ้ลเขียว และกลิ่นวานิลลา ซึ่งแทนที่จะใช้ของสด คุณก็อาจใช้เป็นเทียนหอมเก็บไว้ในลิ้นชัก (ที่คุณเก็บของว่างเอาไว้) จากนั้น ทุกครั้งที่หิวก็ใช้นิ้วอุดจมูกข้างซ้าย แล้วสูดกลิ่นของเหล่านี้ ด้วยจมูกขวาให้เข้าไปกระตุ้นสมอง นอกจากจะอิ่มแล้วยังช่วยบรรเทาความวิตกกังวลด้วย
 5.เคี้ยวหมากฝรั่ง
          การศึกษาจาก University of Rhode Island พบว่า คนที่เคี้ยวหมากฝรั่งในตอนเช้าเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง จะกินแคลอรีในมื้อกลางวันน้อยลงถึงร้อยละ 67 และก็จะไม่กินมื้อเย็นเพิ่มขึ้นอีกด้วย 
          ทางนักวิจัยคาดกันว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งจะกระตุ้นเส้นประสาทที่เชื่อมกับสมอง ในส่วนที่ดูแลความอยากอาหาร หากไม่เป็นเช่นนั้นอย่างน้อยที่สุดการเคี้ยวหมากฝรั่งก็จะช่วยเผาผลาญได้ถึง 11 แคลอรี ต่อชั่วโมง (ยังดีกว่านอนตีพุงนะจ๊ะ)
ที่มา     https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=622

อัพเดทล่าสุด