การจัดอาหารให้ลูกก่อนวัยเรียน


1,237 ผู้ชม


หน้าที่ 1 - การจัดอาหารให้ลูกก่อนวัยเรียน

             เด็กก่อนวัยเรียนควรได้รับอาหารให้ครบทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นข้าว เนื้อสัตว์ นม ผัก และผลไม้ ปริมาณอาหารที่ควรได้รับในวันหนึ่งที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดไว้ต่อวันควรรับประทานในปริมาณดังนี้ ข้าวหรือธัญพืชต่างๆ 4-5 ทัพพี ผักใบเขียวและผักอื่นๆ 2-3 ทัพพี หรือประมาณ 1 ทัพพีในแต่ละมื้อผลไม้ 2-3 ชิ้น เช่น กล้วย 1 ผล มะละกอสุก 1 เสี้ยว เนื้อสัตว์ 5-6 ช้อนแกง ควรจะรับประทานไข่ 1 ฟอง และรับประทานเนื้อสัตว์อื่นๆ 3-4 ช้อนแกง และควรดื่มนมเป็นประจำวันละ 2-3 แก้ว ไขมันหรือน้ำมันในการประกอบอาหาร 3-4 ช้อนโต๊ะ ควรฝึกให้เด็กรับประทานได้หลายชนิด ไม่ควรเลือกเฉพาะอย่าง และการประกอบอาหารก็ควรคำนึงถึงความสะอาด และต้องเป็นอาหารที่ย่อยง่ายด้วย ถ้าอาหารแข็งหรือเหนียวจนเคี้ยวยากก็ควรจะสับหรือต้มให้เปื่อย

             หลักในการจัดอาหารให้เด็กก่อนวัยเรียนคือ จัดอาหารให้มีการหมุนเวียนกันหลายชนิด และเสริมด้วยตับสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เตรียมอาหารในปริมาณพอเหมาะรสไม่จัดและเคี้ยวง่าย หลีกเลี่ยงของขบเคี้ยว ขนมหวานจัด ลูกอม น้ำอัดลม และอาหารไขมันสูงมากๆ ควรจัดให้เด็กได้รับประทานร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่ ระหว่างรับประทานก็ไม่ควรดุเด็กหรือบังคับให้เด็กรับประทานอาหาร เพราะจะทำให้มีปัญหาต่อไป หากเด็กเพิ่งไปเล่นมาไม่ควรให้รับประทานทันทีนะคะ ควรให้พักอย่างน้อย 15 นาทีก่อน จึงค่อยรับประทานอาหาร
ลักษณะการจัดอาหารสำหรับเด็กที่โรงเรียน ควรทำดังนี้

             1. อาหารกลางวัน ลักษณะอาหารควรมีความสะดวกและรวดเร็วในการจัดเป็นรูปแบบอาหารจานเดียว ในลักษณะอาหารที่ปรุงสำเร็จใส่มาในจานเดียว รับประทานได้โดยไม่ต้องมีอาหารอื่น เพื่อเป็นการประหยัดเวลา แรงงาน สามารถกำหนดคุณค่าทางอาหารได้ชัดเจน เช่น ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว ผัดมะกะโรนี หรืออาจเป็นข้าวสวยกับกับข้าวรสไม่จัดมากสักหนึ่งอย่าง เช่น แกงจืด ผัดต่างๆ หมูทอด แต่อย่างไรก็ตามต้องคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารนั้นๆ ต้องเป็นอาหารที่เสริมสร้างการเจริญเติบโต และมีคุณค่าทางอาหารมาก
             2. อาหารว่าง เป็นอาหารใช้สำหรับเสริมให้เด็กก่อนรับประทานอาหารกลางวัน ประมาณเวลา 10.00 น. เนื่องจากอาจมีเด็กบางคนรับประทานอาหารเช้ามาน้อย หรือไม่ได้รับประทานเลย และอีกครั้งก่อนกลับบ้านเวลา 14.00 น. เพื่อเสริมสำหรับเด็กที่รับประทานข้าวเที่ยงน้อยหรือไม่ให้ท้องว่างเกินไป ก่อนรับประทานอาหารเย็น ควรเป็นอาหารที่เตรียมง่ายหาได้ในท้องถิ่น เช่น ข้าวต้มมัด ฟักทองนึ่ง กล้วยน้ำว้า ขนมปังไส้ต่างๆ ขนมไทยพื้นบ้าน เป็นต้น นอกจากเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว การใช้อาหารหรือผลไม้ในท้องถิ่นจะเป็นการสอนให้เด็กรู้จักอาหารพื้นบ้านไทย ที่เด็กบางคนไม่รู้จัก หรือไม่เคยรับประทานเลยก็ได้ หลักการจัดอาหารว่างให้แก่เด็ก ควรต้องจัดสิ่งที่ขาดอยู่ให้แก่เด็กในแต่ละวัน เพื่อให้ครบตามคุณค่าที่เด็กต้องการในแต่ละวัน
             3. ขนม เป็นอาหารที่สามารถเสริมคุณค่าของอาหารหลักได้ ควรเป็นขนมที่มีรสชาติหวานน้อย ไม่ควรเลือกที่ให้ความหวานแต่เพียงอย่างเดียว ควรเลือกขนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้วย โดยการเสริมคุณค่าทางโภชนาการในขนมนั้นๆ ด้วย การใส่ถั่ว ใส่งา ใส่ธัญพืช ใส่นมเพิ่ม เช่น วุ้นใส่ธัญพืช ขนมปังนมเย็น กล้วยบวดชี หรือฟักทองแกงบวดโรยงาคั่ว เป็นต้น
             แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แต่เพียงจัด ไม่ใช่แค่เพียงมีอาหารให้เด็กได้รับประทาน ควรให้ความรู้เรื่องโภชนาการที่ดีแก่เด็กในเรื่องกิจกรรมต่างๆ โดยสอดแทรกในรูปแบบการเรียนรู้ การแสดงละคร เชิดหุ่น นิทาน ประกอบภาพประกอบอาหาร เพื่อเป็นการปลูกฝังลักษณะนิสัยในการรับประทานอาหารให้แก่เด็ก ผู้เลี้ยงดูเด็กก็จะต้องเป็นแบบอย่างให้แก่เด็กด้วย เช่น การไม่รับประทานผัก บางชนิดแล้วเขี่ยออก เมื่อเด็กเห็นก็จะเกิดการเลียนแบบ ควรปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี เช่น รับประทานอาหารหมดจานไม่เหลือทิ้ง ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร การแปรงฟันหลังอาหารทุกครั้ง โดยอาจทำไปพร้อมกับเด็กๆ ด้วย "ควรเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเด็กๆ"

                                                       ข้าวอบหมูย่าง                                                        

ส่วนผสม
             หมูสันใน 300 กรัม
             ข้าวสวย 1 ถ้วยตวง
             น้ำต้มกระดูกหมู 1/2 ถ้วยตวง
             กระเทียม 4-5 กลีบ
             ซีอิ๊วขาวสูตร 1 ตราภูเขาทอง 2 ช้อนโต๊ะ
             เห็ดหอม 1 ดอก
             พริกไทยป่นเล็ก น้อย
             พริกหวานสีเขียว สีแดง สีเหลือง หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
วิธีทำ
             โขลกกระเทียม พริกไทยให้ละเอียด
             หมักหมูกับเครื่องที่โลกไว้ เติมซีอิ๊วขาวสูตร 1 ตราภูเขาทองพักไว้ 30 นาที
             นำหมูและเห็ดหอมไปย่างในกระทะจนสุก
             ตักข้าวสวยใส่หม้อหรือชามทนความร้อนสูง ใส่หมูย่าง เห็ดหอม น้ำต้มกระดูหมูลงไป ปิดฝา นำเข้าอบด้วย ไฟอ่อนจนข้าวสุกหอมอีกรอบ ตกแต่งด้วยพริกหวานพร้อมจัดเสิร์ฟ

                                                       ไก่อบซอส                                                       

ส่วนผสม
             น่องไก่ติดสะโพก 1 ชิ้น
             ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง
             เนยสดชนิดเค็ม 4 ช้อนโต๊ะ
             เห็ดแชมปิยองลวก 100 กรัม
             ข้าวโพดอ่อนลวก 100 กรัม
             ข้าวสวย 2 ถ้วยตวง
             น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
             กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
             เกลือป่น
             พริกหวานสีเขียว สีแดง สีเหลือง หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
วิธีทำ
             ผสมไก่กับเกลือป่นและเนยสด 3 ช้อนโต๊ะ ให้เข้ากันหมักไว้ 15-20 นาที
             นำไก่ไปนาบกับกระทะโดยใช้ไฟกลางๆ พอหอม และผิวมีลักษณะตึง
             ใส่ซอสมะเขือเทศและน้ำเปล่าลงไป คนให้เข้ากัน ตั้งไฟเคี่ยวให้ไก่สุกและซอสเข้าเนื้อ
             ใส่เนยสดที่เหลือลงในกระทะพอร้อน ใส่กระเทียมลงผัดจนหอมจึงใส่ข้าวสวย โรยเกลือป่นเล็กน้อย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
             จัดเสิร์ฟไก่อบซอสกับข้าวผัดกระเทียม ตกแต่งด้วยพริกหวานรับประทานคู่กับผักลวกได้เลยค่ะ

ที่มา   https://vcharkarn.com/varticle/42431

อัพเดทล่าสุด