ต้มยำปลากดย่างใส่บวมเหลี่ยม ได้ประโยชน์สมุนไพร ฯ


1,239 ผู้ชม


ต้มยำปลากดย่าง

ปลา เป็นสัตว์ที่นำมาทำอาหารแล้วดีต่อสุขภาพ ย่อยได้ง่ายกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ถือว่าปลอดภัยมากร่างกายได้โปรตีน ฯ ยกเว้นผู้ที่กินอาหารเจ ฯหรือผู้ที่มีความเชื่อว่าผู้ป่วยบางโรคเช่น มะเร็ง ฯ ที่บางตำราไม่ให้กินปลาที่ไม่มีเกล็ด แต่ปลานั้นเลือกกินได้ตามใจชอบอยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหากับผู้ที่ไม่ควรกินปลาไม่มีเกล็ด

   หรือแม้แต่แพทย์ก็บอกให้เราควรเลือกกินปลาเนื้อสีขาว ดีกว่าปลาที่ไม่ใช่เนื้อสีขาว ปลาถือว่าเป็นเนื้อสัตว์ที่ถึงแม้จะมีไขมันอิ่มตัว แต่ก็มีสารอาหารที่มีประโยชน์กว่าไขมันสัตว์อื่นๆ จริงๆแล้วไขมันจากเนื้อปลา นำมาเจียวแบบน้ำมัน หมู ไก่ มะพร้าว ฯได้เช่นกัน ซึ่งในน้ำมันปลาบางชนิดเราก็จะได้ โอเมก้า 3 และ 6 ฯ ด้วย นำมาปรุงอาหารได้อร่อยเหมือนน้ำมันอื่นๆ แต่ควรใช้ต่อวันหรือแต่ละมื้ออาหารให้พอดี

   ปลากดเป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด ใช้ทำอาหารได้หลายอย่างทุกอย่างอร่อยทั้งนั้น ปลากดย่างที่ย่างด้วยเปลือกมะพร้าวแห้ง หรือใบไม้หอมแห้ง  เป็นการถนอมอาหารเพื่อให้เก็บไว้นานได้ ได้นำปลากดย่างมาทำต้มยำใส่บวบเหลี่ยม มาฝาก

   ต้มยำปลากดย่างใส่บวมเหลี่ยม

        ปลาช่อนเป็นปลามีเกล็ด ปลาช่อนย่าง

นำมาทำอาหารได้หลากหลายมาก และนำมาต้มยำได้เช่นกัน เพียงแต่ความหอมของต้มยำหรือต้มโคล้งจะต่างกัน ปลากดย่างจะหอมมากกว่า

        ข่า ตะไคร์ ใบมะกรูด มะนาว พริกขี้หนูสด ผักชีฝรั่ง

 (หรือเผา พริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ทำเป็นต้มโคล้งไม่ต้องใส่บวบ)

 น้ำใส่หม้อตั้งไฟใส่ ข่า ตะไคร์ ใบมะกรูด ที่หั่น ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มให้เดือดเคี่ยวสักพักให้น้ำสมุนไพรออกมาหอมๆ  แล้วนำปลากดย่างที่ล้างน้ำสะอาดแล้วฉีกหรือตัดให้ขนาดพอใส่หม้อ ต้มไปจนนุ่มแล้ว ตักเฉพาะปลาขึ้นมา พอเย็นแล้ว แกะก้างออก ส่วนที่เป็นหนังปลาจะใช้หรือทิ้งแล้วแต่ผู้ทำ ( ผู้ที่กินปลาไม่กลัวก้าง ก็ไม่ต้องแกะก้างออกก็ได้ แต่จะมีปัญหากับเด็กๆหรือผู้ใหญ่ที่กลัวก้างปลา )

บวบเหลี่ยม ปอกเปลือกออกทั้งหมดหรือลูกอ่อนๆปอกส่วนที่เป็นสันเหลี่ยมออกก็พอแล้วหั่นแฉลบเป็นชิ้นพอคำ

ระหว่างที่ต้มจะมีน้ำมันจากปลากดลอยอยู่ด้านบน บางตัวมีมาก บางตัวมีน้อย ผู้ที่ต้องควบคุมไขมันในร่างกาย ควรจะตักออกทิ้งบ้าง 

เมื่อแกะเนื้อปลาเสร็จแล้วนำมาใส่หม้อต้ม แล้วนำบวบใส่ ไม่ควรต้มให้บวบสุกมากเกินไป รสหวานจะลงไปในน้ำต้มหมด เวลาเราเคี้ยวบวบจะไม่ได้รสหวานในเนื้อบวบ 

ผักชี  ผักชีฝรั่ง สะระแหน่  ปรุงแต่งให้อาหารหอมอร่อยมากขึ้น

การปรุงรส มี  2 แบบ คือ

-  ปรุงลงไปในหม้อเลยโดยใส่ น้ำปลา น้ำมะนาว พริกขี้หนู ปรุงรสตามชอบ ถ้าเป็นพริกแห้งเผาหอม ควรใส่ตอนตักใส่ถ้วยแล้วโรยหน้า ด้วยผักชี ผักชีฝรั่งหรือใบสะระแหน่

- ปรุงนอกหม้อ โดย นำถ้วยใส่ น้ำปลา น้ำมะนาว พริก ผักชีฝรั่งฯ แล้วตักต้มยำร้อนๆใส่

  มะนาว ในภาพเป็นมะนาวไร้เมล็ด ผ่าครึ่งแล้วใช้ช้อนตักได้ทั้งเนิ้อและน้ำ

            ต้มยำปลากดย่างแบบง่ายๆก็อร่อยมาก

 ถ้าไม่มีบวม ก็ต้มปลากดย่าง อย่างเดียวก็อร่อยมากเช่นกัน

 สรรพคุณประโยชน์ สมุนไพร ด้านเภสัชกรรมไทย

         ในต้มยำปลากดย่างใส่บวมเหลี่ยม

 

ข่า  เหง้า รสเผ็ดร้อนขม

แก้ปวดท้อง  จุดเสียดแน่น ขับลมให้กระจาย  แก้พิษ แก้บิดแก้ตกโลหิต แก้ลมป่วง  ขับน้ำคาวปลา แก้สันนิบาตหน้าเพลิง ฯ

ตะไคร้  

ใบ  รสหอมปร่า  ลดความดันโลหิต แก้ไข้

ต้น รสหอมปร่า  ขับลม แก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้นิ่ว ดับกลิ่นคาว เจริญอาหาร

มะกรูด  

ใบ รสปร่าหอม แก้ไอ แก้อาเจียนเป็นโลหิต แก้ช้ำใน ดับกลิ่นคาว

น้ำในลูก รสเปรี้ยว แก้ศอเสมหะ กัดเสมหะ ฟอกโลหิตระดู ขับลมในลำไส้

มะนาว น้ำในลูก รสเปรี้ยว

ผสมเกลือและน้ำตาลทรายแดงจิบแก้เสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตามไรฟัน ฟอกโลหิต กัดเถาดานในท้อง ล้างเสมหะในคอ 

พริกขี้หนู หรือพริกชี้ฟ้า ผล รสเผ็ดร้อน

แก้ลมจุกเสียด แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อ แก้แน่น ขับผายลม เจริญอาหาร 

สะระแหน่ รสหอมร้อน

ขับเหงื่อ แก้หืด แก้ปวดท้อง ขับลมในกระเพาะลำไส้ แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อแก้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อ

ผักชี   ทั้งต้น  รสเผ็ดสุขุม

ขับเหงื่อ  ขับพิษเหือดหัด สุกใส ดำแดง ขับลม เจริญอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับเสมหะ ดับกลิ่นคาวปลาคาวเนื้อ  ต้มดื่ม  แก้ไอ หวัด อาหารเป็นพิษ แก้สะอึก

บวบเหลี่ยม ลูก รสหวานเย็น

บำรุงร่างกาย ลดไข้ แก้ร้อนใน ระบายท้อง ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ

ปลากด  น้ำมัน รสคาวร้อน ทาแก้แผลเน่าเปื่อย
ที่มา   https://www.gotoknow.org/posts/483600

อัพเดทล่าสุด