ดูแลผิวในช่วงหน้าร้อน ให้มีผิวใส รับซัมเมอร์


1,092 ผู้ชม


ช่วงหน้าร้อนที่กำลังจะมาหลายคนคงเอาแต่อยู่บ้านเพราะกลัวว่าโดยแดดแล้วจะมีฝ้า มีกระขึ้น แถมยังให้ผิวหมองคล้ำอีกต่างหาก หมดความกังวลไปเลยค่ะถ้าคุณรู้วิธีที่เรานำมาบอกกัน         ช่วงหน้าร้อนที่กำลังจะมาหลายคนคงเอาแต่อยู่บ้านเพราะกลัวว่าโดยแดดแล้วจะมีฝ้า มีกระขึ้น แถมยังให้ผิวหมองคล้ำอีกต่างหาก หมดความกังวลไปเลยค่ะถ้าคุณรู้วิธีที่เรานำมาบอกกัน 

ดูแลผิวในช่วงหน้าร้อน ให้มีผิวใส รับซัมเมอร์

ดูแลผิวในช่วงหน้าร้อน ให้มีผิวใส รับซัมเมอร์

ช่วงหน้าร้อนคงเป็นอะไรที่สาวๆ กลัวกันมากใช่ไหมล่ะค่ะ อาจเป็นเพราะความร้อนของแสงแดดที่ทำร้ายผิว ทำให้ผิวขาวๆ ของคุณสาวๆ หมองลงได้ง่าย

แถมตามมาด้วยฝ้า กระ และจุดด่างดำที่หายยากเสียเหลือเกิน เลยทำให้คุณสาวๆ กลัวที่จะออกไปไหนนอกบ้านกันเสียหมด แต่หมดความกังวลกับแสดงแดดไปได้แล้วล่ะค่ะ เพราะเรามีวิธีดีๆ ที่ช่วยให้ผิวของคุณห่างไกลจากฝ้า กระ และจุดด่างดำ ไม่ให้มากวนใจคุณสาวๆ แน่นอนค่ะ
ปัจจัยสำคัญของสาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำในช่วงหน้าร้อนนั้น คือ รังสียูวี อัลตร้าไวโอเลต (UV Ultraviolet) เมื่อผิวหนังโดนรังสีอัลตร้าไวโอเลต เซลล์เม็ดสีของเราจะผลิตเมลานินมาปกป้องผิวเพราะรังสียูวีเป็นตัวทำลายผิว (UV damage, Photoaging) และก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ แสงแดดในฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์โคจรมาใกล้โลกมากที่สุดปริมาณความเข้มข้นของรังสี UV ก็ย่อมเพิ่มขึ้นมากกว่าในฤดูหนาว หรือฤดูฝนที่มีเมฆมาช่วยบัง ยิ่งประเทศในเขตร้อนอย่างประเทศไทย ก็ยิ่งร้อนกว่าประเทศอื่นในแถบอบอุ่น

ยูวีบี (UVB) ทำให้เกิดผิวไหม้ หรือ Sunburn ส่วนยูวีเอ (UVA) ทำให้เกิดภาวะแก่จากแสงแดด (Photoaging) นอกจากนี้ยังทำให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีแทน ก่อให้เกิดกระแดด และฝ้ารังสียูวีเอสามารถทะลุผ่านกระจกใสได้ แต่ยูวีบีจะโดนกั้นด้วยกระจกใส ดังนั้นถึงนั่งอยู่ในตึกที่กั้นด้วย กระจกใสแสงยูวีเอก็ยังทะลุผ่านมาทำลายผิวได้
วิธีป้องกันรังสียูวี
  1. หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลาที่มีรังสียูวีมาก คือ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. การหลบแดดเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด
  2. สวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ เช่น กางเกงขายาว เสื้อแขนยาว แว่นกันแดด หมวกปีกกว้าง กางร่มกันยูวี เสื้อที่ทอเนื้อแน่นกว่าสามารถป้องกันยูวีได้มากกว่าผ้าเนื้อบาง
  3. ทาครีมกันแดดทุกวัน โดยเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF (Sun Protection Factor) สูงไว้ก่อน (ค่าสำหรับ UVB protection) เช่น มากกว่า 30 ขึ้นไป และค่า PA มากกว่า 2 บวกขึ้นไป (เป็นค่าสำหรับ UVA protection) (เช่น Dermacare SPF 60) ในวันที่แดดจัด หรือต้องใช้เวลาในแดดกลางแจ้งนานกว่า 2 ชั่วโมง ถ้าว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมากก็ต้องเลือกกันแดดชนิดกันน้ำ (water resistant) และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง อย่าลืมว่าปริมาณครีมที่ทาต้องมากพอ เพื่อให้ความหนาที่เพียงพอกับ SPF เช่น
    ใบหน้า และลำคอ ต้องใช้ปริมาณครีมกันแดดเมื่อบีบจากหลอดประมาณ 1 ข้อนิ้วมือ และทาซ้ำสองรอบ ครีมกันแดดในปัจจุบันมีหลายรูปแบบทั้งแบบครีม, เจล, โลชั่น, แท่ง, สเปรย์, แป้ง เลือกใช้ให้ถูกต้องตามบริเวณ และสภาพผิวแบบมันหรือแห้ง เช่น หน้าแห้งควรใช้แบบครีม หน้ามันควรใช้แบบเจลหรือโลชั่น สำหรับแขน ขา ให้ใช้แบบสเปรย์ เป็นต้น
นอกจากนี้มีคนหลายคนให้ข้อสังเกตว่าถ้าจะดูอายุจริงของใคร โดยเฉพาะผู้หญิงที่มักแต่งหน้าปกปิด ให้ดูที่คอ หลังมือ และบริเวณ V-shape หรือหน้าอกสำหรับใครที่ชอบเสื้อคอวี เพราะหากลืมทากันแดดในบริเวณดังกล่าวเป็นระยะเวลานาน ความแก่จากแสงแดดย่อมปรากฏ เช่น สีผิวดูกระดำกระด่าง มีเส้นเลือดเล็กๆ ขยาย คอซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวหนังค่อนข้างบางกว่าหน้า และต่อมไขมันน้อยกว่าผิวหนังบริเวณนั้นจะดูหย่อนยาน แห้งกร้านได้ แต่หากเกิดจุดด่างดำบริเวณดังกล่าวขึ้นแล้ว สามารถรักษาได้ด้วยการใช้แสงความเข้มสูง (IPL) ร่วมกับการทายา กลุ่มกรดวิตามินเอ (DNA Plus,NUVA) ก่อนนอนประมาณ 8 สัปดาห์ ริ้วรอยความแก่จากแสงแดดก็จะลดน้อยลง
บางคนไปทะเลแล้วไม่อยากดำหรือกลัวฝ้าเข้มขึ้น แต่เลี่ยงแดดไม่ได้จริงๆ อาจพิจารณาให้รับประทานยาที่ป้องกันการคล้ำของผิว เช่น กลูตาไธโอน หรือรับประทานวิตามินที่มีฤทธิ์ anitioxidant เช่น วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายเราให้ทนต่อแสงแดดได้มากขึ้น
สำหรับคนผิวมัน ถ้าพบปัญหาหลังทาครีมกันแดดแล้วหน้ายิ่งดูมันเยิ้ม สามารถทาผลิตภัณฑ์กลุ่ม Shine Control ก่อนทาครีมกันแดดตามปกติ และเลือกครีมกันแดดที่มีปริมาณน้ำมันน้อย (Elisee SPF 30 sunscreen, Minus SPF 40 sunscreen)
เพียงคุณสาวรู้จักที่จะป้องกันตัวเอง ฝ้า กระ และจุดด่างดำ รับรองว่าไม่มากวนใจคุณแน่นอนค่ะ

ที่มา   https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=3067&sub_id=8&ref_main_id=1

อัพเดทล่าสุด