กำราบ "สิว" ด้วย "แสง"


830 ผู้ชม


สิวปัญหากวนใจสาวทุกเพศทุกวัย เห็นสิวโผล่มาทีไรหมั่นเขี้ยวอยากบีบเอาสิวออกเหลือเกิน...หยุด!! อย่าทำเช่นนั้น เพราะจะทำให้สิวอักเสบ และเป็นรอยแผลเป็นจุดด่างดำได้ สมัยนี้เทคโนโลยีนำสมัย มีวิธีปราบสิวด้วย          สิวปัญหากวนใจสาวทุกเพศทุกวัย เห็นสิวโผล่มาทีไรหมั่นเขี้ยวอยากบีบเอาสิวออกเหลือเกิน...หยุด!! อย่าทำเช่นนั้น เพราะจะทำให้สิวอักเสบ และเป็นรอยแผลเป็นจุดด่างดำได้ สมัยนี้เทคโนโลยีนำสมัย มีวิธีปราบสิวด้วย "แสง" ทั้งปลอดภัยและไม่เจ็บ ไปดูกันเลยค่ะ... 

            ผิวที่มีสิวนั้นมักจะเริ่มต้นด้วยการมีแบคทีเรีย P.Acnes ทำให้เกิดสิวบนใบหน้า หลัง หน้าอก และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หากปล่อยไว้ก็อาจกลายเป็นแผลเป็นได้

            การใช้แสงเพื่อรักษาสิว คือ การใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Selective Photo Clearing คือ การใช้แสงที่ปลอดภัยและปราศจากรังสียูวีเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว นอกจากแสงสีฟ้าแล้วยังมีสีเหลือง ส้ม ม่วง ฯลฯ ที่มีคุณสมบัติคล้ายกัน แต่สีอาจต่างกันไปตามแต่ผู้ผลิตเครื่อง

การใช้ "แสง" เหมาะกับ "สิว" ประเภทไหน

           สามารถใชัรักษาสิวผด สิวอักเสบ ผื่นแพ้ ผื่นแดด ผื่นฝุ่น ฝื่นเครื่องสำอาง ฯลฯ ใช้ได้กับสิวบนใบหน้า หลัง และหน้าอก

ขั้นตอนของทรีตเมนต์

          ข้อดีอย่างแรกเลย คือ ปลอดภัยและไม่เจ็บ ขั้นแรกคือ การล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าให้แห้ง จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการฉายที่ใบหน้า 20-30 นาที คนไข้อาจรู้สึกอุ่นๆ ไม่ร้อน ไม่เบิร์น หลังการทำทรีตเมนต์จะพบว่าสิวยุบตัวลง

1. สิวอักเสบ อาจทำทรีตเมนต์บ่อยได้ถึงวันเว้นวัน ในสัปดาห์แรกทำ 3 ครั้ง แล้วลดจำนวนในสัปดาห์ต่อมา

2. สิวผด แพทย์อาจจะให้ทายาแก้แพ้ก่อนแล้วค่อยฉายแสง โดยจะทำทรีตเมนต์สัปดาห์ละ 2 ครั้ง อย่างไรก็ดีผลที่ชัดเจนอาจเห็นได้หลัง 5 ทรีตเมนต์ขึ้นไป

ข้อเสียและข้อจำกัด

ไม่สามารถช่วยในกรณีของสิวเสี้ยนได้ และหลีกเลี่ยงความเจ็บไม่พ้นหากคุณหมอต้องกดสิวเพื่อเอาหนองออกเสียก่อน และในกรณีที่เป็นมากอาจต้องใช้ยาทาหรือยารับประทานร่วมด้วย นอกจากนี้ อาจพบว่าผิวหน้าแห้งหลังจากทำทรีตเมนต์
ที่มา   https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2098&sub_id=8&ref_main_id=1

อัพเดทล่าสุด