กินขนมขบเคี้ยวเยอะ ไตก็ทำงานเยอะ


1,030 ผู้ชม


สำหรับคนที่รักสุขภาพอย่างหนุ่มๆ สาวๆ 108health ทั้งหลาย ขนมขบเคี้ยวที่เผลอทานกันอยู่ทุกวันนั้น นอกจากจะไม่ให้ผลดีต่อร่างกายแล้ว ยังเข้าไปทำลายสุขภาพของเราได้อีกด้วยน่ะค่ะ ดังนั้นควรจะเลือกทานผัก ผลไม้ที่มีประโยชน์จะดีกว่าค่ะ         สำหรับคนที่รักสุขภาพอย่างหนุ่มๆ สาวๆ 108health ทั้งหลาย ขนมขบเคี้ยวที่เผลอทานกันอยู่ทุกวันนั้น นอกจากจะไม่ให้ผลดีต่อร่างกายแล้ว ยังเข้าไปทำลายสุขภาพของเราได้อีกด้วยน่ะค่ะ ดังนั้นควรจะเลือกทานผัก ผลไม้ที่มีประโยชน์จะดีกว่าค่ะ 

กินขนมขบเคี้ยวเยอะ ไตก็ทำงานเยอะ

โดยปกติขนมขบเคี้ยวส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย แป้ง น้ำมัน  แป้ง น้ำมัน เนย น้ำตาลเป็นหลัก รวมทั้งผงชูรสและเกลือแร่

สารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ จะมีอยู่ค่อนข้างต่ำ เช่น โปรตีน เกลือแร่และวิตามิน ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาสติปัญญา โดยเฉพาะเด็กถ้ารับประทานขนมขบเคี้ยวจนกระทั่งปฏิเสธอาหารมื้อหลักแล้ว อาจเป็นโรคขาดสารอาหารและเป็นโรคอ้วนได้

นักวิจัยจากสถาบันวิจัยโภชนาการ กล่าวต่อว่า พลังงานที่ร่างกายต้องการใน ๑ วันนั้น เด็กต้องการประมาณ ๑,๖๐๐ กิโลแคลอรี่ ผู้ใหญ่ประมาณ ๒,๐๐๐ กิโลแคลอรี่ พูดง่ายๆ คือ รับประทานอาหารมื้อหลักให้ครบ ๓ มื้อ แล้วพยายามรับประทานขนมขบเคี้ยวระหว่างมื้อให้น้อยลง โดยต้องดูปริมาณอาหารที่รับประทาน หากรับประทานมื้อหลักมากแล้ว ขนมระหว่างมื้อให้รับประทานน้อยลง และหันมารับประทานผลไม้ต่างๆ แทนขนมขบเคี้ยวในบางมื้อ ยกเว้นผลไม้ดอง เนื่องจากผลไม้จะอุดมไปด้วยเกลือแร่ วิตามินและมีใยอาหารช่วยให้ท้องไม่ผูก สำหรับเด็กควรอธิบายถึงข้อดีและข้อเสียของการรับประทานขนมขบเคี้ยวมากเกินไปและการเลือกซื้อโดยไม่ไปหลงเชื่อคำโฆษณา รวมทั้งไม่ควรอนุญาตให้เด็กรับประทานขนมขบเคี้ยวก่อนอาหารมื้อหลัก เพราะจะทำให้เด็กอิ่มและปฏิเสธอาหารมื้อหลัก สิ่งที่ตามมาคือทำให้เด็กได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ไม่เพียงพอ เป็นโรคขาดสารอาหาร โรคอ้วนหรือโรคริดสีดวงทวารตามมา เนื่องจากไม่ได้ใยอาหาร ทำให้การขับถ่ายผิดปกติ
“อย่าฝึกให้เด็กรับประทานขนมขบเคี้ยวก่อนมื้ออาหารหลัก ให้เขารับประทานอาหารมื้อหลักให้เพียงพอก่อน ถ้าเขาอยากรับประทานขนมขบเคี้ยวก็ให้เขาบ้าง แต่ไม่ใช่ให้รับประทานหมดถุงหมดโหล และเลือกขนมขบเคี้ยวที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ถั่วลิสง จะมีโปรตีนและกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ถั่วจะมีเกลือใส่อยู่ ที่กังวลคือ ปริมาณเกลือมากเกินไป ถ้ารับประทานมากเกินไปอาจทำให้ความดันโลหิตสูง และในผู้ใหญ่บางคนอาจมีปัญหาเรื่องการย่อย กินถั่วเยอะๆ แล้วจะมีอาการท้องอืด ดังนั้น ต้องระวังในวัยผู้ใหญ่” ดร.รัชนี กล่าว
ดร.รัชนี กล่าวด้วยว่า ในการเลือกซื้อขนมขบเคี้ยวควรตรวจดูวัน เดือน ปี ที่ผลิตและวันหมดอายุ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะสินค้าลดราคา ควรอ่านฉลากโภชนาการทุกครั้งว่า รับประทานแล้วจะได้รับสารอาหารอะไร ควรหลีกเลี่ยงขนมที่ใส่สีทุกชนิด และตรวจดูลักษณะซองหรือหีบห่อว่ามีรอยรั่วหรือฉีกขาดหรือไม่ ถ้าพบเห็นว่ามีรอยฉีกขาดไม่ควรซื้อมารับประทาน เนื่องจากอาจ
เป็นของเก่าหรือของไม่ได้รับมาตรฐานหรือมีสัตว์มากัดกิน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม คุณควรเลือกรับประทานอาหารให้ได้ประโยชน์กับตัวคุณเองมากที่สุด เพื่อตัวคุณเอง และคนที่คุณรักน่ะค่ะ

ที่มา   https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2762&sub_id=98&ref_main_id=4

อัพเดทล่าสุด