6 อาหารเพื่อสุขภาพสมอง


989 ผู้ชม


การเลือกรับประทานอาหารที่ดีนั้น ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้เรามีสุขภาพดีเช่นกัน เรามาดูว่า 6 อาหารเพื่อสุขภาพที่นักวิจัยของสหรัฐอเมริกาต้องยอมรับนั้นมีอะไรบ้าง...         การเลือกรับประทานอาหารที่ดีนั้น ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้เรามีสุขภาพดีเช่นกัน เรามาดูว่า 6 อาหารเพื่อสุขภาพที่นักวิจัยของสหรัฐอเมริกาต้องยอมรับนั้นมีอะไรบ้าง... 

1. ผักโขมและผักใบสีเขียวเข้มอื่นๆ

การวิจัยล่าสุดพบว่าผู้ที่รับประทานผักใบเขียวเป็นประจำทุกมือ จะช่วยให้การทำงานของสมองดีขึ้น และสมองเสื่อมช้าลงอีกด้วย สำหรับสูตรอาหารที่น่าสนใจสำหรับผักโขมก็คือ สลัดเห็ดและผักโขม ที่ทางเราเคยแนะนำไปนั่นเอง

2. ไข่

สารโคลีนในไข่ไก่สามารถช่วยบำรุงหน่วยความจำของสมอง และไขไก่ก็ยังอุดมไปด้วยโปรตีนซึ่งช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ และลูทีนที่ช่วยบำรุงสายตา สำหรับคนวัยทำงานที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ก็ควรหันมาสนใจเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ช่วยบำรุงทั้งสมองและสายตาของท่านได้ อย่างเช่น ไข่เจียวห่อข้าว แสนอร่อย เป็นต้น

3. แซลม่อน

ไขมันโอเมก้าที่พบมากในปลาแซลม่อนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์สมองให้ดีขึ้น และช่วยลดโอกาสการเสื่อมสภาพของสมองได้ เมนูอาหารง่ายๆ ที่เราเคยแนะนำท่านไปก็คือ สเต็กปลาแซลมอน ที่ท่านสามารถทำได้ง่ายๆที่บ้าน

สมองซีกซ้ายและขวา

เปรียบเทียบการทำงานของสมองซีกซ้ายและขวา

4. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

สำหรับอาหารว่างที่ท่านรับประทาน ควรหันมาสนใจผลไม้ตระกูลเบอรรี่กันบ้าง ดังเช่น ลาสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ สตอเบอร์รี่ หรือแม้กระทั่ง เชอร์รี่ ผลไม้เหล่านี้เหมาะสำหรับสาวๆที่ต้องการลดน้ำหนักเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญสาร Antioxidants ที่พบมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ช่วยให้หน่วยความจำของสมองในระยะสั้นๆนั้นดีขึ้นอีกด้วย สำหรับเมนูอาหารง่ายๆที่น่าลองทำเองก็คือ สตอร์เบอร์รี่โยเกิร์ตมูสเค้ก ลองทำเองได้เลยจ้า

5. ข้าวโอ๊ต

การรับประทานข้าวโอ๊ตในตอนเช้า สามารถช่วยให้สมองของท่านสดชื่นขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับเวลาเร่งรีบในตอนเช้าเมนูอาหารง่ายๆที่น่าสนใจก็คือ ข้าวโอ๊ตโยเกิร์ต ที่ทำเองได้ง่ายๆและรสชาติไม่เลวเลยทีเดียว

6. บร็อคโคลี่

บร็อคโคลี่นั้นอุดมไปด้วยใยอาหาร และยังมีวิตามิน C และ E ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยเติมความสดชื่นให้เซลล์ในร่างกาย รวมไปถึงเซลล์สมองด้วย

สมองเสื่อม
สมองปกติเทียบกับสมองที่เป็นอัลไซเมอร์

หลังจากท่านได้อ่านบทความนี้แล้วทางเราก็หวังว่าท่านคง เลือกรับประทานอาหารได้อย่างถูกหลักโภชนาการมากยิ่งขึ้น และถ้ามีเวลาว่างท่านก็ยัง
ที่มา   https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2713&sub_id=18&ref_main_id=4

อัพเดทล่าสุด