ยำปูเค็ม กับมะม่วงเปรี้ยว


2,191 ผู้ชม


เห็นแล้วน้ำลายสอ อดเอามาฝากกันไม่ได้เห็นแล้วต้องนำ้ลายสอ แต่วันนี้ไปดูการทำยำปูเค็มในครัวบ้านพิมดีกว่าค่ะ น่าอร่อยมาก         เห็นแล้วน้ำลายสอ อดเอามาฝากกันไม่ได้เห็นแล้วต้องนำ้ลายสอ แต่วันนี้ไปดูการทำยำปูเค็มในครัวบ้านพิมดีกว่าค่ะ น่าอร่อยมาก

พูดถึงอาหารที่ทำจาก "ปู (แสม) เค็ม"  ...  อันดับต้น ๆ เลย หลายคนคงจะนึกไปถึงส้มตำใส่ปูเค็ม  ตำปูเค็ม หรือไม่ก็หลนปูเค็ม ซึ่งหาทานกันได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน    แต่วันนี้พิมมีเมนูเกี่ยวกับปูเค็มที่หาทานได้ยาก  ทั้งที่แสนจะทำง่ายมาฝากกันค่ะ

"ยำปูเค็ม" ... จะว่าไป อาหารจานนี้ถือเป็นอาหารจานโปรดของพิมกับแม่เลยค่ะ  เรียกได้ว่าถ้าวันไหนทำ  เราสองคนแม่ลูกจะมานั่งซี๊ด ซ๊าด ซู๊ดกันอยู่หน้าจานยำปูเค็มอย่างเมามันเลย 


 


 

แต่ก่อนจะไปดูวิธีทำ ว่าทำยังไง  เรามาดูเครื่องปรุง และส่วนผสมกันก่อนนะคะ ... ก็จะมี

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

1. ปูเค็มตัวใหญ่ 9 ตัว
2. มะม่วงดิบเปรี้ยว 2 ลูก
3. น้ำตาลปี๊บ 50 กรัม
4. หอมแดงซอย 50 กรัม
5. น้ำปลาอย่างดี 1 - 2 ช้อนกินข้าว
6. พริกขี้หนู  (ชอบเผ็ดมากใส่มาก ชอบเผ็ดน้อยใส่น้อย) .... ซอยหยาบ/ละเอียด ตามชอบ
7. น้ำมะนาว (เผื่อไว้สำหรับหากมะม่วงเปรี้ยวไม่พอ)
 


:: การเตรียมปูเค็ม ::

เพื่อให้ถูกสุขลักษณะมากขึ้น  เราจะทำการลวกปูในน้ำเดือดกันก่อนสัก 1 น้ำนะคะ

วิธีการก็คือ ... นำน้ำสะอาด ปริมาณสัก 2 ถ้วย ใส่หม้อหรือกระทะก็ได้ค่ะ แล้วเอาไปตั้งไฟให้เดือด  ... พอน้ำเดือด ก็จัดการหย่อนปูเค็มลงไปทั้งหมอ   แล้วเอาทัพพีคนๆ 3-4 ที พอปูเปลี่ยนสี  และน้ำเดือดอีกครั้ง  ก็เอาตะหลิวโปร่งหรือกระชอน ช้อนปูขึ้นมา แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ




จากนั้นก็นำปูแต่ละตัวมาดึง  "จะปิ้ง" ทิ้งไป  (ที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม ตามลูกศรีสีเขียวชี้-ในภาพ)
แล้วก็ดึงกระดองปูออกมาด้วนะคะ  แต่ว่ากระดองปูนี่ เราไม่ทิ้งค่ะ จะเอามายำด้วย  (ตรงกระดอง จะมีมันปูเยอะ อร่อยค่ะ ^^) .... พอดึงกระดองปูออกแล้ว  ก็ให้ฉีกปูแต่ละตัวออกเป็น 2 ส่วนตามแบบในภาพเลยค่ะ



ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการเตรียมปูเค็ม ... จะได้ปูออกมาลักษณะแบบนี้นะคะ  .. ก็พักเอาไว้ก่อน


มาดูที่มะม่วง ... เราจะใช้มะม่วงดิบแบบเปรี้ยว ๆ ในการยำค่ะ  ซึ่งปกติแล้วมะม่วงที่ใช้ยำอะไรแบบนี้ คนส่วนใหญ่มักจะใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ดิบ  เพราะว่ามันให้ความเปรี้ยวสะใจมาก แถมยังเนื้อเยอะด้วย  ปอกแค่ลูกสองลูกก็เต็มชามแล้ว ...  แต่โดยส่วนตัวพิมจะนิยมใช้มะม่วงทวายหรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ มะม่วงสามฤดูมากกว่ามะม่วงน้ำดอกไม้ค่ะ  เพราะมะม่วงทวายเนี่ย   มีลักษณะเนื้อที่แข็งกรอบ  เวลาเอามายำ เนื้อมะม่วงก็จะไม่เละ นิ่มปวกเปียกเหมือนมะม่วงน้ำดอกไม้อ่ะค่ะ .....   แต่ถ้าไม่มีมะม่วงทวาย  ก็ใช้มะม่วงน้ำดอกไม้นี่แหละ  หาง่ายกว่ากันเยอะเลย

ก็เอามะม่วงมา 2 ลูกนะคะ  (ถ้าน้ำดอกไม้ ใช้ลูกเดียวใหญ่ ๆ ก็พอ) ปอกเปลือก แล้วไปล้างยางออก  จากนั้นก็เอามาสับให้หมดทั้ง 2 ลูกตามในภาพนี้เลยค่ะ  ... สับเสร็จ ก็พักเอาไว้ก่อน

ป.ล. มะม่วงที่เห็นในภาพ 2 ลูก น้ำหนัก 4 ขีดกว่า ๆ สับแล้วได้เนื้อมะม่วงราว ๆ  250 กรัมนะคะ
 



จากนั้นก็หันมาปรุงน้ำยำกันค่ะ ... ซึ่งน้ำยำของยำปูเค็มเนี่ย  ส่วนผสมน้อยมากเลยค่ะ เพราะว่ามีแค่น้ำตาลปี๊บกับน้ำปลาเอง   แล้วบางทีน้ำปลาก็ไม่ต้องใส่ค่ะ  แต่เผอิญว่าปูเค็มที่พิมได้มา ไม่ค่อยเค็มเท่าไหร่  แล้วยังเสียความเค็มไปตอนลวกอีก  เลยต้องใช้น้ำปลาช่วยเพิ่มความเค็มค่ะ ... เพราะฉะนั้นก่อนจะผสมน้ำยำ  จะต้องชิมปูเค็มของแต่ละคนก่อนนะคะ ว่าเค็มขนาดไหน  ถ้าเค็มมากแล้ว  ไม่ต้องใส่น้ำปลาก็ได้ค่ะ  แต่ถ้าเค้มน้อยไป  จะเติมน้ำปลาเพิ่มแบบพิมก็ได้    แต่อย่าเพิ่งผสมน้ำปลาลงไปในน้ำยำเยอะนะคะ  ให้เหลือเอาไว้จากที่คิดหน่อย  เผื่อเค็มเกินไปแล้วจะแก้ยาก  แต่ถ้าปรุงเสร็จแล้ว ยำเสร็จแล้ว เค็มน้อยไป  เรายังสามารถเติมเพิ่มได้อ่ะค่ะ

ส่วนผสมน้ำยำของพิมก็จะมี น้ำตาลปี๊บประมาณ 50 กรัม  แล้วก็น้ำปลาดี ๆ สัก 2 ชต. ค่ะ  .... ผสมโดยใช้ช้อน/ทัพพี บี้น้ำตาลให้ละลาย  ถ้าหากยังไม่ค่อยละลาย เติมน้ำอุ่นลงไปช่วยได้นิดหน่อยค่ะ
 



จากนั้นพอน้ำตาลปี๊บละลายหมด ... ก็ใส่หอมแดง และพริกขี้หนูที่ซอยไว้แล้วลงไป  .. แล้วก็เคล้าๆ  ให้เข้ากันดี

อ้อ ..... หอมแดงเนี่ย หากชอบทานจะใส่เยอะกว่านี้ก็ได้นะคะ  (จริง ๆ พิมชอบมาก แต่แม่ไม่ชอบ -*-)    ส่วนพริกขี้หนู ใครชอบรสเผ็ดจัด จะใส่เยอะ ๆ ก็ได้นะคะ หรือจะหั่นซอยให้ละเอียดกว่านี้ก็ตามชอบเลยค่ะ   แต่พิมแม้จะชอบกินเผ็ด   แต่ทานพริกขี้หนูเม็ดๆไม่ได้  ก็เลยต้องหั่นใหญ่อย่างนี้แหละค่ะ เผื่อไว้เขี่ยออก
 



ใส่มะม่วงสับตามลงไป แล้วก็เคล้าให้เข้ากันอีกรอบ  จากนั้นก็เอาปูเค็มที่เราเตรียมเอาไว้ในตอนแรก  ใส่ในกาละมังยำเลยค่ะ 
 



คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกรอบ ... (เคล้าแบบหนักมือได้ค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร) ... ก็จะได้ยำปูเค็มกับมะม่วงเปรี้ยว ออกมาหน้าตาแบบนี้
จากนั้นอันดับสุดท้าย ... ก็ตักขึ้นใส่จาน พร้อมทานได้เลยค่า ^___^ ... จะทานเป็นกับข้าว จะทานเป็นกับแกล้ม หรือจะทานเป็นของทานเล่น .. ก็อร่อยได้ทุกเวลา ^^ โฮ๊ะๆ... ว่าแล้วก็ขอตัวไปทานยำปูเค็มต่อล่ะนะคะ 

ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=1618&sub_id=18&ref_main_id=4

อัพเดทล่าสุด