กาแฟกับการปวดหัว ข้อเท็จจริงและคำถาม 1


936 ผู้ชม


กาแฟและการปวดหัว 1 ข้อเท็จจริงและคำถาม 
ในฐานะที่หลาย ๆ ท่านเป็นคอกาแฟ เวปนี้ก็มีห้องกาแฟเย็น หลาย ๆ คนคงเคยมีอาการที่สงสัยว่าจะเกี่ยวกับกาแฟ ผมจึงพยายามรวบรวมสิ่งน่ารู้กาแฟกับการปวดหัว มีที่ thaihealth ที่เดียวครับ
1.ในทางการแพทย์แล้ว กาแฟมีฤทธิ์อย่างไรกับการปวดหัว
ในทางการแพทย์เอง การศึกษาวิจัยจะพบว่า กาแฟ มีฤทธิ์ระงับอาการปวดได้ดี องค์การอาหารและยาเองก็ตระหนักและอนุญาติให้ใช้ และเชื่อว่า การกินกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม ปลอดภัยต่อร่างกาย 
ปกติ เมื่อรับประทานกาแฟ คาเฟอีนจะออกฤทธิ์ภายใน 6-8 นาที และออกฤทธิ์เต็มที่ภายใน 30 นาที มีค่าครึ่งชีวิต 3-5 ชั่วโมง คนอเมริกันปกติดื่มกาแฟประมาณ 200-300 มิลลิกรัม
ในทางการแพทย์พบว่า เมื่อผสมกาแฟลงในยาแก้ปวด จะเพิ่มการดูดซึมและฤทธิ์การแก้ปวดในยาเช่น แอสไพริน ในทางกลับกันคือ เราสามารถลดปริมาณยาแก้ปวดลงได้ถึง 40 % เมื่อใช้ยานั้นร่วมกับคาเฟอีน 
2.การหยุดกาแฟทันทีจะเกิดการปวดหัวหรือไม่ 
เป็นได้ในคนที่เป็นไมเกรน หรือแม้แต่ในคนธรรมดา พบว่า การจะวินิจฉัยว่าเป็นการปวดหัวจากการหยุดกาแฟกระทันหัน คนนั้นต้องกินกาแฟต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 15 กรัมต่อเดือน แต่ในบางคนมีความไวกว่านั้น ถ้าเฉลี่ยเป็นวันคือ คนที่กินกาแฟ มากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่มีรายงานพบว่าบางคนกินกาแฟแค่ 100 มิลลลิกรัมต่อวันก็มีอาการได้
จากการวิจัยล่าสุดของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า จากการสอบถามคนไข้ 11000 ราย พบ 11% มีอาการของการหยุดดื่มกาแฟ และเพียง 3% ที่มีอาการรุนแรง
อาการของการขาดกาแฟ(caffeine withdrawal)
1ปวดหัว เริ่มจากตื้อ ๆ บางทีปวดตุบ บางทีคล้ายไมเกรน มักเกิดภายใน 24 ชมและอาจเป็นมากเมื่ออกกำลัง อาการหายไปเมื่อได้รับคาเฟอีน 100 มิลลิกรัม
2.ง่วงซึม
3.ขาดสมาธิ
4.ซึมเศร้า
5.เครียดหรือวิตกกังวล
6.อยู่นิ่งไม่ได้
7.คลื่นไส้อาเจียน
8.กล้ามเนื้อปวด ตึง
3.แหล่งและปริมาณของกาแฟ
โดยเฉลี่ยชาวอเมริกัน ได้รับคาเฟอีนประมาณ 200-300 มิลลิกรัม 96% ได้จากอาหารหรือเครื่องอื่มที่มีคาเฟอีน โดย 80% ได้จากกาแฟ 10% ชา และ 6% จากเครื่องดื่มอื่น ๆ
ปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ
กาแฟ (150 cc) 115 มก.
กาแฟชนิดดีคาเฟอีน 3 มก.
ชา(ต่อ 150cc) 40-60 มก.
ซอฟท์ดริงค์อื่น ๆ(ต่อ 360 cc)
โคล่า 45 มก.
เป็บซี่ 38 มก.
mounten dew 54 มก.
ชอคโกเลท(ต่อ 30 ซีซี)
ขนมปัง 35 มก
นม 6 มก.
ยา
คาเฟอกอท 100 มก

ที่มา https://www.thaihealth.net/h/article120.html

อัพเดทล่าสุด