ออกกำลังกายวันละนิดเพื่อสุขภาพที่ดี


1,202 ผู้ชม


โดยปกติกิจวัตรประจำวันของเราทุกคน คือ การออกจากบ้านไปที่ทำงาน หลังเลิกงานบางท่านอาจมีกิจกรรมอื่นๆนอกบ้าน          โดยปกติกิจวัตรประจำวันของเราทุกคน คือ การออกจากบ้านไปที่ทำงาน หลังเลิกงานบางท่านอาจมีกิจกรรมอื่นๆนอกบ้าน 

เช่น ไปฟิตเนส ไปวิ่งที่สวนสาธารณะ หรือไปออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิค...

โดยปกติร่างกายของเราทุกคนจะอยู่ในท่าพักผ่อน หรือท่านั่ง ประมาณ 8 ช.ม. ต่อวัน บางทีอาจนั่งทำงานมากถึง 10 ช.ม. ต่อวัน (รวมเวลานั่งทานอาหารและนั่งอยู่ในรถด้วย) ซึ่งนั่นถือว่าเราอยู่ในท่านั่งเป็นเวลานานมากต่อวัน

ใครจะคิดว่า พฤติกรรมท่านั่งปกติธรรมดาเช่นนี้ จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคอย่าง “กล้ามเนื้อตะโพกหนีบเส้นประสาท” ได้

“ผู้ป่วยบางรายมีอาการปวดรุนแรง กว่าโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เสียอีก นอนตอนกลางคืนจะปวดมากจนนอนไม่หลับ เวลาเปลี่ยนท่า อย่างการเดินแรกๆ มักจะปวดตะโพกลงขา แต่พอเดินๆ ไประยะหนึ่งจะค่อยๆ หายปวดขา ถ้าเป็นที่กล้ามเนื้อต้นคอ เวลาขยับกล้ามเนื้อคอจะมีอาการปวดเสียวอาการปวดตามบ่า ไหล่ ตะโพกที่ค่อยๆ ขยายวงกว้างขึ้นจนไปถึงปลายมือ ปลายเท้า ไม่ว่าจะกินยาขนานใดก็ตาม ไม่มีทีท่าว่าจะหายขาดนั้น คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเป็นสาเหตุมาจากกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทแต่ไม่ใช่ ทั้งหมด เพราะคนไข้บางรายที่ตรงไปพบแพทย์ด้วยอาการที่ว่าอาจจะพบความผิดปกติของหมอน รองกระดูกสันหลังที่อาจเกิดขึ้นตามวัยด้วย บางรายยอมที่จะเจ็บตัวกับการผ่าตัดทว่าอาการของโรคก็ดูเหมือนจะยังไม่หายไป อย่างแรงเหมือนไฟฟ้าช็อตไปที่แขนได้ ซึ่งอาการนี้คล้ายคลึงกับในโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมาก” น.อ.นพ.ทายาท บูรณกาล ผู้อำนวยการสถาบันโรคกระดูกสันหลัง กรุงเทพ ระบุ 
จาก สาเหตุนี้จึงทำให้หลายบริษัทและองค์กรต่างๆ หันมาส่งเสริมกิจกรรมการออกกำลังกายด้วยท่าบริหารร่างกายในเวลาทำงานให้กับ พนักงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีวิธีง่ายๆดังนี้ครับ

  1. เวลายืนอยู่กับที่

    เราสามารถใช้ท่ายืนอยู่กับที่ให้เป็นประโยชน์ได้ ในท่ายืนนั้นสามารถช่วยเผาผลาญแคลลอรี่ได้ง่ายๆ

    • ยืนพูดโทรศัพท์หรือส่งข้อความจากโทรศัพท์มือถือ
    • ยืนประชุมเพื่อคิดงานแทนนั่ง
    • ยืนรับประทานอาหาร
    • ลุกขึ้นยืนประมาณ 3-5 นาที ทุกๆ 3 ช.ม.
  2. เวลาพักกลางวัน

    เราทุกคนควรใช้เวลาพักทานกาแฟหรือพักทานอาหารกลางวันให้เป็นประโยชน์ เช่น เดินเร็ว หรือเดินรอบบริเวณอาคารพร้อมๆกับการยืดเส้นยืดสาย ยืดกล้ามเนื้อไปด้วย

    • ก้มลงไปจับนิ้วเท้า
    • ก้มศีรษะลงและให้คางแตะที่หน้าอกจนรู้สึกตึงที่บริเวณหลังและลำคอ
    • ยกไหล่ทั้งสองข้างขึ้นให้ถึงระดับหู
    • ยกแขนข้างขวาและพับแขนลงมา ทำให้ข้อศอกตั้งฉาก จากนั้นใช้แขนซ้ายดันไปที่ข้อศอกจนรู้สึกตึง ทำซ้ำข้างละ 2 นาที
  3. การใช้อุปกรณ์ยกนํ้าหนัก
    ควร มีดัมเบลเล็กๆที่ไม่หนักมากไว้ในที่ทำงาน ดัมเบลสามารถเป็นตัวช่วยในการออกกำลังกายที่แแขนและขา เพื่อผ่อนคลายจากอาการตึงของกล้ามเนื้อได้
  4. ใช้บันไดแทนลิฟท์หลังอาหารกลางวัน
    การ เดินขึ้นบันไดหลังรับประทานอาหารกลางวันเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ค่อยอยากทำ แต่หากคุณเดินขึ้นบันไดเพียงแค่ 2-3 ขั้น ก็ถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีทีเดียว
  5. เดินมาทำงาน
    หาก คุณอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน แทนที่จะขับรถมาทำงาน ลองหันมาเดินหรือปั่นจักรยานแทนก็เป็นการออกกำลังกายที่ดี หากต้องขับรถมาทำงานก็ควรเลือกที่จะจอดรถให้ไกลจากที่ทำงานซักนิด เพื่อทิ้งระยะในการเดินเข้าที่ทำงาน เพียงเท่านี้ก็เป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ง่ายๆ

เมื่อคุณเริ่มจัดตารางเพื่อออกกำลังกายในที่ทำงาน คุณก็จะเห็นได้ทันทีว่า เพียงไม่กี่นาทีเราก็สามารถดูแลสุขภาพเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเรา แบบไม่มีข้อจำกัด
มาออกกำลังกายกันเถอะครับ 
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=761&sub_id=95&ref_main_id=2

อัพเดทล่าสุด