ปลูก MQ ให้งอกงาม


791 ผู้ชม


พอจะพูดถึงคุณธรรม จริยธรรม ใครได้ยินได้ฟังมักร้อง         พอจะพูดถึงคุณธรรม จริยธรรม ใครได้ยินได้ฟังมักร้อง"ยี้"นำมาก่อนนะคะ กลายเป็นของแสลงไป แล้วยิ่งบอกว่าจำเป็นที่จะต้องเริ่มปลูกฝังในเด็กเล็กๆ ก็พากันส่ายหัว ไม่รู้วิธี หรือไม่เข้าใจว่าจะทำได้อย่างไร 
เห็นทีต้องพาไปจับเข่าคุยกับอาจารย์บุญยาพร อูนากูล หัวหน้ากลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนสาธิต มศว.ประสานมิตร และผู้จัดการโรงเรียนอนุบาลอูนากูล ซึ่งได้ให้แง่คิดดีๆ(และเข้าใจง่าย) เกี่ยวกับการปลูกฝัง MQ (Moral Quotient) หรือคุณธรรมจริยธรรมในเด็กเล็ก ว่า
"เด็กจะซึมซับพฤติกรรมจากพ่อแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ค่ะ ถ้าแม่อารมณ์ดี คิดดี ทำดีอยู่เสมอ เมื่อเด็กคลอดออกมา เขาก็จะมีจิตใจที่แจ่มใส เบิกบาน บริสุทธิ์ พร้อมที่จะรับการปลูกฝังสิ่งที่ดีงามแก่ชีวิต ช่วงอายุ 0-6 ปีของเด็ก ถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดในชีวิต พ่อแม่ปฏิบัติตนต่อลูกและต่อคนรอบข้างอย่างไร เมื่อลูกเติบโตขึ้นเขาก็จะแสดงพฤติกรรมนั้นออกมา"
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น อ.บุญยาพร ได้ยกตัวอย่างโรงเรียนที่ท่านดูแลอยู่ให้เราฟัง
"อย่างที่โรงเรียนอนุบาลอูนากูล ครูจะฝึกให้เด็กเรียนรู้เรื่องจริยธรรมและพุทธศาสนา โดยจัดให้มีพระภิกษุมาแสดงธรรมทุกวันสำคัญทางศาสนา เด็กๆจะมีส่วนร่วมเวียนเทียนรอบพระพุทธรูปบริเวณหน้าโรงเรียน และในทุกๆ เช้า เด็กๆ และครูอาจารย์จะร่วมกันใส่บาตรพระสงฆ์ ที่เรามีกิจกรรมแบบนี้เพราะเราเห็นว่า พระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ สามารถโน้มน้าวให้คนทำความดี แม้กระทั่งเด็กเล็กๆ ถึงเขาจะยังไม่เข้าใจความหมายมากนัก แต่การได้ปฏิบัติเป็นประจำ จะทำให้เขาซึมซาบกิจกรรมเหล่านี้ และปฏิบัติจนเป็นนิสัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้พ่อแม่และครู เป็นบุคคลสำคัญที่สุด ที่จะถ่ายทอดให้เขาค่ะ"
และอาจารย์ยังได้แนะนำกิจกรรมง่ายๆ ที่จะฝึกลูกให้เป็นคนดี โดยนำมาจากเอกสารวิชาการของ อาจารย์อำไพ สุจริตกุล ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจและง่ายต่อการปฏิบัติมากค่ะ โดยแบ่งเป็นเรื่องๆดังนี้
ช่วยผู้อื่นได้ความรัก
เป็นการฝึกให้เด็กๆ ของเราเป็นคนมีน้ำใจ ไม่หวงของ รู้จักแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น
1. ให้ลูกช่วยงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เช่น จัดของ เก็บของเล่นเข้าที่ กวาดบ้าน หยิบของให้ผู้ใหญ่ ฯลฯ เท่าที่ความสามารถตามวัยของเขาจะอำนวย
2. สอนลูกให้รู้จักแบ่งของให้ผู้อื่นยืม เช่น ถ้ามีเพื่อนมาเล่นที่บ้านก็ให้เพื่อนยืมของเล่น หรือไปโรงเรียน เพื่อนลืมนำดินสอมา ก็ให้เพื่อนยืม แต่อย่าลืมสอนลูกเตือนเพื่อนให้คืนด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นของอาจจะหายหมดได้
3. ช่วยผู้ใหญ่ถือของ คือเวลาเห็นผู้ใหญ่ถือของมากๆ ก็เสนอตัวเข้าไปช่วยเท่าที่ความสามารถของลูกจะทำได้ หรือเราหัดให้เขาช่วยเราก่อน เช่น เวลาไปซื้อของก็แบ่งถุงให้เขาถือ ชมเชยเขาที่ได้ช่วยเรา เมื่อเขาเห็นผู้อื่นเขาก็จะเกิดความอยากช่วยขึ้นเอง
ใส่ใจเรื่องศาสนา
บอกให้เขารู้ว่าประโยชน์ของศาสนามีอะไรบ้าง แล้วเขานับถือศาสนาอะไร ให้เขามีส่วนร่วมในกิจกรรมเกี่ยวกับศาสนา เช่น ช่วยพ่อแม่ใส่บาตร ช่วยเตรียมดอกไม้บูชาพระ ช่วยถวายของพระเวลาไปวัด หมั่นพาลูกไปวัดบ่อยๆ และฝึกให้ลูกนั่งสมาธิแม้จะเพียงเวลาสั้นๆ ก็เกิดประโยชน์
ปลูกฝังความกรุณา
สอนให้เขารู้ว่าการช่วยเหลือผู้ที่ลำบาก ตกทุกข์ได้ยากนั้นได้บุญ เราต้องช่วยเหลือผู้อื่นถ้าเราสามารถทำได้ ที่สำคัญ พ่อแม่ต้องทำให้ลูกดูก่อนนะคะ ลูกจึงจะเชื่อ
คำสัญญา
ลองตั้งคำมั่นสัญญาง่ายๆกับลูกดูสิคะ เช่น หนูจะรักเพื่อน หนูจะไม่รังแกสัตว์ หนูจะไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน หรือแล้วแต่สถานการณ์ที่คุณอยากให้ลูกปฏิบัติ แล้วก็ให้เจ้าตัวเล็กท่องก่อนนอนทุกคืน ลูกจะได้จำไว้และให้เขานำไปปฏิบัติด้วยนะคะ
นอกจากวิธีเหล่านี้แล้ว พ่อแม่สมัยใหม่ยังสามารถหาวิธีอื่นอีกมากมายมาประยุกต์ใช้ในการอบรมสั่งสอน ลูก และนิทานก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ
"นิทานเป็นสื่อที่เด็กสามารถรับรู้ได้ง่ายที่สุด แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะหาแต่นิทานฝรั่งที่มีภาพสวยงาม แต่เนื้อหาไม่ให้อะไรเลย ลองมองดูนิทานไทยๆ ที่แต่งโดยคนไทยสิคะ ยิ่งถ้าเป็นคำกลอนอ่านคล้องจองกันเด็กจะยิ่งชอบ ที่สำคัญเนื้อหาของเรื่องต้องไม่ยาวมากแต่มีคติสอนใจ สอนให้ทำความดี สอนให้ช่วยเหลือผู้อื่น อ่านให้ลูกฟังทุกวันลูกจะซึมซับเรื่องราวเหล่านั้นได้ค่ะ"
มาถึงตรงนี้อาจารย์เล่าให้ฟังถึงนักเรียนตัวน้อยๆ ในโรงเรียนอนุบาลอูนากูล เกี่ยวกับวิธีการสอนของอาจารย์ให้เด็กๆมีจิตใจเมตตา
"จะมีเด็กฝาแฝดอยู่คู่หนึ่งค่ะ ค่อนข้างจะซนๆ วันหนึ่งอาจารย์เดินมาเห็นเขาสองคนกำลังเอามือตบพื้นกันใหญ่ ก็ถามว่าทำอะไรกันอยู่คะ มองไปเห็นเขากำลังตีมดอยู่ ตกใจมากค่ะ ปกติจะเป็นคนที่ไม่ทำร้ายชีวิตผู้อื่น อาจารย์ก็เลยคุยกับเด็กทั้งสองคนว่า ถ้าหนูทำอย่างนี้ มดก็ไม่ได้กลับบ้านสิคะ ไม่สงสารเขาหรือ เขาอาจจะกำลังกลับบ้านไปหาคุณพ่อคุณแม่ก็ได้นะ ดูสิหนูตีเขาตาย วันนี้พ่อกับแม่ของเขาก็ไม่ได้กอดลูกอีกแล้ว เด็กทั้งสองตั้งใจฟังมาก และเขาก็ไม่ตีมดอีกค่ะ"
เห็นไหมคะ ถ้าเรามีวิธีการพูดที่ดี เด็กๆเขาก็จะรับฟังและปฏิบัติตาม การปลูกฝังความดีงามให้จิตใจน้อยๆ ของลูกนั้นทำได้ไม่ยาก ขอให้พ่อแม่อย่างเราเป็นคนดี เป็นแบบอย่างที่ดี ลูกไม้ของคุณคงหล่นไม่ไกลต้นหรอกค่ะ
............................................................................
กิจกรรมสร้าง MQ
ปลูกฝังความดีให้เด็กก็ไม่ต่างอะไรกับการปลูกต้นไม้ จะให้เจริญงดงามต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ โดยผ่านกิจกรรมง่ายๆ ที่คนในครอบครัวได้ทำร่วมกัน
1. เก็บข้าวของเหลือใช้ไปบริจาคให้คนยากจน พร้อมกับสอนลูกๆ ให้มีจิตใจเอื้อเฟื้อผู้อื่น
2. ปล่อยสัตว์ เป็นการให้ชีวิตกับพวกเขา เช่นไปซื้อกบที่ตลาดกับลูกแล้วนำไปปล่อยก่อนที่มันจะถูกฆ่า
3. ชวนกันไปวัดในวันสำคัญทางศาสนา ถ้าให้ดีไปบ่อยๆ และให้ลูกมีส่วนร่วมในการเตรียมของถวายพระ หรือเตรียมของใส่บาตร
4. สอนให้ลูกเคารพผู้ใหญ่และมีความกตัญญู โดยพาไปหาญาติผู้ใหญ่บ่อยๆ และคอยช่วยงานบ้าน เช่น พ่อสอนให้ลูกช่วยแม่กวาดบ้าน แม่สอนให้ลูกช่วยพ่อล้างรถ ที่สำคัญต้องสอนให้เขารู้จักทดแทนพระคุณแก่ผู้มีพระคุณด้วย
5. พูดจาไพเราะ และฝึกมารยาทไทยๆ ไม่ให้สูญหายไป เช่น การไหว้ การกราบ
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=709&sub_id=2&ref_main_id=2
 

อัพเดทล่าสุด