วิธีแก้ปัญหาลูกชอบอมข้าว


838 ผู้ชม


ปัญหาลูกชอบอมข้าวเป็นอีกปัญหาใหญ่ของคุณแม่หลายๆ ท่าน จนกลายเป็นเรื่องกังวลใจ จนเกิดเป็นคำถามในใจที่ว่า ลูกอมข้าวทำไงดี ?         ปัญหาลูกชอบอมข้าวเป็นอีกปัญหาใหญ่ของคุณแม่หลายๆ ท่าน จนกลายเป็นเรื่องกังวลใจ จนเกิดเป็นคำถามในใจที่ว่า ลูกอมข้าวทำไงดี ? 
เนื่องจากว่าคุณแม่ทั้งหลายห่วงสุขภาพของลูกน้อยกลัวจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและอาจจะทำให้เกิดฟันผุอีกด้วย คุณแม่อาจจะหาวิธีต่างๆ มาหลอกล่อลูกน้องหนูเพื่อไม่ให้ ลูกชอบอมข้าว วิธีเหล่านี้จะได้ผลแค่เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น 
           
            วันนี้เรามีข้อแนะนำวิธีแก้ปัญหาลูกชอบอมข้าวมาฝากกันค่ะ เด็กในช่วงอายุ 1-3 ขวบมักจะมีปัญหาที่เกิดจากการอมข้าว ไม่ชอบเคี่ยวข้าว หรือเคี่ยวข้าวช้า จนคุณแม่คุณพ่อหลายๆ ท่านกัวงลใจเป็นอย่างมาก แต่นับจากนนี้คุณแม่และคุณพ่อจะไม่พบเจอกับปัญหาเหล่านั้นและคำถามที่ว่า ลูกอมข้าวทำไงดี ? อีกไปค่ะ เพราะวิธีแก้ปัญหาลูกชอบอมข้าวที่นำมาฝากกันในวันนี้สามารถรับมือกับความดื้อดึงที่ไม่ชอบเคี้ยวข้าวของเจ้าหนูน้อยได้เป็นอย่างดี ถ้าพร้อมแล้วมารับมือกับปัญหา ลูกอมข้าวทำไงดี ? ไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ
            เหตุที่เด็กในวัยปฐมวัย (พบมากเมื่อลูกอายุ 1-3 ขวบ) มักจะชอบอมข้าวเอาไว้ในปากนานๆ นั้น มีหลายสาเหตุ แต่โดยมากมักเกิดจากการที่ลูกมักจะห่วงเล่นหรือยังติดกับการดูดอาหารหรือไม่ได้รับการฝึกการเคี้ยวอย่างถูกต้อง รวมถึงบางครั้งลูกก็มัวแต่สนใจสิ่งรอบตัว (ทั้งของเล่น โทรทัศน์ เสียงรอบข้างต่างๆ ฯลฯ) ทำให้เด็กไม่สนใจในการกินอาหาร เมื่อคุณพ่อคุณแม่ป้อนอาหารเด็กก็ยังไม่ละความสนใจจากสิ่งต่างๆ จึงอมข้าวไว้ในปากก่อนนั้นเอง เราควรที่จะทำให้สุขภาพจิตของลูกเรามีสมาธิมากขึ้น การอมข้าวก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนค่ัะ ลองมาดูวิธีแก้ไขง่ายๆ ดังนี้ค่ะ 
1. ฝึกให้ลูกกินอาหารเป็นเวลา คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกกินอาหารตรงเวลาตามมื้ออาหารปกติ (เช้า กลางวัน เย็น) โดยเมื่อถึงมื้ออาหารคุณพ่อคุณแม่ควรจะนั่งกินอาหารพร้อมกับลูกบนโต๊ะอาหารด้วย อย่าปล่อยให้ลูกนั่งกินกับพี่เลี้ยง หรือนั่งกินหน้าโทรทัศน์และคุณพ่อคุณแม่เองก็ควรจะกินข้าวพร้อมกับลูกไปด้วย
2. กะปริมาณให้อาหารพอเหมาะการตักข้าวให้ลูกหรือส่วนผสมของอาหารควรตัดเป็นชิ้นพอดีคำเพื่อให้ลูกเคี้ยวได้ง่าย และปริมาณของอาหารควรให้แต่น้อยเมื่อลูกกินหมดค่อยเพิ่มทีละนิดโดยเมื่อลูกกินข้าวในจานหมดก็อย่าลืมชมเชยลูกด้วยนะค่ะ
3. ให้ลูกสนุกกับการกิน เพราะลูกจะสนุกและเริ่มมีสุขภาพจิตที่ดีต่ออาหารพยายามเสริมอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างเช่นผักไปในอาหารโปรดลูกด้วยนะค่ะ

ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=1958&sub_id=47&ref_main_id=11

อัพเดทล่าสุด