ยาคุมกำเนิด กับการรักษาสิว ผิวหน้ามัน ขนดก


1,566 ผู้ชม


  • ปกติ ทั้งเพศชายและเพศหญิง ต่างมีฮอร์โมนเพศในร่างกาย ทั้ง 2 ชนิด คือ Androgen(ฮอร์โมนเพศชาย) และ Progesterone(ฮอร์โมนเพศหญิง) แต่อ�
��ู่ในระดับที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเพศ วัย กรรมพันธุ์
  • ในผู้หญิง ที่มีระดับแอนโดรเจนสูง มักมีลักษณะคล้ายเพศชาย คือ ผิวหน้ามัน เป็นสิวได้ง่าย ขนตามแขนขาดก และอาจมีปัญหาผมร่วงได้ง่ายกว่าผู้หญิงที่มีระดับแอนโดรเจนต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกัน
  • ในผู้ชาย ที่มีระดับฮอร์โมน Progeterone สูง ก็จะมีลักษณะคล้ายเพศหญิง คือ ขนน้อย ผิวหน้าแห้ง ไม่ค่อยเป็นสิว ดังนั้นในผู้ชายนะยะ! บางคนจึงนิยมกินยาคุมกำเนิด เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศหญิงชนิดนี้
  • ผลของฮอร์โมน Androgen คือ จะทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันเพิ่มมากขึ้นกว่าภาวะปกติ ที่เรียกว่าภาวะ Androgenization ได้แก่ เกิดสิว ผิวมัน และขนตก
  • ดังนั้นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงต้องทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันลดลง ซึ่งในกลุ่มยาคุมกำเนิดจะมีส่วนประกอบของฮอร์โมน Progesterone เฉพาะชนิดที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมน Angrogen ได้ จึงสามารถทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันลดลงได้ แต่การทำงานดังกล่าวอาจรบกวน การมีประจำเดือนในผู้หญิงได้ จึงได้มีการเสริมฮฮร์โมนเพศหญิงคือ Estrogen ร่วมด้วย จึงอยู่ในลักษณะคล้ายยาคุมกำเนิด คือบรรจุเป็นแผง 21เม็ด ที่นิยมใช้ในคลินิกผิวหนังก็คือ Dian-35 ,Jasmin ,ฯลฯ
  • ในผู้ชายไม่สามารถใช้ยาคุมกำเนิด เช่น Dian-35 ในการรักษาสิว หรือควบคุมความมันได้ เนื่องจากมีผลข้างเคียงทำให้ นมโตได้
  • การรับประทานยาในแผงแรก คือ ในวันที่1 ของรอบเดือน (วันแรกที่มีประจำเดือน) รับประทานติดต่อกันทุกวัน และควรเป็นเวลาใกล้เคียงกัน จนครบ 21 วัน หลังจากนั้นหยุดยา 7 วัน เพื่อให้มีประจำเดือนตามรอบเดือนปกติ และเริ่มแผงใหม่หลังมีประจำเดือนวันแรกเช่นกัน
  • ผลการรักษาหลังรับประทานหมด 1 แผง จะพบว่าความมันบนใบหน้าลดลง และสิวเริ่มดีขึ้น เมื่อรับประทานต่อ 2-3 แผง และสิวมักจะหายสนิท หลังรับประทานยา ครบ 6-8 แผง หรือ ใช้เวลา 6-8 เดือน
    เรียบเรียงใหม่โดยนพ.จรัสพล รินทระ ............10/5/2005

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=3&sdata=&col_id=24

อัพเดทล่าสุด