Paronychia ภาวะการอักเสบของขอบเล็บ


9,318 ผู้ชม


  • การอักเสบของขอบเล็บ( nail fold) พบได้บ่อยๆ และคนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าเล็บติดเชื้อรา ซึ่งเป็นการเข้าใจที่ผิด ภาวะอักเสบนี
้ ส่วนใหญ่มักพบที่บริเวณโคนเล็บ และมักจะเป็นเรื้อรัง แต่ก็อาจพบการอักเสบแบบเฉียบพลันได้ ซึ่งมักเกิดภายหลังการบาดเจ็บ เช่น ถูกกด หรือ ถูกทิ่มตำที่เล็บ หรือตัวเล็บเองงอกแทงเข้าไปในผิวหนัง แล้วเกิดการติดเชื้อที่เรียกว่า 'เล็บขบ'
  • เล็บอักเสบเรื้อรัง พบได้บ่อยกว่า ดังในภาพที่ 2-3 ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค คือ การที่มือและเท้าเปียกน้ำอยู่เสมอ เช่น คนทำครัว แม่ค้าขายของสด ช่างทำเล็บ ช่างสระผม แล้วทำให้หนังคลุมเล็บ(cuticle) เปื่อยยุ่ยหลุดออกไป จนเกิดรอยแยกระหว่างเล็บกับบริเวณโคนเล็บ ดังภาพที่ 2 ทำให้น้ำและเชื้อโรคสามารถแทรกซืมเข้าไปในขอบเล็บ เกิดการอักเสบและติดเชื้อภายหลัง
  • เชื้อโรคที่ทำให้เกิดมักไม่รุนแรง ส่วนใหญ่เป็นพวกยีสต์ กลุ่ม Candida ทำให้ผู้ป่วยไม่ค่อยไปพบแพทย์ จนเกิดอักเสบเรื้อรัง เป็นระยะเวลานานจนเล็บเสียรูปร่าง( dystrophy) แต่ก็อาจติดเชื้ออื่นได้ ในรายที่รุนแรง อาจพบอักเสบเป็นหนอง บวมแดง ปวดได้
  • การอักเสบขอบขอบเล็บ แยกได้ง่ายจากเชื้อราที่เล็บ เพราะ ขอบเล็บจะนูน พบรอยแยกบริเวณใต้โคนเล็บ และเล็บไม่เปื่อยยุ่ยเป็นขุย เหมือนในการติดเชื้อราที่เล็บ แต่อาจพบเล็บขรุขระบ้าง
  • แนวทางการป้องกันและรักษา 
        1. กรณีที่อักเสบเฉียบพลัน มีบวมแดง ปวด อาจต้องพบแพทย์ เพื่อให้ยาปฏิชีวนะ และยาแก้ปวดอักเสบ 
        2. กรณีที่เล็บขบ จากตัวเล็บเอง อาจต้องทำการถอดเล็บออกบางส่วน 
        3. กรณีทีเป็นเรื้อรัง ควรพยายามให้มือและเท้าแห้งอยู่เสมอ เพื่อให้ร่างกายสร้างหนังคลุมเล็บขึ้นมาใหม่ 
        4. อาจใช้ครีมทาต้านเชื้อรา ทาบริเวณขอบเล็บ เพื่อป้องกันการติดเชื้อราที่เล็บ แทรกซ้อน 
    เรียบเรียงใหม่โดย นพ. จรัสพล รินทระ ..........24/3/48

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=8&sdata=&col_id=60

อัพเดทล่าสุด