แอปเปิ้ลไซเดอร์ สิว น้ําหมัก แอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ําหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์


2,248 ผู้ชม


แอปเปิ้ลไซเดอร์ สิว น้ําหมัก แอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ําหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์

 

 

แอปเปิ้ลไซเดอร์ สูตรลับความสวยของคนรักสุขภาพ
พูดถึง “แอปเปิ้ล” หรือ “ราชาแห่งผลไม้” เป็นได้เรียกความสนใจจากสาวๆ กันได้ถ้วนหน้า ด้วย
สรรพคุณมากมาย ทั้งให้วิตามินชนิดต่างๆ บำรุงผิวพรรณให้สดใสชุ่มชื่น และคุณสมบัติสำคัญที่สุด นั่นก็คือ
การลดความอยากอาหาร แล้วยังช่วยเรื่องระบบของการย่อยอาหารได้ดีเยี่ยม นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้
เหล่าบรรดาผู้ผลิตอาหารเพื่อสุขภาพนำแอปเปิ้ลมาเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักตัวชูโรงช่วยรักษาสุขภาพ ซึ่ง
ได้ผลดีและมีคุณค่าอย่างน่าอัศจรรย์ใจ


บรรดาอาหารสุขภาพที่น่าสนใจ ก็คือ “แอปเปิ้ลไซเดอร์” หรือที่เราเรียกกันว่า น้ำส้มสายชูหมัก ที่เกิด
จากการหมักแอปเปิ้ลสด ซึ่งปลูกโดยไม่มีการใช้สารเคมีเจือปนนำมาบด และปล่อยให้เกิดการหมักตัวใน
ถังไม้ที่มีคุณภาพดี พอถึงอายุเหมาะสม น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล จะประกอบไปด้วยเส้นใยบางๆ ที่
เรียกว่า มาเธอร์ (Mother) เห็นได้ชัดเมื่อยกขึ้นส่องกับแสง

…เส้นใยบางๆ ที่มีมาเธอร์อยู่ในแอปเปิ้ลไซเดอร์ คือส่วนที่มีสารอาหารมากที่สุด และดีต่อระบบย่อย
อาหารอย่างมาก การผ่านความร้อนจะทำลายมาเธอร์ที่มีอยู่ในน้ำส้มสายชูหมัก สิ่งนี้จึงทำให้น้ำส้มสายชู
หมักแอปเปิ้ลนี้แตกต่างจากน้ำส้มสายชูทั่วไปในท้องตลาดที่ผ่านการกลั่นกรอง…

ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล อุดมด้วยแร่ธาตุอาหารต่างๆ เช่น โพแทสเซียม ซึ่งเป็นสาร
อาหารที่สำคัญของเซลล์ในร่างกาย ช่วยให้เซลล์มีความแข็งแรง และเป็นส่วนที่ช่วยให้เส้นเลือดแดง
ของมนุษย์มีความยืดหยุ่นได้ดี เบต้าแคโรทีน พบในแอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารได้
ง่าย ผลการวิจัยพบว่า การบริโภคอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด
โรคมะเร็ง กรดอะซิติก สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก กรดนี้สารมารถดึงไขมันออกจากเซลล์ไปใช้
เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานต่อไปได้ นอกจากนี้ยังมี ไฟเบอร์ ช่วยในการดึงคอเลสเตอรอลออกจากร่าง
กายได้เป็นอย่างดี และวิตามินต่างๆ อาทิ ซี บี1 บี2 และ เอ

ด้วยความเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อาทิ ดิ เอ็มโพเรี่ยม, ฟู้ดแลนด์,
โกลเด้น เพลซ และวิลล่า ซูเปอร์มาร์เก็ตนั่นเอง จึงทำให้เป็นที่นิยมของผู้รักสุขภาพ สาวๆ ผู้รักสุข
ภาพความงามสามารถนำน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมาใช้ได้สารพัดประโยชน์ เช่น ผสมเป็นเครื่องดื่ม
เพื่อสุขภาพ ทำน้ำสลัด ปรุงอาหาร หรือ ใช้ทาผิวก็ได้ด้วย

อีกหนึ่งสูตร น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ปั่น ซึ่งทำได้ง่ายมาก ส่วนผสมก็มีแอปเปิ้ลแดงหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย น้ำ
แอปเปิ้ล ? ถ้วย แอปเปิ้ลไซเดอร์วีนีก้า 2-3 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือสารให้ความหวาน
1 ซอง น้ำแข็งเล็กน้อย ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนละเอียด แก้วนี้อุดมไปด้วยโพแทสเซียม และไฟ
เบอร์

สำหรับสาวๆ และคนทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำคงจะตื่นตาตื่นใจไม่น้อยกับความเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่
ของอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งง่ายและสะดวกในการเลือกรับประทานขึ้นด้วย

ดูแลสุขภาพกันเถอะ
ช่วงหลังๆ รู้สึกว่าตัวเองทานอาหารเย็นแล้วท้องอืดบ่อยๆ
ประมาณว่าอาหารไม่ย่อย ทานเยอะไม่ได้ ทานดึกไม่ได้
ทรมาณมากๆ เพราะ The Gang มักจะตั้งก๊วนทานข้าวเย็นกันประมาณทุ่มสองทุ่มแถมยังตระเวนไปหา
ร้านอร่อยๆ กินกันอีกต่างหาก
หลังจากทรมานอยู่พักใหญ่ก็เลยบ่นๆ ให้คนแถวๆ นี้ฟัง
ท่านหมึกดำผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารอร่อยก็ให้คำแนะนำว่าเราควรจะทาน แอปเปิล ไซเดอร์ เวเนการ์
กับน้ำผึ้ง เพื่อช่วยระบบย่อยอาหาร (เมตาบอลิซึ่ม อะไรประมาณนี้) โดยให้สูตรมาว่าทุกๆ เช้าหลังจาก
ตื่นนอน ให้ดื่ม แอปเปิล ไซเดอร์ เวเนการ์ กับน้ำผึ้ง อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายในน้ำเย็น 1 แก้ว

เคยได้ยินสรรพคุณของแอปเปิล ไซเดอร์มาพักใหญ่ ว่าช่วยบรรเทาอาการของคนเป็นไซนัส บ้างละ ช่วย
ลดโคเลสเตอรอลบ้างละ แต่ตัวเองก็ไม่เคยลอง งานนี้ก็เลยเชื่อหมึกดำไว้ก่อน ทั้งสองอย่างสามารถหา
ซื้อได้จากซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ขวดละประมาณแปดสิบกว่าบาท แถมตอนนี้ไฮซ์ มีแพ
คเกจขายแอปเปิลไซเดอร์ เวนการ์กับน้ำผึ้งเป็นชุดอีกต่างหาก โฆษณาบนกล่องประมาณว่าของขวัญจาก
ธรรมชาติ

เราลองทานมาสัปดาห์นึงแล้ว รู้สึกว่าระบบย่อยและระบบขับถ่ายดีขึ้น
ตัวเองชอบอาหารรสเปรี้ยวอยู่แล้วก็เลยเอร็ดอร่อยจนสองวันที่ผ่านมาขยับเป็นทานเช้า 1 แก้ว และก่อน
นอน 1 แก้ว

เริ่มแนะนำให้คนรอบข้างทานบ้างก็ได้คำตอบกลับมาว่าเป็นสูตรลดน้ำหนัก
ก็เลยเริ่มรู้สึกว่าทำไมเราไม่หารายละเอียดสรรพคุณจริงๆ เนี่ย ฟังมาก็เชื่อเฉยเลย

เจอแล้วหล่ะสรรพคุณเยอะเลย (ชะลอความแก่ด้วยอ่ะ)
มาดูแลสุขภาพกันเถอะ

แอปเปิล ไซเดอร์ วีนีการ์ (APPLE CIDER VINEGAR) VS
น้ำผึ้ง(HONEY BEE)
ส่วนที่ 1 ว่าด้วยแอปเปิล ไซเดอร์ วีนีการ์ (ACV)
ACV คือ น้ำส้มสายชูหมักจากผลแอปเปิล มีคุณสมบัติเป็นกรดสูง รสเปรี้ยวจัด มีส่วนประกอบของ
กรด 5 % ( 5%Acetic Acid) มีสีเหลืองคล้ายสีชา มีส่วนประกอบของธาตุโพแทสเซี่ยมสูง
ซึ่งธาตุโพแทสเซี่ยมมีคุณสมบัติ ช่วยในการแบ่งเซลล์ ถ้าร่างกายขาดธาตุนี้ ร่างกายจะมีอาการ
ผิดปกติคือ เติบโตช้า แก่เกินวัย ผมร่วง และหงอกเร็ว ฯลฯ และ ACV ยังประกอบด้วยธาตุ
อาหารกว่า 30 ชนิด มีวิตามินมากกว่า 6 ชนิด มีกรดอะมิโน และสารเพ็คติน ล้วนแต่เป็น
ประโยชน์แก่ร่างกายทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเป็นยาอีกด้วย คือเป็นพวก ยาปฏิชีวนะ ยา
ฆ่าเชื้อ และมีเอนไซม์หลายชนิดรวมอยู่ด้วย
ACV ช่วยร่างกายได้หลายประการ กล่าวคือ
1. ชะลอความแก่ ช่วยให้เป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่เสมอ
2. ช่วยย่อยอาหาร คือช่วยระบบย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
3. ช่วยระบบหายใจ แก้ไซนัส แก้เจ็บคอ แก้หวัด แก้การเกิดเสมหะ
4. ช่วยลดน้ำหนักได้ดี
5. ช่วยลดการปวดข้อ
6. แก้โรคคัน กำจัดรังแค แก้ผมแตกปลาย
7. ช่วยความจำให้ดีขึ้น
8. ป้องกันโลหิตจาง
9. แก้อ่อนเพลีย
ส่วนที่ 2 ว่าด้วยน้ำผึ้ง (HONEY BEE)
น้ำผึ้งเป็นผลิตผลของน้ำหวานจากดอกไม้ แหล่งน้ำหวานอื่นๆ ที่ผึ้งเก็บมา และผ่านการเปลี่ยน
แปลงทางเคมีจากเอนไซม์ในต่อมน้ำลายของผึ้งที่ขับออกมา แล้วเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคส
และฟรุกโตส ให้เป็นน้ำตาลแปรรูป ซึ่งเป็นน้ำตาลเชิงเดี่ยว ได้แก่ น้ำตาลกลูโคส 38.19%
และเดกโทรส 31.28 % นอกจากนั้นเป็นน้ำตาลเชิงคู่ และเชิงซ้อนอีก 10% และยังมีแร่ธาตุที่
เป็นประโยชน์อีกมากมาย ได้แก่ โพแทสเซี่ยม แคลเซี่ยม โซเดียม ฟอสฟอรัส ซัลเฟอร์ เหล็ก
แมงกานีส นอกจากนั้นยังมีพวกน้ำย่อย เช่นเอนไซม์กลูโคออกซิเดส ที่ทำหน้าที่เปลี่ยน น้ำตาล
กลูโคส เป็นกรดกลูโคนิค และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งตัวหลังนี้มีคุณสมบัติยับยั้งและทำลาย
เชื้อโรคได้ น้ำผึ้งมีวิตามินอยู่หลายชนิด ได้แก่ วิตามิน บี1 วิตามิน บี 2
ไนอาซิน วิตามิน บี 6 แพนโทซินิคแอซิค และวิตามิน ซี ในปริมาณต่างๆกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของ
ดอกไม้ องค์ประกอบสุดท้ายที่มีอยู่ในน้ำผึ้ง คือ น้ำ น้ำผึ้งที่ถูกบ่มโดยสมบรูณ์จะมีน้ำอยู่ประมาณ
17-20 % เท่านั้น
ส่วนที่ 3 ว่าด้วยการใช้แอปเปิล ไซเดอร์ วีนีการ์ ร่วมกับน้ำผึ้ง
เมื่อท่านทราบคุณสมบัติของน้ำแอปเปิล ไซเดอร์ วีนีการ์ และน้ำผึ้งแล้ว ท่านจะใช้ร่วมกัน หรือ ใช้อย่าง
เดียว ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการจะใช้เพื่อรักษา หรือป้องกันโรคอะไร ดังนี้
ช่วยชะลอความแก่ (ให้หนุ่มสาวอยู่เสมอ) นำน้ำผึ้ง 1 ส่วน ACV 1 ส่วน ผสมให้เข้ากันเป็น
อย่างดี กินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ระยะตื่นนอนใหม่ๆและ ก่อนเข้านอน ควรดื่มน้ำตาม 1 แก้ว
ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ใช้ ACV อย่างเดียว 2 ช้อนชา ละลายในน้ำดื่ม 1 แก้ว
ดื่มทุกครั้ง ขณะรับประทานอาหาร
แก้ท้องร่วง ท้องเสีย ก่อนทานอาหาร 30 นาที ใช้น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ผสมกับน้ำ ACV 2ช้อนชา
ผสมกันแล้วดื่ม
แก้โรคไขข้ออักเสบ ให้ดื่มน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา หรือ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับ ACV 2 ช้อนชาหรือ 1
ช้อนโต๊ะ ดื่มน้ำตาม 1แก้วทุกครั้งหลังอาหาร
ช่วยลดน้ำหนักได้ดี ให้ใช้ ACV 1 ช้อนแกง ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนแกง แล้วผสมน้ำ grape fruit
ที่ไม่หวาน 1 แก้ว ดื่ม 30 นาที ก่อนทานอาหารทุกมื้อ
ช่วยให้ความจำดีขึ้น ให้ใช้ ACV 2 ช้อนชาผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ดื่มน้ำตาม 1 แก้ว ดื่มวันละ 2
ครั้ง ตื่นนอนตอนเช้าและก่อนนอน
แก้ปลายผมแตกแห้ง กำจัดรังแค หรือคันศรีษะ เนื่องจาก ACV เป็นกรดสูง และมีเอนไซม์
ประกอบด้วยหลายชนิด จึงสามารถรักษามิให้ผิวหนังมีโรครังแค หรือ ผมแห้ง หรือคันศรีษะได้
การรักษา คือ เอาสำลี จุ่มน้ำจนเปียกแล้วจุ่ม ACV แล้วนำไปนวดหนังศรีษะ ให้หมักทิ้งไว้ 2-3
ชั่วโมง(อาจจะใช้หมวกพลาสติกครอบไว้) หลังจากนั้นสระผมด้วยแชมพู หรือ นำเอา ACV ที่
อุ่นๆ ไปทาศรีษะให้เปียกจนทั่ว แล้วใช้หมวกพลาสติกคลุมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วจึงใช้น้ำธรรมดา
ล้างออก
แก้เจ็บคอ ใช้ ACV 1 ส่วน และน้ำผึ้ง 1ส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วดื่มครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ทุกๆ 4
ชั่วโมง หรือใช้ ACV อย่างเดียว 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่น แล้วอมกลั้วคอ ทุก ๆ 1 ชั่วโมง กลั้ว
ในลำคอ ให้ลึก ไปถึงส่วนล่างของลำคอ แต่อย่ากลืนลงไปในกระเพาะ เมื่อการเจ็บคอบรรเทา
ลง ให้กลั้วคอต่อไปทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพราะ ACV ทำหน้าที่เป็นสารปฏิชีวนะ
แก้อ่อนเพลียและเมื่อยล้า หลังทำงานหนัก หรือหลังจากออกกำลังกาย แนะนำให้ท่านดื่มน้ำผึ้ง
ผสม ACV ท่านจะหายเพลียได้ โดยใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับ ACV 1ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำดื่ม
1 แก้วเต็ม ๆ
แก้ปวดหัว การปวดหัวที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจาก อาหารที่เรารับประทานเป็นด่างมากเกินไป
การทาน ACV ที่เป็นกรดอ่อนๆ ลงไป จะช่วยให้อาหารลดความเป็นด่าง คือเป็นกลาง การปวด
หัวก็จะหายไป หรือลดบรรเทาอาการปวดหลังลงได้ ทางที่ดี ท่านควรทาน ACV 2 ช้อนชา ผสม
กับ น้ำผึ้ง 2 ช้อนชาเต็มๆ ทุกครั้งที่ทานอาหาร
อนึ่งท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไต และโรคเบาหวาน ควรพบแพทย์สม่ำเสมอ ถ้าท่านจะทานน้ำผึ้ง
หรือ ACV ขอ ให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
อัตราส่วน
3 ช้อนชา = 1 ช้อนโต๊ะ
1 ช้อนชา = 5 มิลลิลิตร
1 ช้อนโต๊ะ = 15 มิลลิลิตร

แหล่งที่มา : hilunch.com

อัพเดทล่าสุด