อาการกรดไหลย้อนขั้นรุนแรง การดูแลอาการกรดไหลย้อน ลักษณะอาการกรดไหลย้อน ตอนตั้งครรภ์


10,080 ผู้ชม


อาการกรดไหลย้อนขั้นรุนแรง การดูแลอาการกรดไหลย้อน ลักษณะอาการกรดไหลย้อน ตอนตั้งครรภ์

 

 

 ประสบการณ์โรคกรดไหลย้อน เหตุมาจากความเครียด

H1
โรคกรดไหลย้อนดูจะเป็นโรคยอดฮิตในปัจจุบันใครไม่เป็นคงไม่ทันสมัย อาการของโรคก็แตกต่างกันไปไม่ชัดเจนและมีอาการไม่เหมือนกันทุกคน โรคกรดไหลย้อนเป็นโรคที่มีผู้คนในโลกไซเบอร์พูดคุยกันมานานแล้ว ในขณะที่วงการแพทย์แทบไม่มีใครออกมาพูดกันเลย และจากประสบการณ์ของผู้เขียนที่เคยสัมผัสกับโรคนี้ด้วยตนเองเมื่อ 4-5 ปีก่อน รับรู้ว่าเป็นการยากที่หมอจะวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง เพราะตัวผู้เขียนเองพยายามบอกเล่าอาการต่างๆ อย่างละเอียดไปแล้ว แต่คุณหมอต่างคิดว่าอาการน่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคกระเพาะ ฯลฯ เพราะอาการไปคล้ายคลึงกัน
โรคกรดไหลย้อนที่ผู้เขียนประสบมา ลักษณะอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเองในช่วงดึกคืนหนึ่ง เวลาสัก 24.00 น. ขณะที่นอนหลับอยู่ก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเกิดอาการปวด จุกแน่น เกร็งในท้องไปถึงหน้าอก แอร์ในห้องที่ว่าเย็นยังไม่สู้เหงื่อกาฬที่แตกผุดไปทุกขุมขนหาแผ่นดินอยู่ไม่ได้ จะนอนท่าไหนก็นอนไม่ได้เลย ยิ่งเวลานานออกไปอาการที่เป็นยิ่งหนักขึ้น ยาสารพัดชนิดที่เป็นยาสามัญประจำบ้านคว้ามากินแบบไม่ต้องสนล่ะว่าเท่าไหร่ เพื่อบรรเทาอาการปวดทรมาน ยาแก้ปวดท้อง buscopan ที่ว่าแน่...ผมกินเข้าไปทีละ 2 เม็ด ไม่เกิน 2 ชั่วโมงหมดแผง 10 เม็ดยังไม่รู้สึกดีขึ้น 
งานนี้ถ้าจะตายก็เพราะกินยาเกินขนาดไปแล้ว อาการที่เกิดขึ้นเหมือนนรกชัดๆ ทรมานมาก สุดท้ายต้องฝืนขับรถออกไปโรงพยาบาลชื่อดังแถบตลาดสะพานใหม่ ไม่นานนักผมก็ได้เข้าไปนอนห้อง ICU หมอที่ซักถามอาการยังมึน เมื่อได้กับหมอบอกว่ากิน buscopan ไป 1 แผงแล้วยังไม่หาย แต่หมอยิ่งมึนหนักพยายามวินิจฉัยว่าผมน่าจะเป็นโรคหัวใจ แหมพาออกทะเลไปเลยหมอ ทั้งๆ ที่พยายามบอกอาการกับหมอในขณะที่ความทรมานเหมือนใกล้ไปเกิดใหม่แล้ว คือมันเริ่มจุกแน่นจนหายใจไม่ออก อวัยวะทุกอย่างเกร็งและเริ่มเย็นขึ้นมาเรื่อยๆ จากปลายเท้า จนผมต้องบอกหมอว่าขอให้ฉีดยาแก้ปวดให้หน่อยได้ไหม แล้วหมอจะชวนผมขึ้นสวรรค์หรือลงนรกได้เลย 
สรุปว่าเข็มแรกจัดให้ครับ 20 นาทีก็แล้วแต่ไม่รู้สึกว่าดีขึ้นเลย เพียงแต่ตอนนี้รู้สึกว่าอยากอาเจียนมาก พออาเจียนออกมาได้นิดหน่อย อาการต่างๆ ค่อยทุเลาความทรมานลงบ้าง เรียกว่าสู้อยู่คนเดียวในห้อง ICU สุดท้ายผมขอยาแก้ปวดอีกเข็มนะคนดี แต่ดูแล้วท่าจะไม่อยากฉีดให้ เพราะหมอบอกว่าที่ผมกินและฉีดไปแล้ว มันก็เกินไปมากแล้วจะตายเอา แต่หมอเองก็มึนยังวิเคราะห์อยู่ไม่รู้จะทำอย่างไร จนในที่สุดก็จัดให้ผมอีก 1 เข็มตามที่ขอ แต่สุดท้ายอาการที่เป็นก็ไม่หายหรอกครับ ยังปวดทรมานเหมือนเดิมเพียงแต่พอทนได้บ้าง ผ่านไปซักพักคุณหมอก็ย้ายผมขึ้นไปชั้นบน จัดพยาบาลอารักขาตั้งแต่ตี 4 แล้ว จนแล้วจนรอดก็ยังทรมานไม่หายเลย ยังปวดจุกแน่นมากนอนไม่ได้ ต้องนั่งพิงหมอนบนเตียงคนไข้ นั่งคิดว่าตูเป็นอะไร วิตกกังวลไปสารพัด นั่งจนเช้าคาตาไปเลยพอถึงตอนนี้อาการเริ่มทุเลา พอสายหมอที่ชำนาญเกี่ยวกับโรคมาตรวจ(เขาว่าอย่างนั้น) ก็บอกกับหมอว่าตอนนี้ดีขึ้นจนเกือบหายแล้ว หมอก็บอกให้นอนรอบ่ายๆ จะไปส่องกล้องดู ส่วนผมเห็นว่าหายปวดหายจุกแล้วเลยขอกลับไปสั่งงานก่อนล่ะ เพราะเราหายเองแล้วนี่ไม่ใช่หมอช่วยเลย แต่ก่อนออกจากโรงพยาบาลโดนไปเบาๆ หมื่นกว่าแค่นั้น แถมที่บ้านยังไม่มีใครรู้ว่าเมื่อคืนผมนอน ICU เช้ามาทำงานต่อ นี่ครั้งแรก 
อีกหลายวันต่อมาอาการทั้งหลายเหล่านั้นก็หายไปหมด เหมือนไม่เคยมีฝันร้ายแบบนี้เกิดขึ้น ผมได้เล่าอาการที่เป็นให้น้องสาวฟัง เธอก็แนะนำให้ลองค้นหาในอินเตอร์เน็ทดู ก็ได้ความว่าน่าจะเป็นโรคกรดไหลย้อน แล้วมันคืออะไร? ลักษณะอาการเป็นอย่างไร? หรือเป็นแค่ข้อสันนิฐาน? แล้วจะเป็นอีกมั๊ย? แต่ขณะนั้นยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน 
และแล้วผมก็ได้คำตอบนั้นสมใจ เพราะอาการที่เป็นเหล่านั้นได้กลับมาอีก คราวนี้ย้ายมาเป็นช่วงเวลาเช้าเลยครับ ตอนท้องว่างๆ นี่แหละ ขณะที่ขับรถไปส่งลูก ก็มีอาการเริ่มตึงๆ แน่นๆ พอใกล้ที่ทำงานรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ต้องแวะเข้าโรงพยาบาลชื่อดังย่านสะพานควาย พอเจอหน้าหมอก็รีบเล่าอาการแบบหมอแทบไม่ต้องตรวจเลย และยังบอกหมอด้วยว่าอาการที่ผมเป็นนี้มีคนโพสต์ไว้ในอินเตอร์เน็ท ผมว่าน่าจะเป็นโรคกรดไหลย้อนนะหมอ คราวนี้หมอมึนครับกรดไหลย้อนอะไร? หมอเองดูเหมือนไม่รู้จักโรคกรดไหลย้อน ผมยังบอกหมอว่าผมทาน air-x เป็นแผงๆ และยาแก้ปวดท้อง buscopan เป็น 10 เม็ดแล้วยังไม่รู้สึกดีขึ้นเลย หมอได้บอกว่า buscopan นะคุณกินไม่หายหรอก 

H2แต่ผมก็ไม่รู้ว่าคุณหมอลอกคำพูดผมหรือเปล่า
 เพราะคุณหมอที่ผมไปหาก็เขียนใบสั่งยา แล้วให้พยาบาลพาผมไปที่การเงินและห้องจ่ายยา สิริรวมแล้วก็จ่ายไป 900 กว่าๆ พอเปิดถุงยาดู คุณพระช่วยแผนกยาจ่าย air-x และ buscopanมาให้อย่างละแผง และยาอะไรไม่รู้อีกนิดหน่อย ผมเดินกลับไปหาหมอที่ตรวจผมคนเดิม และถามคุณหมอว่าไหนหมอว่า air-x และ buscopan กินแล้วไม่หายแล้วทำไมยังจ่าย air-x และ buscopan มาทำถ้วยอะไรครับ คุณหมอคงจะมึนโรคของผมเลยตอบแบบมีอารมณ์ว่ามียาแก้ปวดท้องแบบนี้ จบสติปัญญาเลยครับสุดบรรยายความคับแค้น เจ็บป่วยต้องจ่ายค่ารักษาดูแลชีวิตเองแล้วเป็นซะอย่างนี้ ไม่หายก็ต้องจ่าย...ยิ่งถ้ารักษาหายก็จ่ายอ๊วก
หลังจากนั้นอาการโรคกรดไหลย้อนของผมก็เป็นๆ หายๆ มากบ้างน้อยบ้าง ผมพยายามปฏิบัติตามข้อเขียนในบทความที่ได้มาเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน น้ำอัดลมห้ามดื่มก็ไม่ดื่ม เนื้อสัตว์พยายามเคี้ยวให้แหลกและทานน้อยๆ ช่วงนั้นแฟนจัดมาแต่ปลาเนื้อนิ่มๆ และน้อยๆ ทานแต่ข้าวต้มน้อยๆ และทานตั้งแต่เย็น 5 โมงเย็นก็ทานแล้ว พยายามไม่นอนดึก บุหรี่ไม่สูบเหล้าไม่ดื่ม เที่ยวไม่เป็น ศีลครบมากกว่าพระไทยค่อนประเทศอะไรที่ห้ามไว้ปฏิบัติเคร่งครัด พอได้ครับยังคงเป็นบ้างแต่ไม่เวทนามากและทำให้ผมสามารถนั่งสมาธิหลับได้แบบไม่ล้มหงายไปนอน
แต่แล้วเช้าวันหนึ่งต่อจากนั้นไม่นาน หลังจากมื้อเย็นก่อนทานผักบุ้งผัดเล็กน้อยกับข้าวต้ม เช้าวันนั้นไปส่งลูกเรียนแต่ไปไม่ถึงโรงเรียนลูกครับ ตอนออกจากบ้านก็ยังดีๆ อยู่ พอมาถึงกลางทางผมเริ่มขับรถไม่ไหว คราวนี้ติดต่อเพื่อนที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใกล้กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนบอกมาเลยเดี๋ยวจัดให้ ไปรอหมออยู่พักใหญ่ตรวจแล้วกดนั่นกดนี่แล้ว หมอก็บอกว่าแก๊สในท้องแยะนะให้ไปรอซื้อยา ผมพยายามถามว่าใช่โรคกรดไหลย้อนหรือเปล่า? หมอบอกคุณต้องเชื่อหมอมากกว่าไปอ่านนู้นอ่านนี่...เอ้าชวยซิรู้มากไปอีก แถมไม่ได้คำตอบเหมือนทุกที่ๆ ผ่านมา  
ขณะรอยาเกิดอาการเหมือนจะตายอีกแล้ว เหงื่อกาฬออกจนตัวเปียกแล้วไฟนรกมารออีกแล้ว นึกถึงคำของพระพุทธองค์ที่ว่า สังขารทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยงตั้งอยู่ดับไปเป็นของธรรมดาจงทำกิจให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด อันนี้ดวงตาเห็นธรรมเลยสว่างเลย เมื่อเกิดอาการอยากอาเจียน พยายามไปห้องน้ำโรงพยาบาลแทบไม่ทันเพราะอยู่ไกลแถบชายแดนเลย แทบอยากจะอาเจียนซะแถวทางเดินให้รู้ไป หลังจากที่ได้อาเจียนออกมาแล้วอาการก็หายเลยเหมือนไม่เคยเป็นโรคนี้
หลังจากที่ผจญกับความทรมานของอาการนั้น ได้ข้อสังเกตมานั่งพิจารณาดูว่า อาการที่เขียนไว้ในทางอินเตอร์เน็ททั้งหลายนั้น เป็นอาการที่เกิดทางกายจะเรียกว่าปลายเหตุแล้วก็ว่าได้ เพราะที่ปรากฏในข้อเขียนเรื่องกรดไหลย้อนทุกอาการผมเป็นหมด ยาทีว่าดีมีเพื่อนเป็นเจ้าของบริษัทผลิตยาจัดมากินเป็นกล่องๆ ก็ไม่หาย จะว่าเป็นมากในคนอ้วนตอนนั้นก็ไม่อ้วน และลักษณะอาการของโรคก็ดูเหมือนโรคหัวใจ แต่ก็แสดงอาการเหมือนโรคสารพัดที่มีอยู่ 

ทำให้ผมคิดว่าเจ้าโรคกรดไหลย้อนนี้ 
คงเกิดมาคู่กับมนุษย์โลกมานมนานแล้ว แต่บรรดาหมอต่างคิดว่าจะเป็นโรคนั้นโรคนี้ เพราะวินิจฉัยไปตามอาการที่ผู้ป่วยพยายามได้บอกเล่าขณะซักอาการ หมอก็จะว่าไปเรื่อยตามอาการที่ผู้ป่วยบอกเล่า พอเล่าอาการจุกแน่นหน้าอก อึดอัดหายใจลำบากก็พาไปตรวจหัวใจส่องนั่นส่องนี่ไปเรื่อย 
ซึ่งจริงอยู่ว่าอาการทางกายคือระบบกล้ามเนื้อหูรูดส่วนบนที่เรียกว่า Esophageal sphincter ทำงานไม่ดีมีการคลายตัว ทำให้บีบเอากรดในกระเพาะย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการสารพัดที่เอ่ยมา แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นจากประสบการณ์ของผมคือ ช่วงเวลานั้นก่อนที่จะเป็นโรคกรดไหลย้อน รู้สึกมีความเครียดสะสม มากบ้างน้อยบ้างรวมๆ กัน ขณะเดียวกันตอนนั้นมีฝึกกรรมฐานบ้าง พยายามยุบหนอพองหนอเวทนาหนอบ้างแล้วไม่หลุด หมอทั้งหลายก็บอกแต่ว่าเป็นโรคกระเพาะทั้งหลายแหล่ จะต้องกินยาติดต่อกัน แบบจ่ายยากันมาให้ทานอิ่มแทนข้าวเลยเป็นเดือนๆ และทำท่าว่าเราต้องทำความรู้จักกับมันและอยู่คู่กันไปตลอดชีวิต สำหรับอาการของโรคกรดไหลย้อนนี้ต้องกินยาดักไว้ก่อนที่จะเกิดอาการจะดีที่สุด ประมาณว่าพอเป็นเวลาไหนก็ให้ทานยาดักล่วงหน้าไว้ก่อน นอกจากหมอสั่งไว้ถ้าลืมมีเรื่องแน่ แถมถ้ากินยาตามลงไปหลังเกิดอาการแล้ว เหนื่อยครับไม่หายหรอกบอกได้เลย

ทั้งหมดที่เล่ามาผมได้ข้อสรุปที่อยากจะบอกว่า
 
ต้นเหตุของโรคกรดไหลย้อนนั้น มาจากความเครียดล้วนๆ อาการที่แสดงออกทางกายนั้นคือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ เพราะอะไรน่ะหรือ...คุณเชื่อไหมว่าผมทดลองหลังจากวันที่ไปอาเจียนระบายออกมาที่โรงพยาบาลครั้งหลังสุดแล้วอาการทั้งหลายไม่กลับมาอีก โดยหลังจากวันที่อาเจียนไปนั้นเพียงสัปดาห์เดียว ผมได้ทดลองทานส้มตำน้ำตกในช่วงเวลา 21 นาฬิกาแล้วเข้านอนสัก 23 นาฬิกา ด้วยอยากทดลองว่าเป็นอย่างที่วิเคราะห์ไหม แต่ก็ได้เตรียมยาสำหรับกรดไหลย้อนรอไว้ด้วย ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีแบบที่โฆษณาใน TV อย่างทุกวันนี้นะ
ผลปรากฎว่าหลับสบายดีตื่นเช้ามาอย่างสดใส และได้ทดลองอีกหลายครั้งก็ไม่เป็น จนปัจจุบันได้ผ่านมาหลายปีแล้ว เจ้าโรคกรดไหลย้อนดูจะเป็นอดีตไปสำหรับผม และจากประสบการณ์ทำให้ช่วยเพื่อนได้หลายคน จึงนำมาเล่าสู่กันได้รู้จักและเข้าใจ เพื่อว่าหากใครสักคนที่ผ่านมาแล้วได้อ่าน จะได้พ้นความทรมานท่ามกลางเวทนาที่มีได้บ้าง อ่านแล้วจะได้รู้ว่าโรคกรดไหลย้อนที่เกิดขึ้นต้นเหตุมาจากความเครียดนั่นแหละ จะได้หาทางแก้ไขตามกำลัง 
ถึงแม้ยานั้นไม่แพง แต่เดี๋ยวนี้อย่างแพงก็ที่โฆษณาใน TV อย่างถูกก็หาได้ไม่ยากและไม่แพง แต่ถ้าไปหาหมอตามโรงพยาบาลก็แพงหน่อย และอย่างน้อยเดี๋ยวนี้พวกคุณหมอคงรู้จักและรู้เรื่องโรคกรดไหลย้อนพอใช้แล้ว วงการนี้ต้องหูไวตาไวและอย่าเป็นพวกน้ำล้นแก้วก็พอแล้ว มนุษย์เป็นโรคนี้มานานแล้วแต่เกาไม่ถูกที่คัน 

ดังนั้น ถ้าคุณกำลังมีอาการนอนไม่หลับ ต้องตื่นนอนกลางดึก ถูกอาการไอแสบคอรบกวน หรือมีอาการจุกแน่น หายใจไม่ออก ปวดเกร็งจนอยากจะอ้วกหรืออาเจียน เหมือนอาหารไม่ย่อย ในช่วงเวลาปกติ ลองหันมาสำรวจตัวเองดูว่า บางทีเรากำลังมีความเครียดเกินไปรึป่าว ถ้าคิดว่าใช่หาทางระบายความเครียดซะ โรคกรดไหลย้อนจะได้ย้อนกลับไปอยู่ที่ของมัน 

ขอขอบคุณภาพจาก : bcnu.ac.th/student/gred/Untitled-2.html , kwangmoo.blogspot.com/2010/06/blog-post.html  


แหล่งที่มา : kaejiarjan.com

อัพเดทล่าสุด