อาการโรคหอบหืด สมุนไพรแก้ภูมิแพ้หอบหืด ยาพ่นแก้หอบหืด


1,654 ผู้ชม


อาการโรคหอบหืด สมุนไพรแก้ภูมิแพ้หอบหืด ยาพ่นแก้หอบหืด

 

ภัยร้ายถึงชีวิตจากโรคหอบหืด

มกราคม 25, 2011

จากรายงานสำรวจควบคุมโรคหอบหืดในประเทศไทยได้รายงานตัวเลขที่น่าตกใจว่า โรคหอบหืดมีอัตราเสียชีวิตสูงถึง ร้อยละ 5 ซึ่งหากมีอาการจับหืด แต่ไม่ใส่ใจ  ไม่รีบใช้ยาหรือไปพบแพทย์ไม่ทัน จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งเลยทีเดียว เพราะจะนำไปสู่การขาดอากาศ ยิ่งปล่อยไว้นานหลอดลมจะยิ่งตีบตัวอย่างรุนแรง อวัยวะที่ได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรกๆ คือสมอง เมื่อสมองขาดออกซิเจนก็ทำให้สลบ หากไม่รีบให้ออกซิเจนภายใน 4-5 นาที สมองก็จะตาย ฉะนั้นแม้ในกรณีที่ช่วยชีวิตทันก็อาจเป็นเจ้าชายนิทรา ในขณะที่ระบบอื่นๆ ของร่างกายยังทำงานได้ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการกำเริบรุนแรงเกินรักษา

แม้ผู้ป่วยที่มีอาการโรคหอบหืดจะต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และรับคำแนะนำการปฏิบัติตนที่เหมาะสมจากแพทย์ รวมถึงหมั่นสังเกตอาการตนเอง คอยหลีกเลี่ยงและกำจัดสารก่อภูมิแพ้ แต่ก็ยังมีคนที่เป็นโรคหอบหืดจำนวนมากที่ละเลยอาการของโรค และคิดว่าอาการคงไม่น่าจะรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิต
ดังนั้น อาการที่สงสัยว่าโรคหืดเริ่มจะรุนแรงขึ้น และอาจนำไปสู่กรณีฉุกเฉิน ซึ่งต้องได้รับความช่วยเหลือเร่งด่วน คือ

• ถ้ามีอาการหอบหืดบ่อยครั้งหรือมากกว่าปกติ โดยเฉพาะตื่นเวลากลางคืนมากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และหอบตอนกลางวัน หรือถ้าเพิ่มยาเองแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 5 วัน แสดงว่าอาการน่าจะกำเริบ ควรกลับไปปรึกษาแพทย์ทันที

•ในกรณีที่มีอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวกหรือลำบาก อาการหอบรุนแรงขึ้น แม้จะใช้ยาพ่นขยายหลอดลมบ่อยกว่าทุก 3-4 ชั่วโมง อาการก็ไม่ดีขึ้น หากเกิดกับเด็กเล็ก ให้สังเกตว่าเริ่มร้องงอแง หายใจแรงและเร็ว จมูกบาน ซี่โครงบาน ไม่มีแรง อ่อนเพลีย จำเป็นต้องส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ทั้งนี้ สมาชิกในครอบครัวสามารถมีส่วนช่วยสังเกตอาการ ก่อนถึงขั้นรุนแรงได้อย่างมาก
โรคหอบหืดอาจรักษาไม่หายขาด แต่ก็สามารถควบคุมไม่ให้มีอาการ และดำเนินชีวิตตามปกติเหมือนคนอื่นๆ ได้ แต่ต้องให้ความร่วมมือกับแพทย์ ในการรักษาอย่างต่อเนื่อง ต้องใช้ยาอย่างถูกต้องตามวิธีใช้ และตามปริมาณที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจากสถิติพบว่า จากคนเป็นโรคหอบหืดทั้งหมดกว่าร้อยละ 50 ไม่ใช้ยาตามแพทย์สั่ง ทำให้ควบคุมโรคหืดไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตชีวิตก็เป็นไปได้

โรคภูมิแพ้ รู้จักไว้ไม่เสียหลาย

ธันวาคม 17, 2010

เมื่อพูดถึงโรคภูมิแพ้ ก็มักจะนึกถึงภูมิแพ้จากฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศเรามองไม่เห็นเป็นอันดับแรก ซึ่งฝุ่นตัวร้ายนี้ก็ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้มากมายเช่น  คัดจมูก คันจมูก น้ำมูกไหล เป็นไม่มากแต่เรื้อรังก่อความรำคาญ แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้ก็ยังมีอาการออกให้เห็นเลยด้วยซ้ำไป ไม่สะดวกในการทำงานรบกวนชีวิตประจำวัน บางรายอาจมีอาการรุนแรงจนโรคหอบหืดกำเริบก็มี แม้ว่าโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะภูมิแพ้ฝุ่นจะไม่สามารถแก้ไขให้หายขาดได้ เพราะฝุ่นมีอยู่ทั่วไป แต่ก็มีวิธีการบรรเทาหลีกเลี่ยงไปจนถึงการรักษาด้วยถั่งเช่าก็ได้ผลดี

ตัวการที่ทำให้เกิดอาการโรคภูมิแพ้ เรียกกว่า สารก่อภูมิแพ้ (Allergens) หรือ สิ่งกระตุ้น ซึ่งอาจเข้าสู่ร่างกายทางระบบหายใจ  การรับประทานอาหาร การสัมผัสทางผิวหนัง  ทางตา  ทางหู  ทางจมูก  หรือโดยการฉีดหรือถูกกัดต่อยผ่านผิวหนัง  ตัวการที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้มีอยู่รอบตัวสามารถกระตุ้นอวัยวะต่าง ๆ  จนก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น

ทางผิวหนัง ถ้าสิ่งกระตุ้นเข้ามาทางผิวหนัง จะทำให้เกิดผื่นคัน  น้ำเหลือง

ทางอาหาร ถ้าสิ่งกระตุ้นเข้ามาทางอาหาร  จะทำให้เกิดอาการโรคภูมิแพ้เด่นที่ท้องเสีย  อาเจียน  ถ่ายเป็นเลือด  เสียไข่ขาวในเลือด  อาจทำให้เกิดอาการทางระบบอื่นๆ ตามมาด้ เช่น ลมพิษ หน้าตาบวม

หลักสำคัญที่สุดในการรักษาภูมิแพ้คือคุณต้องหมั่นสังเกตุดูเอาเองว่าอะไรเป็นสาเหตุ อะไรเป็นสารก่อภูมิแพ้ในตัวคุณ       แล้วต้องกำจัดไปให้พ้นจากที่พักอาศัย หรือหาทางหลีกเลี่ยงให้ดีที่สุด    โรคภูมิแพ้ที่เป็นก็จะหายไปได้โดยไม่กลับมาเป็นอีก  แต่อย่างที่รู้กัน ในเมื่อสารก่อภูมิแพ้ต่างก็ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศทั่วไปหมด แค่เพียงคิดก็รู้แล้วว่ามันแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หากต้องการหายขาดจากโรคภูมิแพ้จริงๆ ยาและวิธีการรักษาในปัจจุบัน และรวมทั้งการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด  คำว่าหายขาดอย่างที่หลายคนตั้งความหวังไว้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่ไม่ไกลเกินฝัน

ถั่งเช่าใช้รักษาโรคภูมิแพ้ หอบหืด ได้ผลดีเยี่ยม

ธันวาคม 11, 2010

การรักษาโรคภูมิแพ้และหอบหืดเป็นสรรพคุณที่โดดเด่นมากที่สุดของถั่งเช่า ด้วยคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมในการลดการอักเสบของเนื้อเยื่อบุผนังในระบบทางเดินหายใจ ทำให้สามารถป้องกันการตีบตัวของหลอดลม หรือการโป่งพองและอักเสบของเนื้อเยื่อโพรงจมูก และมีฤทธิ์สำคัญในการทำให้ระบบภูมิคุ้มกันและสารเคมีที่เกี่ยวข้องภายในร่างกายของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ที่ทำงานมากกว่าปกติกลับมาทำงานเท่าที่จำเป็น ไม่ทำงานเกินหน้าที่จนก่อให้เกิดภูมิแพ้ คือการรักษาสมดุย์ของสารเคมีที่ว่า คือ TH2 และ IgE สารที่ทำให้เกิดอาการแสดงต่อสารก่อภูมิแพ้สำหรับคนเป็นภูมิแพ้ หอบหืด ซึ่งมักทำงานมากผิดปกติและก่อให้เกิดอาการที่เราเห็นกันและรบกวนชีิวิตประจำวันอย่างมาก เช่น คัดจมูก คันตา คันจมูก น้ำมูกไหล มีเสลด หลอดลมตีบ

ได้มีการวิจัยทางการแพทย์มากมายยังยืนยันถึงสรรพคุณของถั่งเช่าในการบำบัดรักษาโรคต่างๆในมนุษย์ ทั้งในต่างประเทศ รวมทั้งในประเทศไทยการเปิดเผยผลงานวิจัยและศึกษาสรรพคุณของถั่งเช่าเองก็ลงข่าวหนังสือพิมพ์หน้า 1 เกี่ยวกับการค้นคว้าวิจัยถั่งเช่าของนายแพทย์ สมยศ กิตติมั่นคง นายแพทย์กระทรวงสาธารณสุขที่ทำการรวบรวมข้อมูลการศึกษาถั่งเช่าและวิจัยทดสอบในการนำมารักษาโรคให้กับผู้ป่วยอย่างจริงจังอย่างจริงจัง จากสรรพคุณมากมายหลากหลายนับตั้งแต่การแพทย์แผนจีนเมื่อ 1500 ปีก่อนถึงการแพทย์แผนปัจจุบันทำให้ถั่งเช่า เป็นสมบัติล้ำค่าจากธรรมชาติต่อการดูแลสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม แก้ปัญหาโรคต่างๆได้มากมาย สรรพคุณเด่นที่ใช้กันเป็นหลักของถั่งเช่าก็คือการรักษาโรคภูมิแพ้ ภูมิแพ้อากาศ รักษาหอบหืด นอกจากเรื่องการรักษาโรคภูมิแพ้และหอบหืด โรคทางระบบทางเดินหายใจแล้ว และยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย เช่นช่วยป้องกันโรคต่างๆ ลดอาการอ่อนเพลีย   ควบคุมระัดับไขมันและน้ำตาลในเลือด ต้านมะเร็งและลดผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งด้วยรังสี ชะลอความเสื่อมภายในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์สมอง ทำให้ความจำดีขั้น ซึ่งสรรพคุณต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีข้อพิสูจน์ทางการแพทย์แผนปัจจุบันแล้วทั้งสิ้น

ป้องกันโรคภูมิแพ้ หอบหืดในเด็กแต่เนิ่นๆ เพื่ออนาคตสดใส

ธันวาคม 3, 2010

โรคภูมิแพ้ในเด็ก ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์ของโรคมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และด้วยปัญหาดังกล่าวเมื่อไม่นานมานี้บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ได้จัดเสวนาในหัวข้อ สืบให้รู้ดูให้แน่ โรคภูมิแพ้ป้องกันได้ โดยมี รศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ให้ความรู้

จากอุบัติการณ์ของโรคภูมิแพ้ที่ศึกษาวิจัยพบว่ามีเพิ่มขึ้นในทุกโรคโดยเฉพาะ ภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจ แพ้อากาศหรือเป็นหวัดเรื้อรัง อีกทั้งพบการแพ้อาหาร รองลงมาจะเป็นหอบหืด ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ ส่วนในเรื่องของการแพ้นมวัวพบในเด็กขวบปีแรกโดยอายุเฉลี่ยที่วินิจฉัย 14.8 เดือนและที่อายุน้อยสุดประมาณ 7 วันโดยระยะของอาการมีได้นับแต่ 2 นาทีหลังจากการทานนมโดยใบหน้าบวม หายใจไม่ออกและอาจช็อกหมดสติได้

“ในครอบครัวหากพ่อหรือแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ 20-40 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าทั้งพ่อและแม่เป็นภูมิแพ้โอกาสที่ลูกจะเป็นภูมิแพ้ก็จะมีมากราว 50-80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสาเหตุของโรคภูมิแพ้ นอกจากปัจจัยจากพันธุกรรม ประวัติภูมิแพ้ของคนในครอบครัวแล้วยังมีปัจจัยจาก  สิ่งแวดล้อมด้วย”

การได้รับโภชนาการที่เหมาะสมนับแต่เริ่มต้น สิ่งนี้จะช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ อีกทั้ง ประวัติภูมิแพ้ในครอบครัวสิ่งนี้นั้นก็มีส่วนสำคัญซึ่งการค้นหาประวัติครอบ ครัวเป็นอีกแนวทางที่จะช่วยป้องกันการเกิดภูมิแพ้ของทารกได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และถูกต้องทันท่วงที

การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กับ ลูกน้อยเพื่อหลีกไกลจากภูมิแพ้ เริ่มได้นับแต่การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีความเสี่ยงสูงต้องไม่มองข้ามละเลยควบคุมสิ่งแวดล้อม ภายในบ้าน เช่น ในเรื่องของไรฝุ่น สัตว์เลี้ยง ต้องหมั่นทำความสะอาดดูแล

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารที่มีความสมดุล การรับประทานนมก็มีความสำคัญหลีกเลี่ยงการดื่มนมวัวในปริมาณที่มากกว่าปกติ ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร อีกทั้งหลังคลอดควรให้ลูกได้ทานนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนซึ่งก็จะช่วยลดการสัมผัสกับโปรตีนแปลกปลอมช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกายลดการเกิดภูมิแพ้ในเด็กซึ่งถือว่าเป็นการป้องกัน แต่หากไม่สามารถให้นมแม่ได้เลือกให้นมสูตรเอชเอ (H.A.) ที่มีโปรตีนเวย์ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภูมิแพ้ได้

สิ่งแวดล้อมที่เป็นตัวการทำให้เกิโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อย ได้แก่ อาหาร นอกจากนี้อาจมาจากการที่เด็กกินนมแม่น้อยลง โดยเฉพาะในกลุ่มที่แม้ต้องทำงานนอกบ้านซึ่งการส่งเสริมให้ทารกได้รับนมแม่ อย่างน้อยในช่วง 6 เดือนแรกถือว่ามีส่วนช่วยป้องกันลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กได้

โรคหอบหืดในเด็ก สาเหตุและอาการ

พฤศจิกายน 29, 2010

โรคหอบหืดในเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี พบได้บ่อย เช่น ในประเทศอังกฤษ เด็กๆ จะเป็นโรคนี้ประมาณหนึ่งในเจ็ด ส่วนในสหรัฐอเมริกาจะประมาณ 10% บ้านเรายังไม่มีตัวเลขที่แน่นอน แต่คิดว่าไม่น่าจะน้อยกว่านี้ โรคหอบหืดทำให้เด็กต้องนอนโรงพยาบาล และขาดเรียนบ่อยมาก ประมาณ 30 – 80% จะมีประวัติไอ และมีเสียง Wheez ( วี้ด ) อย่างน้อย 1 ครั้งก่อนอายุ 5 ปี พวกที่มีอาการรุนแรงที่สุดคือ พวกที่มี wheez เร็ว ในขวบปีแรก และมีประวัติครอบครัวเป็นหอบหืด ร่วมกับโรคภูมิแพ้ชนิดอื่น


ถ้าพ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้ 1 คน ลูกที่เกิดมาจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ 25% แต่ถ้าพ่อแม่เป็นทั้ง 2 คน โอกาสที่ลูกจะเป็นได้มีประมาณ 50%

การที่ต้องเห็นลูกเหนื่อย หอบแต่ละครั้ง เป็นสิ่งที่น่ากังวล และตกใจสำหรับพ่อแม่ ที่ต้องเห็นลูกทุกข์ทรมาน และนอนไม่ได้

โรคหอบหืดเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

หลอดลมของเด็กที่เป็นหอบหืดนั้น เชื่อว่ามีความไวผิดปกติต่อสิ่งกระตุ้น ทำให้หลอดลมหดเกร็งตัวแคบลง เยื่อบุภายในหลอดลมบวมขึ้น และสร้างเมือกเหนียว ซึ่งจะยิ่งทำให้ช่องทางเดินอากาศในหลอดลมแคบลงอีก ทำให้เกิดอาการหอบหืดขึ้น สิ่งกระตุ้นเหล่านี้เช่น โรคหวัด ควันบุหรี่ ฝุ่น ละอองเกสร การออกกำลังกาย ขนสุนัข ขนแมว ฯลฯ

ให้ตระหนักไว้ว่า ในเด็กเล็กๆ ที่อายุ 1 – 2 ปีนั้น โรคหอบหืดมักเกิดตามหลังอาการหวัด ซึ่งเป็นการติดเชื้อไวรัส และไม่เกี่ยวกับภูมิแพ้ได้ แต่หอบหืดในเด็กวัยเรียน จะเกิดในเด็กที่มีโรคภูมิแพ้จริงๆ

โรคหอบหืดมีอาการอย่างไร ?

มักเริ่มต้นด้วยอาการ หวัด ไอ มีเสมหะ ถ้าไอมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มักจะมีเสียงวี้ดๆ ในช่วงหายใจออก เมื่อร่างกายขาดออกซิเจนมากขึ้น ก็เกิดอาการหอบมาก ปากซีดเขียว ใจสั่น บางครั้งการเกร็งตัวของหลอดลมเกิดขึ้นไม่มากนัก ทำให้คนไข้มีอาการไม่มากแต่ก็เป็นอยู่เรื่อยๆ เด็กๆ บางคนจะมีอาการไออย่างเดียว และมักจะมีอาการอาเจียนร่วมไปด้วย ซึ่งอาการไอจะดีขึ้น หลังจากที่เด็กได้อาเจียนเอาเสมหะหนียวๆ ออก

ให้สังเกตไว้ว่า การไอของเด็กเล็กๆ เช่น ไอแห้งๆ ที่ระคายเคือง ( dry irritating ) อาจเป็นอาการแสดงของโรคหอบหืดอย่างเดียว เพราะคนทั่วไปมักเข้าใจว่าต้องมีเสียง Wheez จึงจะเป็นหอบหืด เด็กที่แข็งแรงดีมักจะไม่ไอ ยกเว้นหวัดอย่างรุนแรง

ความรุนแรงของหอบหืด

  1. ขั้นเล็กน้อย – เริ่มไอ และ/หรือ มีเสียงวี้ด แต่ยังเล่นซนได้ตามปกติ และทานอาหารได้ตามปกติ การนอนยังปกติ ( ไม่ถูกรบกวนโดยอาการไอ )
  2. ขั้นปานกลาง – ตื่นกลางคืนบ่อยๆ วิ่งเล่นซนไม่ค่อยได้ ขณะเล่นมักไอ หรือมีเสียงวี้ดไปด้วย
  3. ขั้นรุนแรง – กระสับกระส่ายจนนอนไม่ได้ เล่นซนไม่ได้ เหนื่อยหอบจนพูดหรือกินอาหารไม่ได้ หรือรอบริมฝีปากเป็นสีเขียว

เด็กเล็กกับความเสี่ยงโรคหอบหืด ภูมิแพ้

พฤศจิกายน 26, 2010

สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงมากก็คือ โรคภูมิแพ้และโรคหอบหืดในเด็กเล็ก เพราะเด็กเล็กพูดไม่ได้ บอกไม่ได้ว่าเป็นอะไร ที่สำคัญเด็กเล็กมีภูมิคุ้มกันที่ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ อาการภูมิแพ้และหอบหืดอาจจะนำไปสู่การเป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสที่ค่อนข้างดื้อต่อยาหลายๆยา รักษายาก และมักทำให้เกิดกลุ่มโรคติดเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล เด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อเชื้อดังกล่าวมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะเชื้อนี้อาศัยอยู่ในลำคอของคนเรา และจะมีมากในเด็กเล็ก ซึ่งเมื่อเด็กเล็กมีอาการภูมิแพ้ที่มีอาการเด่นเป็น อาการหอบหืด เมื่อเหนื่อยหอบและหายใจแรงจากโรคหอบหืด เชื้อจะมีโอกาสหลุดเข้าไปสู่อวัยวะต่างๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปภายในได้ โดยสามารถหลุดเข้าไปได้ถึงสมองและก่อให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ และยังเข้าสู่อวัยวะอื่นๆที่เชื่อมต่อกันได้ทั้งสิ้น

ใส่ใจดูแลสุขอนามัยในบ้านอย่างดีที่สุดและต้องทำอย่างสม่ำเสมอ การควบคุมไม่ให้โรคนี้ก่อปัญหารบกวนชีวิตประจำวันนั้นสามารถทำได้แม้ไม่สามารถรักษาให้หายขาด ด้วย 3 วิธีหนีหอบหืดง่ายๆ ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง เช่น มลภาวะ ควันบุหรี่ กลิ่นฉุนต่างๆ
2. ทำการสังเกต ค้นหาว่าร่างกายมีปฏิกิริยาภูมิแพ้ หอบหืดต่อสิ่งใดบ้าง และพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้น กำจัดให้พ้นจากที่พักอาศัย
3. ทานยา รักษาสุขอนามัยเป็นประจำ และออกกำลังกายตามที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ

คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จักสังเกตอาการแทรกซ้อนในเด็กเล็ก เมื่อเกิดการการติดเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสคือ มีไข้ขึ้นสูง งอแงและมักซึมไม่ยอมดื่มนมหรือกินอาหาร หายใจเร็วมากกว่า 40 ครั้งต่อนาที หายใจหอบ หอบหืด ติดขัด หรือมีเสียงวี้ดๆ เป็นอาการเตือนควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะเพียง 2-3 วันเท่านั้นเชื้อนิวโมคอสคัสก็สามารถแสดงอันตรายได้สูงสุด

ถั่งเช่ากับการรักษาภูมิแพ้ รักษาหอบหืด

พฤศจิกายน 23, 2010

ถั่งเช่า ยอดสมุนไพรที่ีมีสรรพคุณการใช้ในทางการแพทย์ได้หลากหลาย วิจัยและทดสอบแล้วในผู้ป่วยจริง หนึ่งในสรรพคุณหลักที่มีผลการวิจัยยืนยันแล้วว่าได้ผลการรักษาดีมากคือ ผลในการรักษาภูมิแพ้ควบคุมอาการของโรคภูมิแพ้ หอบหืด

โดยกลไกการรักษาภูมิแพ้ หอบหืด ของถั่งเช่าได้ถูกค้นพบโดยคณะวิจัยในประเทศจีน โดยพบว่าถั่งเช่าสามารถรักษาภูมิแพ้ หอบหืด ผ่าน 3กลไก ที่มีประสิทธิภาพและสำคัญมากต่อการรักษาภูมิแพ้ หอบหืด

1. ถั่งเช่ามีผลช่วยป้องกันการจับตัวของสารก่อภูมิแพ้ กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย กลไกการจับตัวนี้เป็นอันดับแรกสุดที่จะกระตุ้นให้ร่างกายตอบสนองเป็นภูมิแพ้ หอบหืดออกมาก เราต้องหยุดมันครับ

2. ถั่งเช่ารักษาภูิมิแพ้ หอบหืด โดยการยับยั้งการสร้าง IgE ที่มากเกินไปในผู้ป่วยภูมิแพ้ และหอบหืด ซึ่ง IgE นี่ล่ะเป็นตัวร้ายที่ทำให้ร่างกายผลิตสารที่ำส่งให้เนื้อเยื่อเกิดการอักเสบ หลอดลมหดตัว เกิดผื่นคัน คัดจมูก น้ำมูกไหลและอื่นๆอีกมาก ถั่งเช่าช่วยรักษาภูมิแพ้และหอบหืดตรงจุดนี้ได้ดีเยี่ยมเช่นกัน

3. ถั่งเช่าจะปรับการทำงานของ TH1 และ TH2 ซึ่งมีผลต่อการแสดงออกของระบบภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้ โดยในผู้ป่วยภูมิแพ้ จะมี TH2 ทำงานมากกว่าปกติ จึงเป็นเป้าหมายที่ดีที่จะใช้รักษาภูมิแพ้ และถั่งเช่าก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม

ทั้ง 3 กลไกของถั่งเช่าในการรักษาภูมิแพ้ หอบหืด นี้ทำให้ถั่งเช่ามีประสิทธิภาพที่สูงมากและยังพ่วงความปลอดภัยในการรักษาภูมิแพ้มาด้วย ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย หมดปัญหาภูมิแพ้และหอบหืดที่แสนทรมาน

วิธีัรักษาและควบคุึมอาการภูมิแพ้ หอบหืด เบื้องต้นที่ควรกระทำ

พฤศจิกายน 19, 2010

สิ่งสำคัญที่สุดในการควบคุมอาการของโรคหอบหืดภูมิแพ้ก็คือ…..

หาต้นเหตุและหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้

วิธีรักษาโรคภูมิแพ้ทีดีที่สุดคือการค้นหาสาเหตุของการแพ้นั้นให้พบ เช่น การสอบถามประวัติและอาการของโรค พร้อมทั้งวิเคราะห์สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว เช่น บ้าน รถยนต์ โรงเรียน สัตว์เลี้ยง งานอดิเรก ตรวจร่างกายและทดสอบทางผิวหนัง เมื่อทราบว่าแพ้สารใดแล้ว ควรหลีกเลี่ยงสารที่ให้เกิดภูมิแพ้ที่ถูกต้องและอาการของโรคภูมิแพ้ก็จะทุเลา

ในทางปฏิบัตินั้นการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้นั้นทำได้ยาก เพราะชีวิตประจำวันนั้นต้องเผชิญกับสารก่อภูมิแพ้กระจายอยู่รอบๆ ตัว เช่นฝุ่นบ้าน ไรฝุ่น เชื้อรา และอื่น ๆ เมื่อเป็นเช่นนี้การรักษาอาการของโรคอันเป็นปัญหาเฉพาะหน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นและได้มักจะได้ผลดี แพทย์อาจให้รับประทานยาแพ้แพ้ แก้หอบ แก้ไอร่วมด้วย เป็นต้น

โรคภูมิแพ้อาจเกิดขึ้นได้กับทุกระบบของร่างกาย บางคนอาจมีอาการภูมิแพ้ในระบบใดระบบหนึ่ง หรือหลายระบบ โรคภูมิแพ้นั้นเป็นโรคที่สามารถพิสูจน์หาสาเหตุของโรคและสามารถรักษาให้หายได้ ผู้ป่วยบางคนเริ่มจากอาการแพ้อากาศเรื้อรัง เยื่อจมูกอักเสบ เมื่อไม่ได้ใส่ใจรักษา ต่อมาอาจกลายเป็นโรคหอบหืด โรคผื่นคันผิวหนัง เช่น เป็นลมพิษ ปวดศีรษะเรื้อรัง โรคอ่อนเพลียต่างๆ เป็นต้น

บางคนเชื่อว่า ถ้าเด็กเป็นโรคหอบหืดตั้งแต่เล็กพอโตขึ้นอาจหายไปเองได ้และไม่จำเป็นต้องรักษาอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนัก

เพราะโรคนี้อาจทำให้เค้าเจริญเติบโตช้า การปรับตัวเข้ากับสังคมเพื่อนๆ และสภาพแวดล้อมได้ไม่ดี เกิดปมด้อย เจ้าตัวเล็กอาจขาดความมั่นใน ส่วนเด็กที่แพ้อากาศ ถ้าไม่รักษาต่อมาก็อาจกลายเป็นโรคหอบหืดที่มีอาการของโรคแรงขึ้นเรื่อยๆ ได้ครับ

หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าเจ้าตัวเล็กนั้นเป็นโรคภูมิแพ้ คุณควรจะนำเค้าไปปรึกษาแพทย์ เพื่อหาว่าเค้าแพ้อะไรบ้าง การดูแลรักษาเค้าในเบื้องต้นนั้นทำได้โดยการพยายามหลีกเลี่ยงสารที่เค้าแพ้ครับ ซึ่งจะทำให้อาการของโรคนั้นลดลงหรือหมดไปได้ครับ

ปัจจุบันยารักษาโรคภูมิแพ้ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยนั้นมีหลายประเภท ทั้งยารับประทาน ยาสูดเข้าหลอดลม ยาพ่นจมูก ยาหยอดตา และยาทาผิวหนัง

 

หนทางป้องกันอีกทางเลือกที่ วิทยาการการแพทย์ปัจจุบันสร้างคือ….

ฉีดวัคซีนให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทาน

มีวิธีการรักษาโรคภูมิแพ้อีกประการหนึ่งที่เป็นการรักษาได้ผลดีพอสมควร ได้แก่การหาสาเหตุของโรคภูมิแพ้ให้พบแล้วนำสารก่อภูมิแพ้ที่ตรวจพบนี้นำมาผลิตวัคซีนให้ผู้ป่วย เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานสารที่แพ้ (อิมมูโนบำบัด) คือ รักษาให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทานสารที่แพ้ หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การรักษาเพื่อ ลดภูมิไว คือให้ร่างกายลดความไวต่อสารที่ก่อให้เกิดโรค

สารก่อภูมิแพ้และหอบหืด ที่เป็นปัญหามาก

พฤศจิกายน 19, 2010

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า สารก่อภูมิแพ้มีตั้งแต่ชนิดที่แพ้กันมาก จนถึงชนิดที่นึกไม่ถึงว่าคนคนหนึ่งจะเกิดอาการโรคภูมิแพ้และหอบหืดกับสารนั้นๆได้ บทความนี้จะกล่าวถึงสารก่อภูมิแพ้ที่มีแนวโน้มผู้ป่วยแพ้มาก

สารก่อภูมิแพ้ที่เป็นปัญหามากต่อผู้ป่วยภูมิแพ้ซึ่งเป็น “ตัวการ” ของโรคภูมิแพ้ ที่มักพบบ่อยๆ ได้แก่

  • ฝุ่นบ้าน ตัวไรฝุ่นบ้าน

เรียกได้ว่าแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันอยู่บนเฟอร์นิเจอร์แทบทุกชิ้นภายในที่พักอาศัย แม้แต่เวลานอนก็มีไรฝุ่นนอนด้วย ทำให้ผู้ป่วยภูมิแพ้ หอบหืดที่แพ้ฝุ่นหรือไรฝุ่น จะรักษาและควบคุมอาการได้ยากมาก ไรฝุ่นมักปะปนอยู่ในฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 มม. มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

  • เชื้อรา

เป็นจุลชีพก่อภูมิแพ้และหอบหืด ที่มักปะปนอยู่ในบรรยากาศ อาจฟุ้งกระจายอยู่ทั่วไปในอากาศ และมักอยู่ตามห้องที่มีลักษณะอับชื้นเพราะเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อรา และจะปล่อยสปอร์ฟุ้งในอากาศ

  • อาหารบางประเภท

อาหารบางอย่างที่ใกล้ตัวมากๆ ก็อาจจะเป็นตัวการของโรคภูมิแพ้และหอบหืดได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารจำพวก อาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา อาหารอีกจำพวกที่พบได้บ่อยคือ แมงดาทะเล ปลาหมึก อาจทำให้เกิดลมพิษผื่นคันได้บ่อยๆ ดังที่พบเห็นได้บ่อย และได้ยินบ่อยว่า แพ้อาหารทะเลนั่นเอง ภูมิแพ้อาหารทะเลอาจรุนแรงได้มากในผู้ป่วยบางราย เด็กบางคนอาจแพ้ไข่แมงดาทะเลอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้มีอาการบวมตามตัว หายใจไม่ออกเป็นต้น

  • ยาแก้อักเสบ

เมื่อเราซื้อยา เภสัชกรต้องถามเสมอว่า แพ้ยาอะไรหรือไม่ เพราะยาก็เป็นสารหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้มาก และมักจะเกิดอาการภูมิแพ้ชนิดรุนแรงเสียด้วย ยาที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้บ่อยๆ นั้นได้แก่ ยาปฎิชีวนะ พวกเพนนิซิลลิน เตตราไซคลิน นอกจากนั้นยังมีพวกซัลฟา ยาลดไข้แก้ปวดพวกแอสไพรินก็มีผู้ที่เกิดอาการภูมิแพ้ได้บ่อยโดยเฉพาะในประเทศไทย ไดไพโรน ยาระงับปวดข้อปวดกระดูก อาจทำให้เกิดลมพิษผื่นคัน พวกเซรุ่มหรือวัคซีนซึ่งมักสกัดจากสิ่งมีชีวิตก็มีโอกาศเกิดอาการภูมิแพ้ได้มากกว่าสารเคมีที่สังเคราะห์ขึ้นมา โดยเฉพาะวัคซีนสกัดจากเลือดม้า เช่น เซรุ่มต้านพิษงู แพ้พิษสุนัขบ้า เป็นต้น

  • เกสรดอกหญ้า ดอกไม้ ตอกข้าว วัชพืช

ผู้ป่วยภูมิแพ้และหอบหืดที่แพ้สิ่งเหล่านี้เรียกได้ว่าลำบากมากๆ เพราะมักปลิวอยู่ในอากาศตามกระแสลมฟุ้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณ และสามารถถูกลมพัดลอยไปได้ไกลๆ หรืออาจเป็นลักษณะขุยๆ ติดตามมุ้งลวดหน้าต่างหรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ง่าย เกสรดอกหญ้าที่ปลิวมาตามสายลมก็มีปริมาณมากในบรรยากาศ โดยเฉพาะหากขาดการดูแลรอบๆบริเวณที่พักอาศัย

  • ขนสัตว์

ขนของสัตว์เลี้ยงเป็นต้นเหตุของโรคภูมิแพ้ เช่น ขนแมว ขนสุนัข ขนนก ขนเป็ด ขนไก่ ขนกระต่าง ขนนกหรือขนเป็ด ขนไก่ที่ตากแห้งใช้ยัดที่นอนและหมอน สำหรับนุ่น ฟองน้ำ ยางพารา ใยมะพร้าว เมื่อใช้ไปเป็นระยะเวลานานก็จะสามารถเป็นสารก่อภูมิแพ้ได้เช่นกัน

โรคภูมิแพ้ หอบหืดคืออะไร

พฤศจิกายน 19, 2010

โรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือโรคแพ้ (Allergy) เป็นชื่อของกลุ่มอาการที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งหมายถึง โรคที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันไวผิดปกติต่อสารบางอย่างที่ไม่เป็นพิษและไม่ใช่เชื้อโรค ซึ่งเราเรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ โดยจะแสดงออกเป็นอาการต่างๆที่รบกวนชีวิตประจำวัน อาจรุนแรงถึงขึนเสียชีวิต สิ่งที่แปลกกว่าคนปกติคือสารก่อภูมิแพ้ (Allergen) อาจไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้กับคนปกติทั่วไป แต่กลับทำอันตรายต่อผู้ป่วยภูมิแพ้และหอบหืด และผู้ป่วยแต่ละรายก็จะมีสารก่อภูมิแพ้แตกต่างกันไป

โรคภูมิแพ้ และหอบหืดเกิดได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในช่วงระยะที่ยังเป็นเด็ก โดยพบว่าเด็กอายุ 5 ถึง 15 ปี มักเป็นภูมิแพ้และหอบหืด บ่อยกว่าช่วงอายุอื่นๆ อาจเพราะระบบภูมิคุ้มกันยังทำงานไม่เต็มที่ แต่บางคนอาจเริ่มเป็นโรคภูมิแพ้และพัฒนากลายเป็นโรคหอบหืดตอนเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ได้

ตัวการที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้และหอบหืด เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ (Allergens) หรือ สิ่งกระตุ้น โดยต้องมีการรับเข้าสู่ร่างกายผ่านทางส่วนต่างๆเช่น ระบบหายใจ การสัมผัสทางผิวหนัง การรับประทาน ทางตา ทางหู ทางจมูก หรือโดยการฉีดหรือแม้แต่ถูกแมลงกัดต่อยผิวหนัง มีตั้งแต่สารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้คนส่วนใหญ่แพ้ ไปจนถึงสารก่อภูมิแพ้ที่แปลกมากๆ ที่มีผู้ป่วยจำนวนน้อยมากๆเท่านั้นที่เกิดอาการภูมิแพ้และหอบหืดต่อสิ่งนั้น  จริงๆแล้วตัวการที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้และโรคหอบหืดมีอยู่รอบตัว เช่น ฝุ่น เกษรดอกไม้ หรือแม้แต่อากาศเย็นซึ่งยากที่จะหลีกเลี่ยงสามารถกระตุ้นอวัยวะต่างๆ จนก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้

โดยทางการแพทย์แล้วโรคภูมิแพ้และหอบหืดนั้นมิใช่โรคติดต่อแน่นอน แต่จากการศึกษามาเป็นเวลานานก็สามารถสรุปได้ว่าโรคภูมิแพ้และหอบหืดสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ จากรุ่นคุณปู่คุณย่า  คุณพ่อคุณแม่ มาสู่ลูกหลานได้โดยเฉพาะในครอบครัวสายตรง เป็นที่แน่นอนแล้วว่าในครอบครัวนั้นมีประวัติสมาชิกป่วยเป็นโรคภูมิแพ้หลายคน เด็กที่เกิดมาจากครอบครัวนั้น มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้และหอบหืด มากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า และประวัติคนในครอบครัวเป็นภูมิแพ้ ยังใช้เป็นส่วนหนึ่งในการวินิจฉัยเพื่อสรุปว่า คนๆนั้นเป็นภูมิแพ้และหอบหืดหรือไม่อีกด้วย


แหล่งที่มา : https://allergyhealth.edublogs.org/

อัพเดทล่าสุด