ลูกเลือดกำเดาไหล การปฐมพยาบาลเลือดกำเดาไหล ปฐมพยาบาลเลือดกำเดาไหล


17,487 ผู้ชม


ลูกเลือดกำเดาไหล การปฐมพยาบาลเลือดกำเดาไหล ปฐมพยาบาลเลือดกำเดาไหล

               ลูกเลือดกำเดาไหล

เลือดกำเดาไหล แบบไหนอันตราย ?

เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ พญ.อัญมณี เชื้อเหล่าวานิช กุมารแพทย์ โรงพยาบาลบางประกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล

สาเหตุ และวิธีแก้ไขเมื่อลูกมีเลือดกำเดาไหล

เลือด กำเดาไหลส่วนใหญ่จะพบในเด็กวัยเตาะแตะ เพราะเป็นวัยที่มักจะเอาของใส่จมูกหรือแคะจมูก แต่ถ้าพบว่ามีเลือดออกที่จมูกตั้งแต่แรกเกิด นั่นไม่ได้เป็นเลือดกำเดาไหลนะคะ แต่จะเป็นโรคเลือดที่รุนแรงค่ะ

สาเหตุ เลือดกำเดาไหล

 

- สาเหตุที่พบบ่อย เกิดจากการที่เด็กได้รับบาดเจ็บ จากการแคะ แกะ เกา

  บริเวณจมูก หรือเกิดจากการเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปใส่ในรูจมูก รวม

  ทั้งยังเกิดจากการอักเสบของจมูก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเป็นหวัด และ

  ไซนัสอักเสบ ส่งผลให้โพรงจมูกแห้ง ทำให้เลือดกำเดาไหลออกมาได้

  ง่าย

 

- สาเหตุที่พบได้ไม่บ่อย เกิดจากการเป็นโรคเลือด เช่น เกร็ดเลือดต่ำผิด

  ปกติ เส้นเลือดฝอยขยายตัวผิดปกติ มีเนื้องอกที่เส้นเลือด หรือเป็นโรค

  ที่ทำให้การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ซึ่งหากเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ เด็กๆ

  จะมีเลือดออกง่าย มีปริมาณเลือดไหลมาก และยังพบว่ามีเลือดออกที่

  ตำแหน่งอื่นให้เห็นด้วย เช่น มีจุดจ้ำเลือดตามตัวค่ะ

 

 

First Aid

วิธี ปฐมพยาบาลเมื่อลูกเลือดกำเดาไหล อันดับแรก พ่อแม่ต้องอย่าตกใจและพยายามปลอบลูก ถ้าลูกร้องไห้ ควรปลอบให้ลูกหยุดร้องโดยเร็ว เพราะถ้ายิ่งร้องไห้ ความดันเลือดจะสูงขึ้น ทำให้เลือดไหลออกมามาก

                                                                  ยิ่งขึ้น

 

จับ ให้ลูกนั่งพร้อมกับเอนตัวไปข้างหน้า เพื่อให้เลือดกำเดาไหลออกมา ไม่ควรให้ลูกนั่งแหงนหน้าไปด้านหลัง จะทำให้เลือดไหลลงคอ จนเกิดการสำลัก หลังจากนั้นอาจให้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบที่บริเวณจมูก ความเย็นจะช่วยทำให้เส้นเลือดหดตัว กระตุ้นให้เลือดหยุดเร็วขึ้น หรืออาจใช้ผ้ากอซ ม้วนเป็นชิ้นเล็ก แล้วใส่ในโพรงจมูกเพื่อกดตำแหน่งที่เส้นเลือดเปราะบาง

แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้าเป็นเลือดกำเดาที่ไม่เป็นอันตราย เลือดจะหยุดไหลเองประมาณ 5 นาที

 

 

ป้องกัน เลือดกำเดาไหล

พยายาม ดูแลไม่ให้ลูกแคะ แกะ เการูจมูก หรือสั่งน้ำมูกแรงๆ และหลีกเลี่ยงการเอาสิ่งแปลกปลอมใส่ไปในรูจมูก ถ้าเป็นเด็กวัยอนุบาล ก็ควรสอนลูกให้หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ พร้อมกับสอนวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ลูกรับรู้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ควรให้ลูกออกกำลังกาย เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ เพราะหากลูกเป็นหวัดบ่อยๆ จะทำให้บริเวณโพรงจมูกอักเสบ เส้นเลือดฝอยเปราะแตกง่ายขึ้น

 

ทาง ที่ดี พ่อแม่ควรสังเกตอาการเลือดกำเดาของลูกอยู่เสมอค่ะ ว่าเป็นเลือดกำเดาไหลที่ควรระวังหรือไม่ ถ้าพบว่าลูกมีเลือดกำเดาไหลผิดปกติ ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วนนะคะ

 

ติดตามเรื่องราวสุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อยวัย0-3ปีได้ในนิตยสารรักลูกฉบับกุมภาพันธ์นะคะ

           Link   https://www.raklukemag.com

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                  การปฐมพยาบาลเลือดกำเดาไหล



         
เลือดกำเดาอาจเกิดขึ้นได้บ่อยในเด็ก ๆ มากกว่าในผู้ใหญ่ สำหรับเลือดกำเดาไหลในเด็ก
มักเกิดในช่วงหน้าหนาวที่อากาศแห้ง ทำให้เยื่อบุจมูกพลอยแห้ง และตกสะเก็ดไปด้วย
เมื่อสะเก็ดถูกแคะแกะเกา ก็ทำให้มีเลือดออกตามมา สาเหตุอื่นที่พบได้บ่อย คือ
ในช่วงที่เป็นหวัดหรือการอักเสบของทางเดินหายใจส่วนบน หรือกรณีที่มีไข้สูง
จากสาเหตุใดก็ตาม เส้นเลือดฝอยเล็กๆ ในจมูกอาจแตกและทำให้มีเลือดกำเดาไหลได้เช่นกัน
คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับการปฐมพยาบาล คือ
1.บีบที่จมูกโดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ ประมาณ 5 นาที โดยระหว่างนี้ให้หายใจทางปากแทน
2.นั่งตัวตรงหรือนอนให้ศรีษะสูง เพื่อป้องกันการสำลักเลือด
3.ประคบบริเวณจมูกและแก้มด้วยผ้าเย็น หรือน้ำแข็ง เพื่อช่วยให้เลือดหยุดเร็วขึ้น
4.หลีกเลี่ยงการแคะจมูก การสั่งน้ำมูกแรงๆ และการยกของหนัก
5.กรณีอากาศแห้งในช่วงหน้าหนาว อาจใช้วาสลีนครีม หรือขี้ผึ้งทาบริเวณเยื่อบุจมูกเพื่อให้เกิด ความชุ่มชื้น
    หากมีไข้ควรให้ยาลดไข้ร่วมด้วย
 
สำหรับเลือดกำเดาไหลที่พบในผู้ใหญ่มักเกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของหลอดเลือด
หลอดเลือดจะเปราะ บางรายอาจมีความดันโลหิตสูง หรือมีเนื้องอกอื่นๆ ในช่องจมูก
สิ่งที่บอกเหตุว่าท่านไม่ควรรีรอที่จะไปพบแพทย์คือ
1.เลือดออกบ่อยๆ หรือออกจำนวนมาก
2.เลือดออกข้างเดียวเรื้อรัง
3.มีอาการอื่นๆ ร่วม เช่น อ่อนเพลีย หน้ามืดจะเป็นลม
             Link    https://www.roiet.go.th

อัพเดทล่าสุด