7 สัญลักษณ์ที่เราเห็นกันแทบทุกวัน กับต้นกำเนิดที่เราไม่เคยรู้

อ้างอิงไปถึงภาษาลาตินในอดีต คำว่า “questio” จะถูกใส่ลงที่ท้ายประโยคคำถามเสมอ แต่เพื่อการประหยัดเนื้อที่ให้คำดูสั้นลง จึงมีการใช้คำว่า “qo” แทน และต่อมาก็มีการย่อตัวอักษร “o” ไปอยู่ใต้ “q” และเพื่อความง่ายในการเขียน ตัวอักษร “o” จึงเหลือเพียงแค่จุดเล็กๆ ในที่สุด

2. ลูกศร

สัญลักษณ์ลูกศรมาจากยุคกรีกโบราณ เดิมทีมันเป็นสัญลักษณ์รอยเท้าที่ระบุการมีอยู่ของซ่องโสเภณี แต่ถูกน้ำฝนชะล้างจะมีลักษณะคล้ายกับลูกศรในที่สุด

3. ดอลลาร์

มีข้อสันนิษฐานหลายอย่างถึงที่มาของสัญลักษณ์ดอลลาร์ โดยข้อสัญนิษฐานแรกมาจากค่าเงินของสเปนในยุคกลางที่ใช้คำว่า PS จนต่อมา ตัว P ถูกย่อลงเหลือเป็นแค่ขีดอยู่ตรงกลางตัวอักษณ S ส่วนอีกข้อสันนิษฐานเชื่อว่า ในยุคอาณานิคม ชาวสเปนทำสัญลักษณ์ตัว S บนก้อนทองคำของชาวอเมริกัน ซึ่งตัว S จะถูกขีดเป็นเส้นแนวตั้งเอาไว้ ส่วนถ้ามี 2 ขีดแสดงว่าเป็นทองคำที่จะถูกส่งกลับสเปน

4. เครื่องหมายตกใจ

ความเป็นไปได้ของสัญลักษณ์เครื่องหมายตกใจมาจากภาษาลาตินคำว่า “exclamatio” ซึ่งถูกใช้อยู่ท้ายประโยคที่แสดงถึงความตื่นเต้นยินดี ต่อมาได้ถูกย่อให้สั้นลงจนเหลือแค่ “io” และเมื่อมีการย่อ “o” ลงไปอยู่ด้านล่าง i จึงกลายเป็น ! ในที่สุด

5. เครื่องหมายอินฟินิตี้

เครื่องหมายนี้ถูกใช้ครั้งแรกโดยนักคณิตศาสตร์ จอห์น วิลลิส ในปี 1655 แต่ไม่มีใครรู้ว่า แรงบันดาลใจของเขาในการคิดค้นเครื่องหมายอินฟินิตี้ขึ้นมานั้นมาจากไหน บางคนเชื่อว่ามันมาจากตัวอักษรโอเมก้า (ω) ของกรีก ส่วนบางคนเชื่อว่ามันมาจากตัวเลขโรมันคือ 1,000 (“CIƆ” หรือ “CƆ”)

6. เครื่องหมายเปอร์เซ็นต์

คำว่า “percent” มาจากภาษาลาตินคำว่า “per centum” (ร้อยละ) ต่อมามันกลายมาเป็น “per cento” และเป็น “per 100”, “p cento”, “pc-0” และถูกย่อเป็น “pc” ก่อนที่จะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ o/o และ % ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

7. สัญลักษณ์สันติภาพ

ท่าทางการชูสองนิ้วที่สื่อถึงสัญลักษณ์ของสันติภาพนี้ ถูกใช้ครั้งแรกในสงคราม 100 ปี ระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส โดยทางฝรั่งเศสขู่ว่าจะตัดนิ้วพลธนูของอังกฤษ ส่วนในภาษาอังกฤษ การชูนิ้วเป็นตัว V หมายถึงคำว่า Victory ที่แปลว่าชัยชนะ และยังถูกใช้ในเชิงของสันติภาพอีกด้วย ต่อมาในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 วินสตัน เชอร์ชิลล์ ได้นำท่าทางนี้กลับมาใช้โดยสื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ