การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในวัยรุ่น ผลกระทบของการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์


บทความต่อไปนี้เขียนขึ้นมาเพื่อให้ท่านได้เข้าใจถึงผลของการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ และเพื่อให้เข้าใจว่าเขาทำแท้งกันอย่างไร มีอันตรายอย่างไร และมีรูปภาพของผลจากการแท้งว่าเป็นเช่นไรประกอบเห็นแล้วอาจจะไม่น่าดูแต่ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ผมขอยืนยันว่าผมไม่ได้มีเจตนายุยง ส่งเสริมให้มีการทำแท้งแต่อย่างใด ผมหวังและมีเจตนาเพื่อเป็นการเตือนสติให้ผู้อ่านตระหนักถึงการหลีกเลี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควร และการป้องกันตัวเองจากการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุและเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ

เนื่องจากสภาพของสังคมไทยในปัจจุบัน ได้มีการรับวัฒนธรรมทางตะวันตกเข้ามาอย่างมากมาย มีความเจริญทางวัตถุ ศิลธรรมถดถอย สถาพสังคมตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสื่อต่างๆ สถานเริงรมย์ สิ่งยั่วยุกามารมณ์ ปัญหายาเสพติด ครอบครัวแตกแยก รักในวัยเรียน การย้ายถิ่นห่างไกลจากครอบครัว เข้าสู่สังคมเมือง เพื่อการศึกษา และขายแรงงานเหล่านี้ ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เพิ่มมากขึ้น จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานเกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์จากความประมาท 2 ลักษณะคือ
--ประมาทว่าการอยู่ด้วยกันตามลำพัง ไม่คิดว่าจะทำให้เกิดมีเพศสัมพันธ์ จึงไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการป้องกัน
--ประมาทว่าตนเองไม่น่าจะตั้งครรภ์ได้ง่ายๆ เพราะเป็นการมีเพศสัมพันธ์กันเพียงครั้งเดียว หรือไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันบ่อยๆ

ส่วนผู้หญิงที่แต่งงานแล้วสาเหตุของการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ คือการขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการวางแผนครอบครัว ความไม่พร้อมที่จะมีลูกอันเนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ หรือตั้งครรภ์กับชายนอกสมรส

เมื่อเกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ขึ้น ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายต้องตัดสินใจแก้ปัญหาแต่เพียงผู้เดียว และภายใต้ความกดดันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการเรียน ด้านอายุ ครอบครัว สังคม และเศรษฐกิจ ผลที่ตามมาคือความเครียดจากความไม่พร้อมที่กล่าวแล้วซึ่งอาจจะนำไปสู่ปัญหาทางด้านสุขภาพจิตได้ และทางแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะเลือกกระทำ คือ การทำแท้ง ทั้งๆ ที่ผู้หญิงเหล่านั้น ร้อยละ 42.7 รู้สึกเสียใจที่ต้องทำแท้ง และร้อยละ 76.6 รู้สึกกลัวอันตราย ที่จะเกิดจากการทำแท้ง ซึ่งได้แก่ การแท้งไม่สมบูรณ์ ตกเลือด มดลูก/ลำไส้ทะลุ เยื่อบุช่องท้องอักเสบ ติดเชื้อ ช็อก หรืออาจเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก และเป็นหมันในภายหลัง ซึ่งล้วนแต่เป็นอันตรายต่อชีวิต และสุขภาพของผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ หากมาคิดกันดีๆ แล้วคงไม่มีใครปฏิเสธว่า หากไม่ท้องคงไม่ต้องทำแท้ง ดังนั้นน่าจะมีสติป้องกันตนเองไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควรน่าจะง่ายว่ากันเยอะเลยจริงไหมครับ

นอกจากนั้นการทำแท้ง ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายสำหรับประเทศไทยเรา ตามกฎหมายแล้ว การทำแท้งนั้น ไม่ว่าหญิงที่ตั้งครรภ์นั้นจะยอมหรือไม่ยินยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูกก็ตาม ผู้ที่ทำให้หญิงนั้นแท้งลูกมีความผิดฐานทำให้หญิงแท้งลูก ส่วนตัวผู้หญิงหากทำแท้งเอง หรือยอมให้ผู้อื่นทำแท้งให้ ก็มีความผิดเช่นกัน ซึ่งยกเว้นเพียง 2 กรณีคือ กรณีแรกเนื่องจากมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความผิดปกติของทารกในครรภ์ ทารกในครรภ์เสียชีวิต หรือเมื่อการตั้งครรภ์จะเป็นอันตราย ต่อสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์นั้น มารดามีปัญหาทางสุขภาพ มารดาป่วยด้วยโรคต่อมไร้ท่อ โรคหัวใจ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ภาวะปัญญาอ่อน ติดเชื้อหัดเยอรมัน โรคเบาหวานอย่างรุนแรง และมะเร็ง เป็นต้น กรณีที่ 2 คือถูกข่มขืน

การทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลงหรือการทำแท้งตามหลักวิชาการในปัจจุบันแบ่งได้ 2 แบบคือ

1) Medical Abortion แท้งโดยใช้ยา ผมจะไม่ขอกล่าวณ. ที่นี้เพราะมียาอยู่หลายตัวซึ่งถือเป็นยาอันตรายและจำเป็นจะต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์

2) Surgical Abortion แท้งโดยใช้เครื่องมือ ผมขอนำมากล่าว 3 วิธี
2.1) การดูดตัวอ่อน ซึ่งเป็นการทำแท้งระยะแรก คือไม่เกิน 8 สัปดาห์แรก วิธีการทำแท้งที่ใช้คือการดูด ทำโดยใช้ยาชาฉีดที่บริเวณปากมดลูก แล้วขยายถ่างออกให้กว้าง จากนั้น ก็ใช้เครื่องดูดสุญญากาศ หรือ ปั้มลมต่อกับท่อเล็ก ๆ สอดเข้าไปในมดลูก ค่อย ๆ ดูดตัวอ่อนออกมา อันตรายที่อาจเกิดได้ เช่น มดลูกทะลุ ติดเชื้อและอักเสบ
2.2) การขูดมดลูก กระทำได้ตั้งแต่ครรภ์ 4-12 สัปดาห์ โดยการใช้แท่งขยายมดลูกสอดเข้าไปในปากมดลูกเพื่อให้ปากมดลูกขยายออกแล้วนำเครื่องมือขูดมดลูกสอดเข้าไปในมดลูกเพื่อขูด และตัดเอาทารกตัวอ่อน สายสะดือในมดลูกออกมา อันตรายที่อาจเกิดได้เช่น มดลูกทะลุ มดลูกอักเสบ ถ้าคนทำไม่ชำนาญอาจขูดลึกถึงกล้ามเนื้อมดลูกทำให้มีเลือดออกกระปริบกระปรอยเรื้อรัง และเมื่อภายหลังต้องการให้ตั้งครรภ์ก็อาจแท้งได้ง่าย
2.3) การเร่งคลอด ใช้ในกรณีตั้งครรภ์ 16-26 สัปดาห์ โดยการฉีดน้ำเกลือเข้มข้น 20 % เข้ามดลูกผ่านทางหน้าท้อง หลังจากนั้นก็ให้ยาเร่งคลอดในน้ำเกลือค่อยๆหยดทางสายน้ำเกลือเข้าเส้นเลือด บางคนอาจใช้ยาขยายปากมดลูกสอดเข้าช่องคลอดช่วยให้การคลอดง่ายขึ้นด้วย หลังจากนั้นเมื่อปวดท้องคลอด คนไข้ก็ต้องเบ่งคลอดเหมือนคนคลอดทั่วไป อันตรายที่อาจเกิดได้ เช่น การติดเชื้อ มดลูกทะลุ รวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงคลอดซึ่งก็เหมือนการคลอดปกติทั่วไปแต่ทารกที่คลอดออกมาจะเสียชีวิต


การตั้งครรภ์นั้นเกิดจากการกระทำของคน 2 คน ชายและหญิง แต่คนที่ต้องได้รับผลโดยตรงต่ออันตรายของการทำแท้งคือผู้หญิงเพียงลำพังที่ต้องเสี่ยงทั้งชีวิตของตนเอง (ยิ่งอายุครรภ์มากความเสี่ยงและอันตรายจากการทำแท้งก็ยิ่งสูง) และที่สำคัญและไม่อาจขจัดให้หมดไปได้คือความสะเทือนใจเสียใจในฐานะของผู้ที่ได้อุ้มท้องทารกนั้นมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น ผมอยากจะบอกคุณผู้หญิงทั้งหลายว่า ก่อนจะตกร่องปล่องชิ้นกับใคร ก็ควรใช้สติใคร่ครวญดูให้ดีๆนะครับ อย่าเพิ่งให้อะไรเค้าไปง่ายๆ เพราะผู้ชายนั้นสบายครับ ไม่ท้อง แถมบางคนยังนิสัยไม่ดี ไม่รับผิดชอบด้วย อย่างเช่นประโยคที่พวกผู้ชายมักจะพูดกันอยู่เสมอเมื่อเวลาทำให้ใครท้องขึ้นมาว่า “เวลาทับไม่ร้อง เวลาท้องจะให้รับ” ต้องระวังให้มากๆครับ สมัยนี้ไว้ใจใครไม่ได้ และที่สำคัญคือจะไว้ใจตัวเองก็ยังยากเลยจริงไหมครับ ผมว่าทางที่ดีอย่าริรักในวัยเรียนและอย่ามีเพศสัมพันธ์ก่อนการสมรส ไม่ว่าเราจะรักเขามากสักแค่ไหนก็ตามนะครับ เพราะใครจะไปรู้ว่าคนที่เรารักอาจคิดว่าสิ่งที่คุณมอบให้เขาไปง่ายๆ นั้นไม่มีค่าอะไรเลยก็เป็นได้นะครับ ผมขอจบบทความนี้ด้วยนิทานเรื่อง"เหรียญ 5 บาท" ผมเชื่อว่าอ่านจบแล้วคงช่วยให้คุณผู้หญิงทั้งหลายเห็นคุณค่าของความสาวความบริสุทธิ์ที่ติดตัวคุณมาบ้างนะครับ

ในค่ำคืนนึง... หลังจากสวดมนต์ไหว้พระกับคุณพ่อ คุณแม่แล้ว คุณพ่อเรียกลูกเข้าไปพบแล้วบอกลูกว่าพ่อมีอะไรให้ดูซึ่งสำคัญมาก ว่าแล้วคุณพ่อก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อเอามือกำไว้ พ่อถามว่าอยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือพ่อ ลูกพยักหน้า
ถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 3 ที ลูกทำตาม..
คุณพ่อว่า ไม่พอ ต้อง 5 ที
และเปลี่ยนเป็น 10 ที จนถึง 15 ที จนลูกอุทธรณ์...
ก็ลูกอยากทราบนี่คะว่าเป็นอะไร เมื่อคุณพ่อแบมือออก มันคือเหรียญ 5 บาทธรรมดานี่เอง คุณพ่อหัวเราะ ! ! ! แล้วกำมือกับเหรียญ 5 บาทเหมือนเดิม ถามว่าอยากดูอีกมั้ย ถ้าอยากดูต้องเขกพื้น 10 ทีลูกว่า หนูรู้แล้วไม่อยากดูค่ะ
คุณพ่อว่า เอ้า... เขกพื้น 1 ทีก็ได้
ลูกก็บอก ว่าทราบแล้วไม่อยากดูอีก เบื่อ !
คุณพ่อว่า ให้ดูฟรีๆ ก็ได้แล้วก็แบมือออก ลูกก็ดูๆไปอย่างนั้นเอง
คุณพ่อเลยสอนว่า " นี่ละลูก อะไรที่เป็นความลับคนมักยอม ทำทุกอย่างที่จะได้สมปรารถนา อยากดู อยากรู้ อยากเห็น แต่เมื่อสมปรารถนาแล้ว ดูบ่อยๆแล้วก็มักจะเบื่อ ให้ดูฟรี ๆ ยังไม่อยากจะดูเลย แล้วสิ่งที่พึงหวงแหนสำหรับลูกผู้หญิงเป็นสิ่งที่มีค่า ถ้าให้ใครรู้หรือดูก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่าอะไร ไม่ต่างกับเหรียญ 5 บาทที่พ่อให้ลูกดูฟรีๆหรอก"

อัพเดทล่าสุด