แนวทางการรักษาไข้ : แบบฉบับท่านนบีมูฮัมหมัด ซล.


1,054 ผู้ชม

มีแพทย์หลายคนที่ยังเข้าใจสับสนเกี่ยวกับหะดีษนี้ และพวกเขายังปฏิเสธแนวทางการรักษาไข้ดังกล่าว ซึ่งเราจะได้อธิบายให้เห็นถึงเดชานุภาพของพระองค์อัลลอฮ์ ซบ.และความเข้าใจอันลึกซึ้งของพระองค์ ...


แนวทางการรักษาไข้ : แบบฉบับท่านนบีมูฮัมหมัด ซล.

หนึ่งในแบบฉบับที่สวยงามของมหาบุรุษท่านนี้

ปรากฏในหนังสือหะดีษซอเฮียะห์ทั้งสองเล่ม จากนาเฟียะอ์ จากอิบนิอุมัร ได้เล่าว่า
ท่านนบี มุฮัมมัด ซล.ได้ทรงกล่าวไว้ว่า
"แท้จริงไข้หรือไข้สูงนั้นมาจากไฟนรก ดังนั้นจงทำให้มันเย็นลงด้วยน้ำ" (ซอเฮียะห์บุคอรี, 5723)

มีแพทย์หลายคนที่ยังเข้าใจสับสนเกี่ยวกับหะดีษนี้ และพวกเขายังปฏิเสธแนวทางการรักษาไข้ดังกล่าว ซึ่งเราจะได้อธิบายให้เห็นถึงเดชานุภาพของพระองค์อัลลอฮ์ ซบ.และความเข้าใจอันลึกซึ้งของพระองค์ และเราขอกล่าวว่าคำตอบของท่านนบีมุฮัมมัด ซล.นั้นมีสองอย่าง อย่างแรกเป็นการทั่วไปให้กับทุกๆ คน อย่างที่สองเป็นการเฉพาะเจาะจงสำหรับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง สำหรับคำกล่าวของนบีโดยทั่วไปจะเป็นการกล่าวโดยรวมๆ สำหรับทุกๆ คน ส่วนอย่างที่สอง (เฉพาะคน เฉพาะสถานการณ์) ก็เช่นดังคำกล่าวของท่านนบีซล.ที่ว่า "ท่านทั้งหลายจงอย่าขับถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะโดยหันหน้าหรือหันหลังให้กับกิบละห์ แต่ให้หันไปทางทิศตะวันออกหรือตะวันตกแทน" (ซอเฮียะห์บุคอรี, 394) แน่นอน หะดีษนี้ไม่ได้หมายรวมไปถึงชนเผ่าที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกหรือตะวันตกของกะบะห์หรือประเทศอิรักแต่ประการใดไม่ แต่หมายความถึงพวกชาวมะดีนะห์หรือผู้ที่อยู่ในแนวเดียวกันเท่านั้น เช่นประเทศซีเรีย หรืออื่นๆ เช่นเดียวกับคำกล่าวที่ว่า "สิ่งที่อยู่ระหว่างตะวันขึ้นและตะวันตกคือกิบละห์" (ซอเฮียะห์ ติรมิซีย์, 344) เมื่อรู้เช่นนี้แล้วเราต้องรู้ว่าคำตอบของ หะดีษนี้คือ สำหรับชาวหิญาซหรือผู้ที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากไข้ที่เกิดขึ้นกับคนเหล่านี้ส่วนมากเป็นไข้ที่เกิดจากการโดนแสงแดดอันร้อนแรงของทะเลทรายแผดเผา ซึ่งแน่นอนในสภาวะเช่นนี้การใช้น้ำเย็นดื่มและอาบจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมและมีประโยชน์ และไข้นั้นคือความร้อนจากภายนอกที่ลุกขึ้นในหัวใจข้างในและถูกหัวใจบีบให้วิ่งไปตามทางเดินของเลือดลมต่างๆ ออกไปตามเหงื่อไปทั่วร่างกาย เมื่อเกิดความร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเป็นอันตรายต่อการทำงานปกติของร่างกาย

ไข้หรือความร้อนในร่างกายนั้นจะแบ่งได้เป็นสองชนิดคือ

ไข้ عرضية หรือ ไข้ภายนอก คือความร้อนในร่างกายที่เห็นหรือเกิดมาจากสาเหตุภายนอกร่างกาย ได้แก่ ก้อนบวม (คงหมายถึงฝีหนองอักเสบ ผู้แปล) การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือความร้อนที่ได้รับจากแสงอาทิตย์เผาโดยตรงหรืออากาศที่ร้อนมากๆ

อีกอย่างหนึ่งคือ ไข้مرضية หรือไข้ภายใน ที่เกิดจากความป่วยไข้ภายใน ซึ่งมักเกิดในอวัยวะในอวัยวะหนึ่งแล้วแพร่กระจายออกไปจนทั่วร่างกาย ถ้าหากเป็นไข้ที่เริ่มด้วยลมหรือเกี่ยวพันกับลมในร่างกาย ก็เรียกว่า ไข้วัน حمى اليوم ) ) เนื่องจากมันมักจะหายภายในวันนั้นหรือไม่เกินสามวัน ถ้าหากเป็นชนิดที่เกิดจากส่วนผสมที่เป็นอันตรายเรียกว่า แผลเน่าเปื่อย ( عفنية ) ซึ่งมีอยู่สี่แบบ แบบน้ำดีเหลือง แบบน้ำดีดำ แบบเป็นก้อนเมือกเสมหะ และแบบเป็นคล้ายก้อนเลือดเน่าๆ ถ้าเป็นไข้ที่เกิดจากกระดูกสันหลังก็เรียกว่า ไข้ดักกุน ( دق ) นอกจากนี้ยังมีการแบ่งย่อยไปอีกหลายอย่างมากมาย
แท้จริงไข้นั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับร่างกายมากกว่าตัวยาเองด้วยซ้ำไป เช่น ในไข้วันหรือไข้จากแผลเน่าเปื่อย ซึ่งจะทำให้สารพิษบางอย่างในร่างกายสุกสมบูรณ์ โดยที่ถ้าไม่มีไข้ มันก็จะไม่สุก และไข้ยังช่วยเปิดเส้นทางเลือดทางลมให้กับยาต่างๆ ที่จะเข้าไปในจุดที่ในภาวะปกติยานั้นจะเข้าไปไม่ถึงด้วย ส่วนโรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดงนั้น ไข้จะทำให้มันหายได้อย่างรวดเร็วมากและไข้ยังสามารถรักษาโรคได้หลายอย่าง มีประโยชน์ในโรคอัมพาตอัมพฤกษ์ โรคชักกระตุกและโรคอื่นๆ อีกหลายโรคที่เกิดจากของเสียหรือกากที่มากเกินในร่างกาย แพทย์บางคนจะรู้สึกดีเวลาคนป่วยมีไข้เหมือนกับว่าคนป่วยนั้นกำลังจะหายแล้ว การมีไข้จึงมีประโยชน์ดีกว่าที่จะไปทำให้ไข้หายไปและมันยังช่วยให้เกิดการจับตัวกันเองระหว่างส่วนผสมหรือของเสียที่ทำให้เกิดพิษภัยต่อร่างกาย ทำให้ของเสียเหล่านั้นสุกและเหมาะสำหรับให้ยามาทำปฏิกิริยาได้ หลังจากนั้นของเสียนั้นก็จะถูกขับออกไปจากร่างกาย เมื่อของเสียนั้นออกไปแล้วร่างกายจึงหายป่วย ดังนั้น ไข้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา

เมื่อรู้ดังนี้แล้ว เราก็จะเข้าใจได้ดีทีเดียวว่าจุดมุ่งหมายของหะดีษนี้น่าจะหมายถึงไข้ชนิดแรกคือ ไข้ภายนอก عرضية ) ) ที่เกิดจากภายนอกร่างกายหรือเกิดจากก้อนบวมร้อนมากกว่า ซึ่งความร้อนหรือไข้ชนิดนี้ เราควรใช้ความเย็นหรือน้ำเย็นประคบหรือจุ่มแช่ในน้ำเย็นโดยไม่ต้องใช้วิธีอื่นช่วยอีกเพราะมันเป็นเพียงความร้อนที่เกิดจากลม ดังนั้น การทำให้มันหายไปด้วยการใช้ความเย็นเข้าไปแทนที่จึงเป็นการพอเพียงแล้วโดยไม่ต้องใช้การทำให้อาเจียนเพื่อเอาของเสียออก หรือทำให้ของเสียในร่างกายนั้นสุกแต่ประการใด แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่หะดีษนี้จะหมายรวมถึงไข้หลายๆ ชนิด กาเลน (Galen) แพทย์ผู้มีชื่อเสียงได้เคยยอมรับว่า น้ำเย็นนั้นมีประโยชน์ในการรักษาไข้โดยมีบันทึกไว้ในหนังสือ "หนทางเยียวยา ( حيلة البرء )" ว่า "ถ้าหากผู้มีไข้นั้นเป็นชายหนุ่มแข็งแรง มีกล้ามเนื้อใหญ่โต ในสภาพที่ยังตื่นอยู่และมีไข้สูงมาก ไม่มีก้อนบวมอักเสบใดๆ ในร่างกาย ก็ให้อาบน้ำหรือแช่น้ำเพื่อลดไข้ก็จะได้ประโยชน์" ท่านรอซีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือของเขา (อัลกะบีร) ว่า "เมื่อมีกำลังแข็งแรงดี แต่มีไข้สูงเห็นได้ชัดเจนว่าสารพิษทุกๆ อย่างสุกดีแล้วและไม่มีก้อนบวมอักเสบในที่ต่างๆ ในร่างกาย การดื่มน้ำเย็นก็มีประโยชน์ถ้าผู้ป่วยเป็นคนแข็งแรงและเป็นช่วงเวลาที่ร้อนมากและเป็นช่วงที่ต้องการน้ำเย็นจากภายนอกมาช่วยให้เย็น ก็ให้ใช้น้ำเย็นได้" และคำกล่าวของท่านนบี ซล.ที่ว่า "ไข้นั้นเป็นลมหายใจของไฟนรก" นั่นหมายถึงความร้อนหรือไข้ที่สูงมากมีการอักเสบมาก มีการแพร่กระจายมาก และคำพูดของท่านนบี ซล.ที่ว่า "ความร้อนที่สูงมากๆ นั้นมาจากไฟนรก" นั้น มีความหมายเป็นสองนัยยะ อันที่หนึ่งคือ แสดงให้เห็นถึงความร้อนของไข้และของไฟนรกนั้นเป็นสิ่งเดียวกันหรือเท่ากัน และพระผู้เป็นเจ้าให้มีมันขึ้นมาก็เพื่อให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์จากมันและเรียนรู้มัน (ให้เทียบไข้กับความร้อนและความทรมานของไฟนรกให้รู้จักอดทนยอมรับการลงโทษ) นั่นเอง เช่นเดียวกับวิญญาณ ความสุข รสชาติต่างๆ เป็นสิ่งที่แสดงถึงสวรรค์ที่พระผู้เป็นเจ้าต้องการเปรียบเทียบให้เราเห็น (เอาความสุขที่มีอยู่ในโลกเปรียบกับความสุขในสวรรค์) ดังนั้นการมีมันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น อันที่สอง เปรียบเทียบความร้อนและความทรมานของไข้ที่สูงนั้นเหมือนกับความร้อนของไฟนรก เพื่อเป็นการเตือนให้เห็นถึงความน่ากลัวของการลงโทษในนรกว่ามีความร้อนและความทรมานมากมายเพียงใด และคำพูดของท่านนบี ซล.ที่ว่า "ทำให้มันเย็นลงด้วยน้ำ" นั้น ความเห็นหนึ่งบอกว่า รวมถึงน้ำทุกชนิด ซึ่งนี่น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องกว่าตามหลักการแพทย์ แต่อีกความเห็นหนึ่งบอกว่า ต้องเป็นน้ำซัมซัม โดยอ้างหะดีษซอเฮียะห์ รายงานโดยท่านญุมเราะห์นัซร อิบนิอิมรอนกล่าวว่า ฉันกำลังนั่งอยู่กับอิบนิอับบาสที่มักกะห์และได้มีไข้ขึ้น ท่านอิบนิอับบาสได้กล่าวว่า ท่านจงทำให้เย็นลงด้วยน้ำซัมซัมเถิด เพราะแท้จริงท่านนบีมุฮัมมัด ซล.ได้ทรงกล่าวไว้ว่า "แท้จริงไข้นั้นมาจากไฟนรก ดังนั้นจงทำให้เย็นลงด้วยน้ำ" หรืออีกรายงานว่า "น้ำซัมซัม" (ซอเฮียะห์บุคอรี, 3261) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ความจริงแล้วถ้าเป็นจริง (สั่งให้ใช้น้ำซัมซัมจริง) ก็น่าจะใช้เฉพาะพวกที่อยู่มักกะห์มากกว่า ส่วนผู้ที่อยู่ที่อื่นก็น่าจะใช้น้ำตามที่เขามีอยู่ นอกจากนี้ยังมีความเห็นแตกต่างกันอีกเรื่องของน้ำว่า ด้วยน้ำนั้น หมายถึงให้ใช้น้ำทำให้เย็น หรือให้ทำการบริจาคน้ำเป็นทานแน่? แต่จากหะดีษ ที่ถูกต้องนั้นค่อนข้างแน่ชัดว่า น่าจะเป็นการใช้น้ำทำให้เย็นมากกว่า แต่ผู้ที่มีความเห็นว่า เป็นการบริจาคน้ำนั้นคงจะสับสนว่า การใช้น้ำเย็นเป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับคนมีไข้ โดยไม่ได้เข้าใจถึงเหตุผลที่แท้จริงของมัน ซึ่งได้ประโยชน์กว่า เช่นเดียวกับที่เมื่อเรากระหายน้ำก็ดับกระหายด้วยการดื่มน้ำ ดังนั้นเมื่อเรามีไข้เราก็ควรดับหรือบรรเทาด้วยการดื่มหรือใช้น้ำด้วยเช่นกัน

อบูนุอัยมและท่านอื่นๆ ได้กล่าวจากหะดีษที่ท่านอานัสรายงานเป็นหะดีษมัรฟัวอ์ไว้ว่า "เมื่อคนๆ หนึ่งมีไข้ก็ให้เขารดด้วยน้ำเย็น เป็นเวลาสามคืนติดๆ กัน" (ซอเฮียะห์ อัลฮากิม, 200/4)

และในหนังสือสุนันอิบนิมาญะห์จากท่านอบีหุรอยเราะห์เป็นหะดีษมัรฟัวว์เช่นกันว่า "ไข้นั้นเป็นเครื่องสูบไฟจากไฟนรก ดังนั้นจงบรรเทาด้วยน้ำเย็น" (ซอเฮียะห์ อิบนิมาญะห์, 3475)

ในหนังสือมุสนัดและหนังสืออื่นๆ รายงานหะดีษ ระดับหะซัน เป็นหะดีษมัรฟัวอ์จากซะมุเราะห์กล่าวว่า "ไข้ นั้นเป็นส่วนหนึ่งจากไฟนรก ดังนั้นจงทำให้มันเย็นลงด้วยน้ำเย็น และท่านศาสดา ซล.ได้เคยให้ผู้ใกล้ชิดนำน้ำมาให้เวลามีไข้และนำน้ำนั้นมาราดศีรษะและชำระล้างตามตัว" (ระดับอ่อน)

และในหนังสือสุนัน จากหะดีษอบีหุรอยเราะห์ได้กล่าวว่า มีคนๆ หนึ่งเป็นไข้ และได้สาบแช่งมัน ท่านนบีจึงกล่าวว่า "อย่าสาบแช่งไข้ เพราะแท้จริงมันเป็นสิ่งชำระล้างบาปเหมือนกับไฟที่ขจัดสนิมเหล็ก" (ระดับอ่อน อิบนิมาญะห์, 3469)

เช่นเดียวกัน มีไข้บางชนิดที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่เน่าเสีย ต้องตามด้วยการรับประทานอาหารที่ดีแล้วจึงให้ยาเข้าไป ทั้งสองอย่างจะช่วยทำให้ร่างกายสะอาดบริสุทธิ์และขจัดพิษจากอาหารที่เน่าเสียนั้น เช่นเดียวกับที่ไฟได้ขจัดสนิมออกจากเหล็ก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นที่รู้กันดีในวงการแพทย์

ส่วนที่ความป่วยไข้สามารถขจัดสิ่งไม่ดีออกจากหัวใจและชำระล้างมันให้บริสุทธิ์ก็เป็นสิ่งที่แพทย์ทางด้านโรคหัวใจ (จิตใจ) ควรเรียนรู้จากสิ่งที่ท่านนบีบอกไว้ แต่สำหรับหัวใจที่ป่วยถึงขั้นสิ้นหวังแล้ว การรักษานี้ก็จะไม่สามารถช่วยได้ ไข้จึงมีประโยชน์ทั้งร่างกายและหัวใจ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการไม่ดีที่จะไปสาปแช่งไข้

มีคำกล่าวว่า เป็นไข้หนึ่งวันได้รับอภัยโทษทัณฑ์หนึ่งปี และยังมีคำกล่าวอีกว่า ไข้นั้นจะเข้าไปทุกๆ อวัยวะและข้อต่างๆ นับได้ถึงสามร้อยหกสิบข้อและชำระล้างบาปต่างๆ ตามจำนวนข้อเหล่านั้น ข้อละหนึ่งวัน มีผู้กล่าวว่าแท้จริงมันได้ทิ้งร่องรอยหรือผลที่ตามมาภายหลัง เป็นเวลานานถึงหนึ่งปี เช่นเดียวกับคำกล่าวของท่านนบีที่ว่า "ผู้ใดดื่มสุรา พระผู้เป็นเจ้าจะไม่รับการละหมาดของเขาสี่สิบวัน" (ซอเฮียะห์ อะห์หมัด, 176/2) นั่นคือ ผลของสุรามีติดตามมาหลังจากวันดื่มในตัวของผู้ดื่ม ในอวัยวะของเขา ในข้อต่อต่างๆ ของเขาเป็นเวลาถึงสี่สิบวัน และท่านอบีหุรอยเราะห์ได้กล่าวไว้ว่า "ไม่มีความป่วยใดๆ ที่ฉันชอบไปมากกว่าไข้ เพราะมันจะเข้าไปทุกๆ อวัยวะของฉัน และแท้จริงอัลลอฮ์ซบ.ได้ให้โอกาสแก่ทุกๆ อวัยวะที่จะได้รับการอภัยโทษ" มีรายงานของติรมิซีย์ในหนังสือญามิอ์ของท่าน จากรอเฟียะห์อิบนิค่อดีจ ได้กล่าวว่า "เมื่อพวกท่านคนใดคนหนึ่งมีไข้ แท้จริงไข้นั้นเป็นส่วนหนึ่งจากไฟนรก จงดับมันด้วยน้ำเย็นโดยให้ไปอาบน้ำในสายน้ำไหลตอนรุ่งสางก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและให้กล่าวว่า "ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ขอพระองค์ทรงโปรดให้บ่าวของพระองค์หายด้วยเถิด นบีของพระองค์ได้กล่าวไว้สมจริงแล้ว" และให้อาบน้ำให้ทั่วร่างกายวันละสามครั้งเป็นเวลาสามวัน ถ้ายังไม่หายให้ทำต่อไปจนครบห้าวัน ถ้าห้าวันไม่หายให้ทำจนครบเจ็ดวัน ถ้ายังไม่หายให้ทำจนครบเก้าวัน และแท้จริงมันจะไม่เกินเก้าวันด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์" (ระดับอ่อน ติรมิซีย์, 2084)

ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ขอกล่าวว่า การกระทำเช่นนี้มีประโยชน์จริงในประเทศร้อนในหน้าร้อนโดยมีกฎเกณฑ์ตามที่ได้นำเสนอไว้แล้ว และแท้จริงน้ำในช่วงเวลานั้นจะเย็นกว่าแสงแดดที่ร้อนแรง และผู้แข็งแรงก็จะได้ประโยชน์จากมันมากกว่าการนอน ความเงียบสงบ อากาศที่เย็นสบาย เหล่านี้จะเพิ่มพลังให้กับผู้แข็งแรง ทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นนั่นคือน้ำที่เย็นจะช่วยบรรเทาไข้อัรดีะห์ عرضية ให้ลงได้และบรรเทาอาการป่วยไข้ได้ แต่ต้องเป็นไข้ชนิดไม่มีก้อนอักเสบอยู่ และไม่ควรใช้ในเวลามีบาดแผลเน่าเสียอยู่ ถ้าทำได้ดังนี้ก็น่าจะหายป่วยได้ด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์ ซบ.โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยของท่านนบีนั้น ซึ่งเต็มไปด้วยโรคภัยต่างๆ และมีบ้านเรือนอยู่กันหนาแน่น และมีการแพร่กระจายโรคอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่มียาที่ได้ผลดีนั่นเอง

อัพเดทล่าสุด