คุณแม่ต้องอ่าน! ทารกไม่มีผิวหนัง เพราะยาที่แม่กินตอนท้อง


10,056 ผู้ชม

นี่คือสาเหตุของหนูน้อยผู้โชคร้ายรายนี้ เกิดมาไม่มีผิวหนัง


นี่คือสาเหตุของหนูน้อยผู้โชคร้ายรายนี้ เกิดมาไม่มีผิวหนัง

ข้อมูลจากเว็บไซต์ th.theasianparent.com รายงานว่า มี Case study ชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Journal of Pakistan Medical Association ซึ่งทำการศึกษาหาสาเหตุว่าทำไม ทารกรายนี้จึงเกิดมาไม่มีผิวหนัง

หนูน้อยผู้โชคร้าย เกิดมาไม่มีผิวหนัง

ทารกตัวน้อย ได้รับการผ่าคลอดในสัปดาห์ที่ 38 ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากมีสัญญาณภาวะทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ เมื่อคลอดออกมาพบว่ากว่า 90% ของร่างกายหนูน้อยไม่มีผิวหนังปกคลุม ไม่มีเล็บ ไม่มีผม ไม่มีขนตาและคิ้ว ไม่มีหัวนม หูผิดรูป และเห็นเส้นเลือดอย่างชัดเจนเกือบทั้งตัว หนูน้อยมีน้ำหนักตัวเพียง 1.02 กก. และวัดเส้นรอบศีรษะได้เพียง  26.5 cm (ปกติราว 33- 38 cm) และอยู่ในตู้อบได้เพียง 4 วันก็เสียชีวิต

รู้จัก โรคผิวหนัง Aplasia cutis congenita

โรคผิวหนัง Aplasia cutis congenita เป็นภาวะที่ไม่มีผิวหนังปกคลุมตั้งแต่เกิด ซึ่งอาจเกิดเฉพาะที่หรือกระจายตามร่างกายก็ได้ โรคนี้พบได้ไม่บ่อย ส่วนมากตำแหน่งของการเกิดโรคพบบริเวณศีรษะ สามารถพบได้ทุกเชื้อชาติ และไม่ว่าหญิงหรือชาย

หาต้นตอที่ทำให้เกิดความผิดปกติ

แม่ของหนูน้อยมีประวัติผ่าคลอดมาแล้วสองครั้ง โดยลูกทั้งสองปลอดภัยและแข็งแรงดี เธอไม่มีประวัติของโรคอีสุกอีใสหรืองูสวัดในระหว่างตั้งครรภ์ แต่มีประวัติการเป็นโรคตุ่มพองน้ำใสชนิดลึก (pemphigus vulgaris)

โรคตุ่มน้ำพอง pemphigus คืออะไร

พญ.อรยา กว้างสุขสถิตย์ สถาบันโรคผิวหนัง ให้ข้อมูลว่า โรคเพมฟิกัส (pemphigus) เป็นโรคตุ่มน้ำพองเรื้อรังที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ โดยมีการสร้างแอนติบอดี้มาทำลายการยึดเกาะของเซลล์ผิวหนัง ผิวหนังจึงหลุดลอกออกจากกันโดยง่าย ทำให้เกิดอาการตุ่มน้ำพองที่ผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ เป็นโรคที่พบไม่ แต่สามารถพบได้ทุกวัย รวมถึงในเด็ก เพศชายและหญิงมีโอกาสเกิดโรคเท่ากัน

อาการหลักที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์คือ ตุ่มน้ำพอง หรือแผลถลอกเรื้อรังที่บริเวณร่างกาย หรือเยื่อบุ โดยที่ 50 – 70% มีอาการแผลในปากเรื้อรังเป็นอาการแรก ซึ่งอาจนำมาก่อนอาการทางผิวหนังโดยเฉลี่ยประมาณ 5 เดือน โดยทั่วไปจะตรวจไม่พบตุ่มน้ำในช่องปาก มักพบเป็นแผลถลอกที่บริเวณเหงือก กระพุ้งแก้ม หรือเพดานปาก รอยถลอกอาจพบเป็นบางบริเวณหรือกระจายทั่วทั้งปาก ทำให้มีอาการเจ็บปวดมาก และอาจเกิดรอยโรคที่บริเวณกล่องเสียง ทำให้มีอาการเสียงแหบได้

เมื่อแม่ท้องต้องรักษาด้วยยาอันตราย

เธอได้รับการรักษาด้วยยาเพรดนิโซโลน 60 มิลลิกรัม/วันในช่วง 2 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ จากนั้นค่อยๆ ลดปริมาณยาเหลือเพียง 30 มิลลิกรัม/วัน ไปจนตลอดการตั้งครรภ์

นอกจากยากเพรดนิโซโลนแล้ว เธอยังได้รับยา azathioprine 150 มิลลิกรัม/วัน ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์ จากนั้นแพทย์ค่อยๆ ลดปริมาณยาเพรดนิโซโลนลงเหลือเพียง 15 มิลลิกรัมวันเว้นวัน หลังจากที่เธอคลอดลูกแล้ว

บทความแนะนำ รู้ไว้ไม่เสี่ยง! 6 ข้อห้ามสำหรับคนท้อง 1-3 เดือนแรก

  • ยา prednisolone กับคนท้อง

ยาเพรดนิโซโลนถือได้ว่ามีความปลอดภัยในการตั้งครรภ์ เนื่องจากยาผ่านรกในรูป active form เพียง 10 % จากการศึกษาที่ผ่านๆ มาพบว่าการใช้ยา prednisolone ในหญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงต่อพัฒนาการที่ผิดปกติของทารกน้อยมาก

  • ยา azathioprine กับคนท้อง

ส่วนยาอะซาไธโอพรีน เป็นยาที่องค์การอาหารและยาจัดให้อยู่ในประเภท D ซึ่งมีการพิสูจน์แน่นอนแล้วว่ามีผลเสียต่อทารกในครรภ์ทั้งในมนุษย์และสัตว์ทดลอง แต่หากจำเป็นก็สามารถใช้ได้เนื่องจากพบว่าประโยชน์ที่ได้จากการใช้ยานั้นมีมากกว่าความเสี่ยงที่ทารกในครรภ์จะได้รับอันตรายจากยา

เนื่องจากแม่ของหนูน้อยป่วยเป็นโรคที่มีความรุนแรง จึงมีความจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อรักษาอาการผิดปกติของแม่ระหว่างตั้งครรภ์ ทีมนักวิจัยจึงเชื่อว่า การที่แม่ได้รับยา azathioprine ระหว่างตั้งครรภ์ อาจจะเป็นสาเหตุหรือมีโอกาสที่จะทำให้เกิดความผิดปกติของหนูน้อยคนนี้ได้ เนื่องจากมีรายงานในเด็กที่แม่รับประทานยาอะซาไธโอพรีนขณะตั้งครรภ์ พบว่าทารกเจริญเติบโตช้า เพิ่มความเสี่ยงการตายคลอด คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดต่ำ และมีความเสี่ยงที่จะผิดปกติแต่กำเนิด เช่น ศีรษะเล็ก เกิดความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกสันหลัง มือและเท้า ปอด กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ระบบโลหิต เป็นต้น

โรคผิวหนัง ACC

แน่นอนว่า ไม่มีแม่คนไหน หรือหมอคนไหนอยากให้ทารกในครรภ์เป็นอันตรายหรอกค่ะ แต่หากคุณแม่ไม่สบาย ก็มีความจำเป็นต้องใช้ยา ซึ่งยาบางชนิดอาจมีผลต่อทารกในครรภ์ ฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุด คุณแม่ควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงบุคคลหรือสถานที่ที่อาจทำให้ติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย เพื่อให้มั่นใจว่าลูกน้อยในท้องจะเจริญเติบโตและมีสุขภาพแข็งแรงสมกับที่คุณแม่รอคอยค

ที่มา jpma.org.pk, manager.co.th
จากเว็บไซต์ th.theasianparent.com 

อัพเดทล่าสุด