กินอะไรทำให้ “เม็ดเลือดขาว” สมบูรณ์และแข็งแรง


9,099 ผู้ชม


เม็ดเลือดขาว (White blood cells - leukocytes) เป็นเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งคอยป้องกันร่างกายจากทั้งเชื้อก่อโรคและสารแปลกปลอมต่างๆ เม็ดเลือดขาวมีหลายชนิด ทั้งหมดเจริญมาจาก pluripotent cell ในไขกระดูกที่ชื่อว่า hematopoietic stem cell เซลล์เม็ดเลือดขาวเป็นเซลล์ที่พบได้ทั่วไปในร่างกาย รวมไปถึงในเลือดและในระบบน้ำเหลือง

จำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวในเลือดมักใช้เป็นข้อบ่งชี้ของโรคและการดำเนินไปของโรค โดยปกติแล้วในเลือดหนึ่งลิตรจะมีเซลล์เม็ดเลือดขาวอยู่ประมาณ 4×109 ถึง 11×109 เซลล์ รวมเป็นเซลล์ประมาณ 1% ในเลือดของคนปกติ ในบางสภาวะ เช่น ลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) จำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวจะมีปริมาณได้มากกว่าปกติ หรือในภาวะ leukopenia จำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวก็จะน้อยกว่าปกติ คุณสมบัติทางกายภาพของเซลล์เม็ดเลือดขาว เช่น ปริมาตร conductivity และ granularity อาจเปลี่ยนแปลงไประหว่างการกระตุ้นเซลล์ การเจริญของเซลล์ หรือการมีเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว

กินอะไรทำให้ “เม็ดเลือดขาว” สมบูรณ์และแข็งแรง  

คำถาม : อยากทราบว่าต้องกินผลไม้หรือน้ำผลไม้หรืออาหารหรือวิตามินอะไรถึงทำให้เม็ดเลือดขาวสมบูรณ์และแข็งแรงและเพิ่มขึ้น

คำตอบ: คงจะไม่พูดเกี่ยวกับเม็ดเลือดขาว แต่จะพูดโดยรวมถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งเป็นองค์รวมมากกว่าเม็ดเลือดขาว เพราะระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง จะทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคติดเชื้อธรรมดา ทั้งเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคที่เรีย ป้องกันมะเร็ง เนื้องอก จนกระทั่งถึงโรคเอดส์ ซึ่งการที่ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้ ด่านแรกก็ได้มาจากอาหารที่กินอยู่ทุกวัน ซึ่งก็มีทั้งวิตะมิน แร่ธาตุ และสารสำคัญอื่นๆ

อาหารที่สำคัญๆ มีดังนี้

1.โยเกิร์ต - มีผลกระตุ้นการสร้าง gamma interferon

- กระตุ้นการทำงานของ NK cells
- เพิ่มการสร้าง antibodies

โดยมีงานวิจัยพบว่า:

- โยเกิร์ตมีผลกระตุ้นการทำงานของภูมิต้านทาน ได้เทียบเท่ากับการใช้ยา Lavaesole
- การกินโยเกิร์ตวันละ 2 แก้ว นาน 1 เดือน จะทำให้ปริมาณ gamma interferon เพิ่มขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้กินโยเกิร์ต
- ได้มีการทดลองในหนู พบว่า การกินโยเกิร์ตจะทำให้อัตราการเกิดมะเร็งลดลง 1 ใน 3 แม้ว่าเชื้อที่อยู่ในโยเกิร์ตจะถูกทำลายไปถึง 95% ก็ตาม ดังนั้นโยเกิร์ตทั้งชนิดที่เป็น heated yoghurt และ frozen yoghurt แม้ว่าเชื้อจะถูกทำลายไปส่วนใหญ่ ก็ยังมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- การกินโยเกิร์ตวันละ 6 ออนซ์ ก็เพียงพอต่อการป้องกันหวัด ภูมิแพ้ หรือ ท้องเสีย โดยควรกินโยเกิร์ต ชนิดที่ทำจากนมไขมันต่ำ ชนิดที่มี live active cultures ก็จะมีผลกระตุ้นการสร้าง interferon

2. เห็ด Shiitake (น่าจะเป็นเห็ดหอม หรือ เห็นหลินจือ)
มีส่วนประกอบของสาร lentinan ซึ่งมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และต้านไวรัส

3. กระเทียม มีผลกระตุ้นการทำงานของ macrophage ได้มีการเจาะเลือดผู้ที่กินกระเทียมเป็นประจำ พบว่ามีระดับ natural killer cells สูงขึ้น และมีประสิทธิภาพในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ดีกว่าปกติ

4. ผักและผลไม้ทุกชนิด

- พบว่าเม็ดเลือดขาวของนักมังสวิรัติ มีความแข็งแรงมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่า ทำไมนักมังสวิรัติบางคน จึงไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บ
- ผักโขม แครอท kale ฟักทอง ที่อุดมไปด้วยเบต้าคาโรทีน จะมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยมีงานวิจัยพบว่า การกินเบต้าคาโรทีน วันละ 30-60 มิลลิกรัม ทุกวัน จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และเมื่อหยุดให้เบต้าคาโรทีน ระดับภูมิคุ้มกันก็ลดลงจนเหลือเท่ากับก่อนที่จะทำการวิจัย

5. แร่ธาตุสังกะสี

สังกะสี ซึ่งมีมากในหอยนางรม ช่วยในการสร้าง antibody, T-cells และอื่นๆ ซึ่งถ้าร่างกายขาดสังกะสี ภูมิคุ้มกันก็ไม่สามารถทำงานได้

6. จำกัดอาหารจำพวกไขมัน

ไขมันที่มากเกินพอจะกดการทำงานของ natural killer cells ไม่ว่าจะเป็นไขมันสัตว์ หรือ น้ำมันพืชชนิด omega-6 เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย จะมีผลยับยั้งการสร้าง lymphocyte ทำให้การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันลดลง เนื่องจากไขมันชนิด omega-6 จะถูกทำลาย (oxidized) ได้ง่าย เกิดเป็นอนุมูลอิสระที่ทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกาย 
ในขณะที่ไขมันชนิด omega-3 เช่น fish oil, olive oil จะมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ที่มา: นานาสาระเพื่อสุขภาพ

อัพเดทล่าสุด